นวัตกรรมระบบลิฟต์ภายในอาคารอัจฉริยะ เปิดประสบการณ์ใช้งานรูปแบบใหม่ เสริมประสิทธิภาพการจัดการสัญจร, ระบบความปลอดภัย และประหยัดพลังงาน
ชินด์เล่อร์ ผู้นำในการให้บริการระบบลิฟต์ระดับโลก เปิดตัวนวัตกรรมระบบจัดการขนส่งภายในอาคารใหม่ล่าสุด “พอร์ต” (Personal Occupant Requirement Terminal - PORT) ในประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบจัดการจราจรขึ้นลงและบริการเฉพาะบุคคลภายในอาคารสูงที่ปฏิวัติรูปแบบการขนส่งภายในอาคารด้วยระบบที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลและมอบความปลอดภัยเต็มพิกัด
นางสุวรรณา กองกาญจนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จาร์ดีน ชินด์เล่อร์ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงความต้องการระบบอาคารอัจฉริยะในประเทศไทยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งผู้พัฒนาอาคารและสถาปนิกต่างค้นหาเทคโนโลยีทันสมัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรภายในอาคารและมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น
เทคโนโลยีพอร์ต (PORT) จึงเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เข้ามาพลิกโฉมระบบลิฟต์ให้กลมกลืนกับอาคารประสิทธิภาพสูง การนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาผสานกับขั้นตอนการออกแบบอาคารทำให้เจ้าของอาคาร, สถาปนิก และผู้บริหารโครงการสามารถให้บริการที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้อย่างแท้จริง”
เปลี่ยนรูปแบบสู่ระบบขนส่งยุคใหม่ พอร์ต เป็นนวัตกรรมระบบควบคุมการจราจรขึ้นลงภายในอาคารรุ่นที่ 3 ที่ได้รับการพัฒนาและบุกเบิกโดยชินด์เล่อร์ โดยระบบจะจัดกลุ่มผู้โดยสารที่ต้องการไปชั้นเดียวกันหรือชั้นใกล้เคียงให้อยู่ในลิฟต์ตัวเดียวกันเพื่อลดการจอดของลิฟต์หลายๆ ครั้งระหว่างทาง จึงช่วยให้ผู้โดยสารไปถึงจุดหมายปลายทางได้รวดเร็วขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการจราจรได้มากถึงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับระบบลิฟต์แบบดั้งเดิม
ชูจุดแข็งด้วยเทคโนโลยีสีเขียว
นางสุวรรณา กล่าวเสริมว่า “นอกเหนือจากระบบความปลอดภัย, ความสวยงามและการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นแล้ว อาคารสูงแห่งอนาคตก็ยังมองถึงเป้าหมายของการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีพอร์ตคือคำตอบที่ช่วยให้เจ้าของอาคารและสถาปนิกบรรลุวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้ในคราวเดียวกัน”
ฟังก์ชั่นควบคุมการใช้พลังงาน หรืออีซีโอ (Energy Control Option - ECO) ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพอร์ต จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานให้กับลิฟต์โดยสารโดยเฉพาะในช่วงที่พ้นจากชั่วโมงเร่งด่วน ฟังก์ชั่นอีซีโอจะจัดกลุ่มให้ลิฟต์จำนวนหนึ่งเข้าสู่โหมดแสตนด์บาย (Standby) และลิฟต์เครื่องที่เหลือยังคงรับส่งผู้โดยสารซึ่งมีจำนวนน้อยในช่วงเวลาดังกล่าว
ในเวลาที่ไม่มีการใช้งาน พอร์ตจะเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานโดยอัตโนมัติ โดยจอแสดงผลจะดับลงเพื่อลดการใช้พลังงาน และพอร์ตจะทำงานอีกครั้ง เมื่อระบบเซ็นเซอร์พบว่ามีผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการ แต่หากเป็นช่วงเวลาอื่นๆ ที่ไม่มีผู้โดยสาร ระบบจะเข้าสู่โหมดการประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ จอแสดงผลยังสามารถปรับระดับความสว่างได้โดยอัตโนมัติ โดยระบบเซ็นเซอร์แสงที่ติดตั้งไว้จะปรับระดับความสว่างตามความเหมาะสมต่อการใช้งานเพื่อการใช้พลังงานที่คุ้มค่ามากที่สุด
เสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้งาน
