กรีนพีซ ย้ำกฎหมายพลังงานหมุนเวียนที่เข้มแข็งช่วยสร้างเศรษฐกิจไทยให้ยั่งยืน
งานเสวนา จิบชา ปฏิวัติพลังงาน เห็นพ้องในหลักการประเทศไทยต้องมีกฎหมายพลังงานหมุนเวียนที่เข้มแข็งเพื่อลดละเลิกพลังงานฟอสซิลที่สกปรกและพลังงานนิวเคลียร์ที่เป็นอันตรายเพื่อสร้างรากฐานให้กับเศรษฐกิจสีเขียวที่ยั่งยืนและเป็นธรรม
ทั้งนี้งานเสวนาดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อปิดท้ายมหกรรมปฏิวัติพลังงานผ่านกฎหมายพลังงานหมุนเวียนที่โดมกู้วิกฤตโลกร้อนซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการการรณรงค์ของกรีนพีซที่มาประจำการในประเทศไทยตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ณ ลานราชมังคลากีฬาสถาน
พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมดในการจัดกิจกรรมที่โดมกู้วิกฤตโลกร้อนมาจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และกังหันลมเพื่อแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนนั้นทำได้จริงนอกจากงานเสวนาปฏิวัติพลังงานแล้วกรีนพีซยังจัดฟรีคอนเสิร์ตปฏิวัติพลังงานโดยมีนักร้องชื่อดัง เช่นสิงโต นำโชค และศิลปินอื่นๆอีกมากเข้าร่วม
นางสาวณัฐวิภา อิ้วสกุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า กฎหมายพลังงานหมุนเวียนที่เข้มแข็งเป็นกลไกที่จำเป็นในการขับเคลื่อนการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนและเพื่อเป็นแรงจูงใจส่งเสริมให้ชุมชนและครัวเรือนผลิตพลังงานจากแหล่งทรัพยากรพลังงานหมุนเวียนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังช่วยกู้วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอีกทั้งการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนยังเพิ่มการจ้างงานและลดมลพิษที่เป็นอันตรายได้อีกด้วย
ในขณะที่กระทรวงพลังงานกำลังดำเนินการยกร่างกฎหมายพลังงานหมุนเวียนฉบับแรกของประเทศไทย กรีนพีซได้เชิญชวนคนไทยร่วมลงชื่อเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้ให้เกิดขึ้นจริงและมีความเข้มแข็ง กรีนพีซเรียกร้องให้ออกกฎหมายพลังงานที่เข้มแข็งโดยเร็วบนหลักการขั้นพื้นฐาน 5 ข้อ
คือ 1.รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาและการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและยั่งยืนเป็นอันดับแรกผู้ผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนสามารถเข้าถึงระบบสายส่งก่อนพลังงานอื่นๆ 2. ทุกคน ทุกบ้าน ทุกหย่อมหญ้าสามารถผลิตพลังงานหมุนเวียนเพื่อใช้และขายเข้าสู่ระบบสายส่งไฟฟ้าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในการใช้และผลิตพลังงานหมุนเวียน
3.การบริหารจัดการระบบโครงข่ายไฟฟ้าต้องมีความโปร่งใสและราคาไฟฟ้าที่ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนมีความเป็นธรรม 4.ต้องมีการจัดตั้งกองทุนและพัฒนาศักยภาพและเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนในทุกจังหวัด และเพิ่มอัตราการจ้างงานจากการลงทุนและการดำเนินงานระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและยั่งยืน และ 5.ผู้ใช้ไฟฟ้ามีสิทธิเลือกใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและยั่งยืนแทนไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิล เพื่อสร้างจิตสาธารณะร่วมกันลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม