โรงงานเพียง 3 ราย พบสารเคมี เคมีวัตถุที่รับเข้ามาบำบัดใน โรงบำบัดของเสียโรงงานทั้ง 3 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายประพัฒน์ วนาพิทักษ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายสมคิด แท่นวัฒนกุล รองผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายประทวน สิทธิอำนวยเดช อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ และผู้บริหาร
ร่วมแถลงข่าว การจับกุมผู้ลักลอบปล่อยน้ำเสีย ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ" นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากเหตุรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ในรายการข่าว 3 มิติ ว่ามีการลักลอบทิ้งน้ำเสียปนเปื้อนสารเคมีไปยังแหล่งน้ำสาธารณะต่างๆ สร้างความเสียหายแก่สิ่งแวดล้อมและประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงนั้น
ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้พยายามหาผู้กระทำความผิดโดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ด้วยเทคนิคการตรวจสอบย้อนกลับ (Trace Back) โดยได้สำรวจจากสภาพแวดล้อมจากสถานที่ในข่าวที่นำเสนอ พบว่า น้ำที่ทิ้งออกมามีสาร Phenol ความเข้มระดับสูง
โดยมาจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมบางปู และมีแหล่งข่าวแจ้งว่ามาจากโรงบำบัดของเสีย เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามี โรงงานเพียง 3 ราย เท่านั้น หลังจากตรวจสอบสารเคมี เคมีวัตถุที่รับเข้ามาบำบัดใน โรงบำบัดของเสียโรงงานทั้ง 3 ราย พบว่ามีโรงบำบัดสาร Phenol 1 ราย และพบว่า บริษัท เวสต์ รีโคเวอรี่ เมเนจเมนท์ จำกัด ได้นำเข้าสาร Phenol ประมาณ 1,700 ตัน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2554 ถึง
เดือนเมษายน 2555 ซึ่งผลการวิเคราะห์คุณภาพน้ำรอบโรงงาน พื้นที่จุดต่างๆ ภายในโรงงานพบสาร Phenol ความเข้มสูงระดับ 1,000 PPM และได้ตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำในบ่อน้ำหลังสถานีตำรวจบางปูที่ถูกระบุว่า เป็นแหล่งรับน้ำทิ้ง พบค่า Phenol สูงมากเช่นกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดจับกุมรถบรรทุกน้ำทิ้งจากบริษัท เวสต์ รีโคเวอรี่ เมเนจเมนท์ จำกัด โดยคนขับยอมรับว่ารับน้ำทิ้งจากบริษัทดังกล่าวจริง
จากพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และคำสารภาพของคนขับรถ กรมโรงงานอุตสาหกรรมพิจารณาแล้วพบว่ามีหลักฐานเพียงพอที่จะบ่งชี้ได้ว่า บริษัท เวสต์ รีโคเวอรี่ เมเนจเมนท์ จำกัด เป็นผู้กระทำความผิด จึงได้ส่งสำนวนคดีเพื่อให้ สภ.บางปู ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายประพัฒน์ วนาพิทักษ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้กล่าวถึงมาตรการสำหรับการป้องกันการปล่อยกากของเสียสู่แหล่งน้ำสาธารณะว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมมีมาตรการในการดูแลโรงงานไม่ให้ปล่อยของเสียอยู่ แต่โรงงานบางแห่งอาจละเลยที่จะปฏิบัติตาม
หลังจากนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะเพิ่มความเข้มงวดการออกใบอนุญาตการส่งวัตถุอันตรายออกนอกโรงงาน ทำการตรวจ ติดตามผลการอนุญาตภายหลังการออกใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานทุกราย เพื่อตรวจสอบว่าได้ดำเนินการตามที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ ในส่วนรถขนส่งกากอุตสาหกรรมนั้น ต้องติดเครื่องหมายที่รถ
รวมถึงการติดตั้งระบบ GPS โดยเชื่อมต่อสัญญาณกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากการเพิ่มความเข้มงวดแล้ว กรมโรงงานอุตสาหกรรมยังส่งเสริมให้โรงงานใช้หลัก 3R ในการแยกกาก ซึ่งภาคเอกชนและภาครัฐต้องร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อส่งเสริมให้โรงงานปรับตัวเป็นอุตสาหกรรม สีเขียวและพัฒนาให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศต่อไป