คาสตรอล เร่งเต็มสปีด ชู 3 กลยุทธ์ความสำเร็จ นั่งแท่นครองแชมป์น้ำมันหล่อลื่นพรีเมียมยานยนต์
บีพี-คาสตรอล ผู้นำตลาดน้ำมันหล่อลื่นเกรดพรีเมี่ยม เผย 3 กลยุทธ์ความสำเร็จนั่งแท่นแบรนด์น้ำมันหล่อลื่นยอดนิยมในใจผู้บริโภคที่กว่า 98% ของผู้บริโภครู้จักคุ้นเคยกับแบรนด์คาสตรอล และ 1 ใน 3 มั่นใจเลือกใช้คาสตรอลเป็นแบรนด์ในใจ ชู “นวัตกรรมสุดล้ำ” ตอบโจทย์ความคุ้มค่าทั้งราคาและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเพื่อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โฟกัส “การทำตลาดโดนใจ” สื่อสารตรงจุดและรู้ทันตลาด ให้ความสำคัญสปอร์ตไลฟ์สไตล์-อัดโปรโมชั่นแรง ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค ควบคู่ “เดินหน้าสร้างเครือข่ายพันธมิตร” ตั้งเป้าฉลองไบท์พอยท์มากกว่า 2,000 แห่ง และออโต้ เซอร์วิส 1,200 แห่งภายในสิ้นปี เสริมแกร่งแบรนด์อิมเมจ-สร้างความมั่นใจคุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริการที่เหนือชั้นครอบคลุมทั่วไทย
นายสุมีท วัดวา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท บีพี-คาสตรอล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “กว่า 40 ปีที่คาสตรอลมุ่งมั่นขยายตลาดน้ำมันหล่อลื่นคุณภาพสูงในประเทศไทย บริษัทประสบความสำเร็จด้วยยอดขายที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนิน 3 กลยุทธ์การตลาด ทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ โดยเน้นการนำนวัตกรรมที่ล้ำหน้าผสานกับการสร้างสรรค์ แคมเปญการตลาดที่โดนใจ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างลงตัว ร่วมด้วยการขยายเครือข่าย พันธมิตร ซึ่งล้วนเกื้อหนุนกันตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง”
บีพี-คาสตรอล มีความโดดเด่นซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นยานยนต์ในการคิดค้น ‘นวัตกรรมสุดล้ำ’ โดยทีมวิจัยระดับโลก ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการในการดูแลและปกป้องเครื่องยนต์ได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ ซึ่งผลิตภัณฑ์ ‘แม็กนาเทค’ เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ได้รับการแนะนำสู่ตลาดรถยนต์เมื่อปลายไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
ด้วยคุณสมบัติเด่นของน้ำมันหล่อลื่นที่อัดแน่นด้วยโมเลกุลอัจฉริยะซึ่งทำหน้าที่เป็นชั้นฟิล์มคล้ายแม่เหล็กคอยปกป้อง ยึดเกาะสมานกับชิ้นส่วนเครื่องยนต์ช่วยลดการสัมผัสและเสียดสีของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ ขณะสตาร์ทและอุ่นเครื่อง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดการสึกหรอมากที่สุดกว่า 75% ทำให้สามารถปกป้องเครื่องยนต์ทันทีที่สตาร์ท และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังได้มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของเทรนด์ตลาดรถจักรยานยนต์โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 4 จังหวะ และเครื่องยนต์ออโต้ ที่คาดว่าจะมีมากถึง 23 ล้านคัน ภายในปี 2560 อีกด้วย
“เราไม่เคยหยุดนิ่งในการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสู่งออกสู่ตลาดผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็สร้างสรรค์แคมเปญการตลาดเพื่อสื่อสารแบรนด์คอนเซปต์ ตอกย้ำให้ผู้บริโภครับรู้และเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ควบคู่กัน เช่น การจำลองพื้นผิวชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่ใช้ ‘แม็กนาเทค’ ซึ่งเรียบกว่าของเครื่องยนต์ที่น้ำมันหล่อลื่นทั่วไปถึง 15 เท่า บนฉลากบรรจุภัณฑ์เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสิทธิภาพการปกป้องได้ด้วยตัวเอง รวมถึงแคมเปญที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่หลากหลาย เช่นแคมเปญ “คาสตรอล ส่งคุณเชียร์ติดขอบสนามบอลยูโร 2012” ที่สร้างความคึกคักให้กับตลาดอย่างสูง
โดยได้รับการตอบรับอย่างสูงจากผู้บริโภคทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ส่งฉลากคาสตรอล เอจ และคาสตรอลฝาแดง เข้ามาร่วมชิงรางวัลแพ็คเกจทัวร์มากกว่า/เทียบเท่าแคมเปญช่วงเทศกาลฟุตบอลโลกเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาถึง 2 เท่า” นายสุมีท กล่าว
อย่างไรก็ตาม ‘การเดินหน้าสร้างเครือข่ายพันธมิตร’ ก็ถือเป็นกลไกสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์อิมเมจและความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ในการกระจายผลิตภัณฑ์คาสตรอลให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านพันธมิตรหลักกว่า 30 บริษัท เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยัง ‘ไบท์พอยท์’ ‘ออโต้ เซอร์วิส’ ซึ่งเป็นศูนย์บริการในเครือข่ายของคาสตรอล และร้านค้าย่อยต่างๆ ด้วยมาตรฐานการบริการและราคาเดียวกัน ซึ่งภายในปี 2555 นี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถขยาย ‘ไบท์ พอยท์’ ศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถจักรยานยนต์ให้ได้ 2,000 แห่ง และ ‘ออโต้ เซอร์วิส’ ศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์ให้ครบ 1,200 แห่ง ได้อย่างแน่นอน