ด้วยเทคโนโลยีพอร์ต ผู้โดยสารเพียงแตะบัตร (Access Card) ที่จุดรับสัญญาณ (PORT Terminal) ระบบจะแสดงรายการชั้นที่ผู้โดยสารมีสิทธิเดินทางไปเพื่อให้ผู้โดยสารเลือกชั้นที่ต้องการได้อย่างสะดวกและระบบจะประมวลผลเส้นทางที่เร็วที่สุด และเลือกลิฟต์ที่เหมาะสมให้กับผู้โดยสารเพื่อไปยังชั้นจุดหมายปลายทาง
พอร์ต สามารถเรียนรู้และปรับเข้ากับรูปแบบการใช้งานเฉพาะของผู้โดยสารแต่ละคนได้จากความถี่ของการเดินทางไปยังชั้นจุดหมายปลายทาง เพื่อให้บริการที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด
“เทคโนโลยีพอร์ตช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การสื่อสารทั้งข้อมูลภาพและเสียงผ่านจอแสดงผลซึ่งไม่เพียงเอื้อประโยชน์และความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้แต่เทคโนโลยีพอร์ตยังช่วยให้การบริหารจัดการอาคารมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยการกระจายข้อมูลสำคัญๆ ผ่านจอแสดงผลเมื่อมีความจำเป็น อาทิ กรณีฉุกเฉิน” นางสุวรรณากล่าว
เพียบพร้อมด้วยดีไซน์ทันสมัย
เทคโนโลยีพอร์ต ผสานการออกแบบให้เข้ากับรูปแบบการใช้งาน โดยผลิตขึ้นจากวัสดุที่ทำจากแก้วและกระจก ซึ่งออกแบบมาทั้งในรูปแบบติดผนังที่มีดีไซน์ล้ำสมัย และแบบแท่นที่โดดเด่น ซึ่งสอดคล้องกับความนิยมในการใช้กระจกเป็นองค์ประกอบในการออกแบบอาคารที่มีอยู่ในปัจจุบันตามแนวโน้มของสถาปัตยกรรมทั่วโลก เทคโนโลยีพอร์ต สามารถติดตั้งในโครงสร้างอาคารใหม่หรืออาคารที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นตึกระฟ้า, อาคารสำนักงานอัจฉริยะ, คอนโดมิเนียมหรู, โรงแรม, อาคารมหาวิทยาลัย หรือโรงพยาบาล
ปาร์คเวนเชอร์ ระบบพอร์ตแห่งแรกในไทย
เทคโนโลยีพอร์ต ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า, สถาปนิก, ผู้พัฒนาอาคาร และที่ปรึกษา จากทั่วโลก และได้ติดตั้งในอาคารสูงชั้นนำในหลายประเทศ อาทิ ปาร์คเวนเชอร์ (Park Ventures) ในกรุงเทพฯ, อินเตอร์เนชั่นแนล คอมเมิร์ซ เซ็นเตอร์ (International Commerce Centre) ในฮ่องกง, อินทริกรา ทาวเวอร์ (Integra Tower) ในมาเลเซีย, เฮอรอน ทาวเวอร์ (Heron Tower) ในกรุงลอนดอน, ดอยซ์ แบงค์ (Deutsche Bank) ในกรุงแฟรงค์เฟิร์ต และไฮแอท รีเจนซี่ (Hyatt Regency) ในเมืองนิวออร์ลีนส์ ปาร์คเวนเชอร์ (Park Ventures) เป็นอาคารอัจฉริยะแห่งอนาคต และอิโคเพล็กซ์ ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ และพรั่งพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัย
นายธนพล ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ปาร์คเวนเชอร์ เป็นอาคารอัจฉริยะที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดสถาปัตยกรรมล้ำสมัย และมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยดังนั้น บริษัทฯจึงต้องการระบบลิฟต์ที่ล้ำสมัยสามารถขนส่งผู้โดยสารได้ต่อเนื่องตลอดเวลาและพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ หลังจากศึกษาหลากหลายเทคโนโลยี เราก็พบว่า เทคโนโลยีพอร์ต คือคำตอบของเรา”
เทคโนโลยีพอร์ต ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถใช้บริการลิฟต์อย่างง่ายดายด้วยหน้าจอระบบสัมผัสดีไซน์ล้ำสมัยและบัตรผ่านที่ตั้งโปรแกรมล่วงหน้า (Pre-programmed Access Card) ตอบรับแนวคิดของอาคารปาร์คเวนเชอร์ที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเข้ากับโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่สวยงามได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญสูงสุดกับการลดใช้พลังงานเช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ติดตั้งและใช้ในอาคารปาร์คเวนเชอร์
เทคโนโลยีพอร์ต ถือเป็นก้าวย่างสำคัญของระบบขนส่งในแนวดิ่งแห่งอนาคต และสร้างประสบการณ์การใช้งานรูปแบบใหม่ที่อำนวยความสะดวกในการจราจรภายในอาคารให้รวดเร็วและราบรื่น รวมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย