กลุ่มปิโตรเคมี เดินหน้าแก้ปัญหามลพิษในนิคมอุตสาหกรรมาบตาพุดไปได้ระดับหนึ่ง คาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะ(เฟส)ที่ 3 สามารถลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดต่อไปได้ หากย้ายไปลงทุนในแถบภาคใต้(เซาเทิร์นซีบอร์ด)คงไม่ทัน
นายศุภชัย วัฒนางกูร ประธานกลุ่มปิโตรเคมี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เอกชนในกลุ่มปิโตรเคมีเดินหน้าแก้ปัญหามลพิษในนิคมอุตสาหกรรมาบตาพุดไปได้ระดับหนึ่งแล้ว คาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมปิโตรเคมีระยะ(เฟส)ที่ 3 สามารถลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดต่อไปได้ เพราะพิจารณาแล้วหากจะย้ายไปลงทุนในแถบภาคใต้(เซาเทิร์นซีบอร์ด)คงไม่ทัน เพราะการพัฒนาเซาเทิร์นซีบอร์ดให้สามารถรองรับอุตสาหกรมต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7 ปี ในขณะที่ปิโตรเฟส 3 คาดว่าจะเต็มโครงการ 3 แสนล้านบาทในอีก 7-10 ข้างหน้า ดังนั้นทางที่ดีคือเอกชนในเขตมาบตาพุดต้องช่วยกันแก้ปัญหามลพิษจนให้เป็นที่ยอมรับ หลังจากนั้นการลงทุนใหม่ๆ คงสามารถเดินหน้าต่อไป แต่ภาครัฐต้องเตรียมแหล่งน้ำรองรับไว้ด้วย |
นายศุภชัย กล่าวว่า ปัญหาการขยายการลงทุนในเขตนิคมอุตสาหกรรมาบตาพุดทั้งในเรื่องของมลพิษ และในเรื่องน้ำภาคอุตสาหกรรม ทำให้ขณะนี้มีเอกชนหลายรายเริ่มมองการย้ายฐานปิโตรเคมีไปยังต่างประเทศ อาทิ ในเมืองเชี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ส่วนในเวียดนาม ยังไม่เป็นที่สนใจของเอกชนเท่าใดนัก เพราะก๊าซธรรมชาติที่เป็นวัตถุดิบสำคัญเหมาะที่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงมากกว่าการนำมาผลิตปิโตรเคมี และต้นทุนสูงกว่าไทย |
ที่มา : ข่าวสด |