แสนสิริ เดินหน้าเปิดโรงงานพรีคาสท์แห่งแรก ผลิตแผ่นสำเร็จรูป ใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยแทนการก่ออิฐ ฉาบปูนหรือการขึ้นรูปสำเร็จในไซด์งาน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบ Semi Automated Carousel System
แสนสิริ เดินหน้าเปิดโรงงานพรีคาสท์แห่งแรก ผลิตแผ่นสำเร็จรูป ใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยแทนการก่ออิฐ ฉาบปูนหรือการขึ้นรูปสำเร็จในไซด์งาน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบ Semi Automated Carousel System
แสนสิริ เดินหน้าเปิดโรงงานพรีคาสท์แห่งแรกของแสนสิริภายใต้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Semi Automated Carousel System ทันสมัยที่สุดจากประเทศเยอรมัน ชูจุดเด่นด้านความแม่นยำในการกำหนดชิ้นงาน, ทำงานได้รวดเร็ว ลดระยะเวลาการก่อสร้าง และลดการใช้แรงงาน รวมทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตให้มีความคล่องตัวสูง รองรับการดีไซน์แบบบ้านสไตล์แสนสิริในอนาคต อัตราการผลิต 52,000 ตร.ม./เดือน หรือประมาณ 150 หลัง/เดือน
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงทุนพัฒนาโรงงานพรีคาสท์ ภายใต้พื้นที่ของโรงงานทั้งหมด 107 ไร่ ทำการก่อสร้างในเฟสแรกประมาณ 47 ไร่ ในพื้นที่บริเวณลำลูกกา คลอง 10 จ.ปทุมธานี โดยใช้งบลงทุนก่อสร้างและนำเข้าเครื่องจักรประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อผลิตแผ่นสำเร็จรูป ใช้ในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยแทนการก่ออิฐ ฉาบปูนหรือการขึ้นรูปสำเร็จในไซด์งาน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบ Semi Automated Carousel System ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดจากประเทศเยอรมัน
โดยกระบวนการผลิตทุกสถานีควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์และมีการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้ในการประกอบแบบข้าง (Shuttering Robot) เพื่อให้เกิดความแม่นยำในการกำหนดขนาดชิ้นงานพรีคาสท์ ทำงานได้รวดเร็ว ประหยัดเวลาและลดระยะเวลาการก่อสร้าง รวมถึงลดการพึ่งพาแรงงานฝีมือ ซึ่งจะทำให้แสนสิริสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้นอีกด้วย
ภายในโรงงานควบคุมด้วย Automatic Pallet Stacker หรือระบบคอมพิวเตอร์ในการบริหารจัดการลำดับชิ้นงานสำเร็จรูป เพื่อสนับสนุนการขนส่งและติดตั้งในระบบ JIT (Just in time) มีอัตรากำลังการลิตสูงสุดประมาณ 52,000 ตรม. ต่อเดือนหรือประมาณ 150 หลังต่อเดือน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทรวมทั้งจะช่วยทำให้บริษัทสามารถส่งมอบบ้านได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นจากแผนการขยายธุรกิจ เพื่อให้สามารถรองรับทุกความต้องการที่อยู่อาศัยและครอบคลุมทุกเซกเมนต์ โดยปัจจุบันแสนสิริมีจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวนทั้งสิ้น 63 โครงการ มูลค่าโครงการรวมถึงประมาณ 76,412 ล้านบาท
นอกจากนี้ในปี 2555 บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่อีก 44 โครงการใหม่ ที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ในทุกทำเล มูลค่าโครงการรวมกว่า 46,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 19 โครงการ บ้านเดี่ยวจำนวน 15 โครงการ และทาวน์เฮาส์ จำนวน 10 โครงการ ด้วยการขยายธุรกิจที่ยิ่งใหญ่และรวดเร็ว ทำให้แสนสิริตัดสินใจขยายกำลังการผลิตที่อยู่อาศัย โดยโรงงานพรีคาสท์ของแสนสิริจะเริ่มเดินหน้ากำลังการผลิตอย่างเต็มที่ตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ เป็นต้นไป
รวมทั้งวางเป้าหมายในการผลิตชิ้นงานพรีคาสท์เพื่อใช้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ รวมทั้งคอนโดมิเนียมในอนาคต ทั้งนี้บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2555 น่าจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง รวมทั้งบริษัทมีโครงการคอนโดมิเนียมที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้อีกกว่า 14 โครงการ ซึ่งบางโครงการยังสามารถโอนกรรมสิทธ์ได้เร็วกว่ากำหนดอีกด้วย แม้จะได้รับผลกระทบจากการหยุดการก่อสร้างในช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมในปีที่ผ่านมาก็ตาม” นายวันจักร์ กล่าว