รมช.พาณิชย์ ระบุยอดจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เพิ่มสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นผลมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาพบว่าการจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่มากกว่าการเลิกกิจการถึง 5 เท่า เป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดว่าการจดทะเบียนธุรกิจจะเพิ่มสูงขึ้นในเดือนต่อ ๆ ไป
เว็บไซต์สำนักข่าวแห่งชาติ รายงานว่า นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงสถิติยอดการจดทะเบียนธุรกิจในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศจำนวน 4,906 ราย มีเงินทุนจดทะเบียนจำนวน 24,078 ล้านบาท โดยสถิติจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจทั่วประเทศเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 1 และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 21 ทั้งนี้ การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ที่เพิ่มขึ้น เป็นไปในทิศทางเดียวกับภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับการจดทะเบียนเลิกกิจการทั่วประเทศในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีจำนวน 948 ราย เงินทุนจดทะเบียน 4,520 ล้านบาท ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ร้อยละ 42 ของการเลิกกิจการ เกิดจากการไม่ได้โควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล หุ้นส่วนขัดแย้ง หุ้นส่วนเสียชีวิต เป็นต้น อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบสัดส่วนธุรกิจที่จัดตั้งใหม่กับจดทะเบียนเลิกกิจการในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีสัดส่วนเท่ากับ 5 ต่อ 1 ซึ่งเป็นการจัดตั้งใหม่มากกว่าการเลิกกิจการถึง 5 เท่า โดยคาดว่าการจดทะเบียนธุรกิจจะเพิ่มสูงขึ้นในเดือนต่อ ๆ ไป