ทูตเกษตรกรุงปักกิ่งชี้ จีนเร่งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มการบริโภคในประเทศตั้งเป้าขยายจีดีพีไม่ต่ำกว่า 7% จะส่งผลดีต่อสินค้าเกษตรไทย
ทูตเกษตรกรุงปักกิ่งชี้ จีนเร่งแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มการบริโภคในประเทศตั้งเป้าขยายจีดีพีไม่ต่ำกว่า 7% จะส่งผลดีต่อสินค้าเกษตรไทย คาดในปี 55 นี้จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10 – 30%
ขณะเดียวกัน ในช่วงเปลี่ยนผ่านผู้นำของรัฐบาลจีนที่สำคัญ คือ การลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีคนเก่าคือนายหูจิ่นเทา และการก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของ นายสีเจิ้นผิง ทำให้จีนจะต้องทำทุกวิถีทางในการรักษาระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไว้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพการบริหารงานประเทศ
ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อสถานการณ์การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยมายังประเทศจีนที่น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ประมาณ 10 – 30 % โดยเฉพาะสินค้าเกษตรในกลุ่มผักและผลไม้ที่มีอัตราการนำเข้ามายังประเทศจีนสูงขึ้นทุกปี โดยในปี 2554 มูลค่าการส่งออกผลไม้สด/แช่เย็น แช่แข็ง แห้ง/อบแห้ง สูงถึง 13,952 ล้านบาท
สำหรับยางพาราที่ขณะนี้อาจจะขยายตัวไม่มากนัก แต่คาดว่าจะมีปริมาณการนำเข้าใกล้เคียงในปีที่ผ่านมา ซึ่งในด้านราคาอาจจะลดลงบ้างจากเดิมที่สามารถขายได้ในราคา 120 -150 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากปัจจัยของราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้มีการใช้ยางสังเคราะห์เข้ามาทดแทน
แต่ยังเชื่อมั่นว่ายางพารายังเป็นสินค้าสำคัญที่จะทำตลาดในจีนได้อย่างต่อเนื่อง จากอัตราการใช้รถยนต์ภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการใช้ยางสำหรับล้อเครื่องบินอีกด้วย
"สินค้าเกษตรของไทยยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดจีนและมีศักยภาพสูงในการครองตลาดและขยายการส่งออกมายังตลาดจีนได้อีกมาก เนื่องจากอุปสงค์ของผู้บริโภคชาวจีนที่เพิ่มขึ้นตามอำนาจซื้ออย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น
และในปี 2555 คาดว่าการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยทุกชนิดมายังจีนจะยังคงขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากจีนตั้งเป้าหมายอัตราความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่าร้อยละ7 จึงคาดว่าจีนจะมีการนำเข้าอาหารและวัตถุดิบการเกษตรจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น” นายสมพงษ์ กล่าว
ภาพประกอบ : foreignpolicy.com