หอการค้าไทย แนะรัฐบาล ไม่ควรต่อมาตรการตรึงราคาสินค้า ระบุ ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2555 จะอยู่ในกรอบของกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งไว้ ร้อยละ 3.2 - 3.8
หอการค้าไทย แนะรัฐบาล ไม่ควรต่อมาตรการตรึงราคาสินค้า ระบุ ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2555 จะอยู่ในกรอบของกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งไว้ ร้อยละ 3.2 - 3.8
เว็บไซต์สำนักข่าวแห่งชาติ รายงานว่า นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาสินค้าขณะนี้ เริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มปรับตัวลดลงบ้างแล้ว เพราะอยู่ในมาตรการการขอความร่วมมือผู้ประกอบการในการตรึงราคาสินค้าไปอีก 4 เดือน
ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนกันยายนนี้ ประกอบกับราคาน้ำมันที่ทยอยปรับลดลง รวมทั้งในช่วงสินค้าราคาแพง จะเป็นแรงกดดันไม่ให้ประชาชนใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้น้อย ถือว่ารัฐบาลได้ใช้แผนรับมือในแก้ปัญหาค่ารองชีพเป็นอย่างดี โดยหากสิ้นสุดระยะเวลาการขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าจากผู้ประกอบการในเดือนกันยายนนี้แล้ว รัฐบาลควรเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการปรับขึ้นราคาสินค้าตามภาวะต้นทุนที่แท้จริง
นายธนวรรธน์ กล่าวด้วยว่า มาตรการดูแลอาหารปรุงสำเร็จของกระทรวงพาณิชย์ ที่ออกราคาแนะนำอาหาร 7 รายการนั้น จะเป็นการเปิดช่องทางให้มีการเข้าไปดูแลต้นทุนทั้งระบบ รวมไปถึงค่าเช่าพื้นที่ด้วย และจะเป็นทางเลือกให้กับประชาชน เช่นเดียวกับแผนการศึกษาโครงสร้างต้นทุนราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพจะทำให้ราคาสินค้าอยู่ในระดับราคาที่สมเหตุสมผลในแต่ละช่วง
ทั้งนี้ มาตรการต่างๆ ที่ออกมาจะสามารถแก้ไขปัญหาค่าครองชีพได้บางส่วนเท่านั้น โดยหอการค้าไทย มองว่า อัตราเงินเฟ้อ เฉลี่ยไปจนถึงเดือนกันยายนนี้ จะอยู่ในกรอบร้อยละ 2.4 - 2.5 และเชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2555 จะอยู่ในกรอบของกระทรวงพาณิชย์ที่ตั้งไว้ ร้อยละ 3.2 - 3.8