บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขยายธุรกิจต้นน้ำ เตรียมก่อสร้าง 3 โรงงานใหม่ ผลิตอีเทนแครกเกอร์ LDPE และ LLDPE เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต เสริมความแข็งแกร่งและศักยภาพของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไทย นับได้ว่าเป็นการพัฒนาที่สำคัญก้าวใหม่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไทย โดยเฉพาะในส่วนที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ เป็นการสนองนโยบายการใช้ก๊าซธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด 

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวหลังจากเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงงานใหม่ทั้ง 3 แห่ง ว่า "การก่อสร้างทั้งสามโรงงานใหม่นี้  นับได้ว่าเป็นการพัฒนาที่สำคัญก้าวใหม่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไทย โดยเฉพาะในส่วนที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบซึ่งเป็นการสนองนโยบายการใช้ก๊าซธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด  โครงการผลิตเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำและความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น LDPE และ LLDPE นี้จะสามารถสนองความต้องการทั้งภายในประเทศและในภูมิภาค และช่วยสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทย รวมทั้งเป็นการลงทุนที่จะส่งผลให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมในประเทศ"

นายอดิเทพ พิศาลบุตร์  กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "โรงงานใหม่นี้ เป็นก้าวสำคัญในแผนการพัฒนาธุรกิจของเราให้ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์ต้นน้ำและปลายน้ำ และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาธุรกิจต่อเนื่องครบวงจร ผลผลิตจากโรงงานทั้งสาม นอกจากจะช่วยสนองความต้องการของผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ในประเทศแล้ว ยังจะช่วยลดความผันผวนในด้านราคาผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งช่วยให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีภายในประเทศของเรามีความแข็งแกร่ง พึ่งพาตนเองได้ และมีความพร้อมที่จะพัฒนาทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั้งต้นและปลายน้ำอย่างครบวงจรได้ต่อไป"

โรงงานทั้ง 3 แห่งได้แก่ โครงการอีเทนแครกเกอร์ (Ethane Cracker) โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ LDPE และโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น LLDPE โรงงานทั้งสามแห่งตั้งอยู่ใน นิคมอุตสาหกรรมผาแดง ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมือง จ.ระยอง คาดว่าจะสามารถก่อสร้างโครงการทั้ง 3 แห่งเสร็จและพร้อมเดินเครื่องได้ในไตรมาส 4 พ.ศ. 2552  ทั้งนี้บริษัท พีทีที โพลีเอทิลีน จำกัด ซึ่งถือหุ้น 100% โดย บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) จะเป็นผู้ดำเนินการทั้ง 3 โครงการต่อไป

นายขับพล ศักดิ์สุภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที โพลิเอทิลีน จำกัด กล่าวว่า โครงการอีเทน แครกเกอร์ จะเป็นโรงงานผลิตก๊าซโอเลฟินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเมื่อก่อสร้างเสร็จ โดยมีกำลังการผลิตเอทิลีนประมาณ 1 ล้านตันต่อปี และผลิตโพรไพลีนประมาณ 30,000 ตันต่อปี  โรงงานดังกล่าวจะใช้อีเทนจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 ของปตท. รวมประมาณ 1,350,000 ตันต่อปีเป็นวัตถุดิบในการผลิต

หลังจากนั้นโรงงานอีเทนแครกเกอร์จะผลิตเอทิลีนป้อนให้แก่โรงงาน LDPE เพื่อผลิตเม็ดพลาสติก LDPE ประมาณ 300,000 ตันต่อปี และผลิตเม็ดพลาสติก LLDPE อีก 400,000 ตันต่อปี ส่วนเอทิลีนที่เหลือก็จะส่งขายไปยังโรงงานเม็ดพลาสติกอื่น ๆ ในประเทศรวมทั้งส่งออกไปยังต่างประเทศ