นายกรัฐมนตรีขอให้ใช้เทคโนโลยีต่อยอดการพัฒนาในด้านต่าง ๆ เตรียมความพร้อมประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
เมื่อวัน (3 สิงหาคม 2555) ที่ผ่านมา เวลา 15.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงาน Bangkok International ICT Expo 2012 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 -6 สิงหาคม 2555
สำหรับการจัดงาน Bangkok International ICT Expo 2012 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นการแสดงศักยภาพของประเทศไทยในด้าน ICT รวมทั้งการสร้างทัศนคติให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างสร้างสรรค์ ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558
โดยจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Smart Thailand Toward AEC” หรือ “ไอซีทีก้าวล้ำ นำสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” และกำหนดรูปแบบการจัดงานเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1. ส่วนจัดแสดงนิทรรศการ 2.ส่วนแสดงสินค้า 3. ส่วนการประชุมสัมมนา และ4. ส่วนกิจกรรมการแสดงต่าง ๆ เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งจากประเทศสหรัฐอเมริกา และทางยุโรป นั้น ได้ส่งผลในทางที่ดีต่อประเทศในภูมิภาคเอเชียที่จะเป็นขั้วอำนาจใหม่ทางเศรษฐกิจโลก
ดยเฉพาะประเทศจีนและอินเดียจะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมและบริการในอนาคต ขณะที่ภายในปี 2558 ภูมิภาคอาเซียนจะรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายลักษณะทั้งการเคลื่อนย้ายแรงงาน ธุรกิจ อุตสาหกรรม การลงทุน การศึกษา ภาษา วัฒนธรรม ข้อมูลและความรู้ ฯลฯ
ทั้งนี้ในส่วนของข้อมูลความรู้นั้น โครงข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญ ที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่โลกของการสื่อสาร นอกจากปัจจัยทางโครงสร้างพื้นฐาน แรงงาน ตลอดจนธุรกิจ ที่จะมีการเคลื่อนย้ายแล้ว
เนื่องจากปัจจัยข้อมูลความรู้เป็นปัจจัยที่จะเอื้อให้ประเทศไทยพัฒนา และยกระดับพื้นฐานทางด้านคมนาคมหรือการสื่อสารไปสู่ศักยภาพที่สูงขึ้น รวมทั้งเพื่ออำนวยความสะดวก การเสริมประสิทธิภาพคุณภาพชีวิต และสามารถที่จะนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาเป็นองค์ประกอบของการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สำหรับการการจัดงานครั้งนี้ เป็นการแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทยในอนาคต แสดงถึงวิสัยทัศน์ในการใช้ ICT ให้เป็นพลังในการขับเคลื่อนประเทศไทย ทั้งเรื่องของการจัดตั้งหน่วยงานบรอดแบรนด์แห่งชาติ การขยายโครงสร้างพื้นฐานของโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือการพัฒนาการให้ บริการในด้านต่างๆ เช่น การขยายโครงข่ายการศึกษาไปยังพื้นที่ห่างไกล การบริการทะเบียนราษฎร์ออนไลน์ และการบริการระบบศูนย์ข้อมูลการเกษตร เป็นต้น
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและการสื่อสารว่า ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีและการสื่อสารให้มีการยกระดับกระจายไปสู่ประชาชนให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงองค์ความรู้โดยการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้
นอกจากนี้รัฐบาลยังมีนโยบายที่ต้องการให้ประชาชน ภาคเอกชน และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ใช้เทคโนโลยีเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาอุตสาหกรรม และบริการต่าง ๆให้ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้มีนโยบาย Free Wi-fi โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพื่อประโยชน์สาธารณะ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในกรุงเทพมหานคร และทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในพื้นที่สาธารณะ
อาทิ โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า สถานีขนส่ง ปั๊มน้ำมัน สนามบิน และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ โดยจะมีการเปิดตัวโครงการในวันนี้ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ของภาคประชาชนให้สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกันทุกพื้นที่
โครงการบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี Wi-Fi โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพื่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบายของรัฐบาลภายใต้นโยบายหลัก SMART THAILAND ที่มุ่งหวังให้ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ มีโอกาสได้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตกันอย่างทั่วถึงทุกคนทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิน
มากกว่า 200,000 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัดทั่วประเทศ ก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน อีกทั้งยังจะสร้างโอกาสในการเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย ให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการดำรงชีวิตประจำวัน และการประกอบอาชีพของตนเองด้วย