คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นท่าอากาศยานสำรองลดความแออัดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นท่าอากาศยานสำรองลดความแออัดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เว็บไซต์สำนักข่าวแห่งชาติ รายงานว่า นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบโครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อเพิ่มศักยภาพส่งเสริมกิจการขนส่งทางอากาศ บรรเทาความแออัดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นท่าอากาศยานสำรองกรณีเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ก
ารเพิ่มรายได้ และลดการขาดทุนสะสมของท่าอากาศยานดอนเมือง ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลัก รองรับเที่ยวบินเต็มรูปแบบและเที่ยวบินที่มีการเชื่อมต่อ ในการส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค ขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นท่าอากาศยานรองรับสายการบินต้นทุนต่ำ
และเส้นทางการบินในประเทศและระหว่างประเทศแบบจุดต่อจุด บนหลักการของความสมัครใจของแต่ละสายการบิน ที่ต้องการใช้ท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งให้กระทรวงต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มศักยภาพ รองรับสายการบินที่จะย้ายมาให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ใช้ท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง แสดงศักยภาพอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารให้มากที่สุด โดยเฉพาะการประสานงานระหว่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกับท่าอากาศยานดอนเมือง
สำหรับการใช้บริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้ใช้บริการมากกว่า 47 ล้านคนต่อปี ส่วนการนำสายการบินกลับมาให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมืองมี 14 สายการบิน เป็นสายการบินพาณิชย์ที่บินตามตารางการบิน และสายการบินแบบเช่าเหมาลำ
โดยจะมีแนวทางปรับปรุงดอนเมืองตามแผนงานของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. คาดใช้งบประมาณ 1,600 ล้านบาท ทั้งการปรับปรุงผิวรันเวย์ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก การปรับปรุงสาธารณูปโภคต่างๆ
ทั้งนี้ หากสายการบินกลับมาให้บริการเพิ่มมากขึ้น จะลดปริมาณผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ปีละ 7-8 ล้านคน ซึ่งตามแผนงานจะมีพิธีเปิดใช้สนามบินดอนเมืองอย่างไม่เป็นทางการเดือนสิงหาคม และจะเปิดอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบเดือนตุลาคมนี้