เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยโฉม รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งใหม่ The new Viano สำหรับครอบครัว พร้อมด้วย The new Vito 11 ที่นั่ง สำหรับนักธุรกิจและบุคคลสำคัญ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เผยโฉม รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งใหม่ The new Viano สำหรับครอบครัว พร้อมด้วย The new Vito 11 ที่นั่ง สำหรับนักธุรกิจและบุคคลสำคัญ
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอ The new Viano ยนตรกรรมอเนกประสงค์หรูโฉมใหม่ล่าสุดสำหรับครอบครัว แบบฉบับของยานยนต์ที่ผสานความปลอดภัย และประโยชน์ใช้สอยตามความต้องการ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร 150 แรงม้า เป็นยานยนต์ที่ผลิตเพื่อความเหมาะกับน้ำมันดีเซล ที่ใช้ในประเทศ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ทั้งภายในและภายนอกตอบสนองการใช้งานได้อย่างหลากหลายและลงตัว พรั่งพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยตามมาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์
มร. มาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new Viano เป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวแบบ 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมกับตัวรถขนาดพอเหมาะพร้อมกับวงเลี้ยวที่แคบเพียง 5.5 เมตรให้ความคล่องตัวตอบสนองความต้องการของผู้ครอบครองได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะนั่งผ่อนคลายเจรจาธุรกิจในห้องโดยสารด้านหลังหรืออยู่หลังพวงมาลัยพาครอบครัวไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานและพื้นที่ใช้สอยที่สอดคล้องกับทุกความต้องการได้อย่างลงตัว
ภายในห้องโดยสารปลอดโปร่ง ทำให้รู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายไม่ว่าจะเป็นการเดินทางใกล้หรือไกล โดยเราได้ คัดสรรยนตรกรรมที่เพียบพร้อมไปด้วยระบบความปลอดภัยรวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกแบบครบครัน ภายใต้มาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงเพิ่มความมั่นใจ ความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ที่สำคัญรถรุ่นนี้ยังเป็นยนตรกรรมที่ผลิตเพื่อให้มีความเหมาะสมกับโครงสร้างของประเทศไทยโดยเฉพาะจึงสามารถใช้กับน้ำมันดีเซลในประเทศได้โดยไม่มีปัญหาอย่างใด”
The new Viano เป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายและลงตัวมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี ขุมพลัง 110 กิโลวัตต์/ 150 แรงม้าที่ 3,800 รอบ/นาที มีแรงบิดสูงสุดที่ 330 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 12.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 181 กม./ชม. ถ่ายทอดผ่านกำลังเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 5 จังหวะ พร้อมช่วงล่างด้านหลังแบบถุงลมที่มาพร้อมกับระบบปรับความสูงแบบอัตโนมัติให้ความนุ่มนวลและความมั่นคงในทุกสภาพถนน
ยนตรกรรมอเนกประสงค์ The new Viano 7 ที่นั่ง ยังได้รับการดีไซน์รูปลักษณ์ใหม่ที่ดูโดดเด่นทั้งภายในและภายนอก ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางสะดวกสบาย ภายในห้องโดยสารปลอดโปร่งเป็นพิเศษจากซันรูฟแบบกระจกขนาดใหญ่และที่นั่งโดยสารด้านหลังซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดวางได้ตามความต้องการและได้รับการออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ ทำให้รู้สึกได้ถึงความนุ่มสบายและรู้สึกผ่อนคลายไม่ว่าจะเดินทางในระยะใกล้หรือไกลพร้อมยังคงความหรูหรา ในแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์
นอกจากนั้นภายในห้องโดยสารยังมีระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบ THERMOTRONIC สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า และระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบ TEMPMATIC แยกส่วนต่างหากสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง รวมถึงประตูบานเลื่อนซ้าย-ขวา แบบเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าที่สามารถสั่งการได้จากตัวรถและกุญแจรีโมท เพื่อความสะดวกสบายในการเข้า-ออกรถมากยิ่งขึ้น
นายคมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ Viano โฉมใหม่นี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยต่างๆ ตลอดจนอุปกรณ์แบบครบครันที่ได้มาตรฐาน โดยผสานแนวคิดในเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (active safety) และเชิงปกป้องเมื่อเกิดเหตุ (passive safety) เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุดไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program) ที่จะช่วยให้ ผู้ขับขี่สามารถรักษาทิศทางและการทรงตัวของรถได้อย่างปลอดภัยในสถานการณ์คับขัน
ระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ EBD (Electronic brake force distribution)ซึ่งช่วยปรับสมดุลแรงเบรกให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการหยุดรถในระดับสูงสุดทุกสถานการณ์ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีASR (Acceleration skid control) ที่ช่วยรักษาเสถียรภาพการทรงตัวและการยึดเกาะถนนให้อยู่ในระดับสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนถนนลื่นหรือถนนที่มีพื้นผิวต่างกัน รวมทั้งระบบช่วยเบรก BAS (Brake Assist) ที่จะทำงานร่วมกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock braking system)”
นอกจากนั้นยังมีฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นด้วยอุปกรณ์ไฟหน้าแบบไบซีนอน (bi-xenon) ซึ่งจะส่องสว่างในที่มืดโดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (cornering light) ซึ่งจะช่วยให้ทัศนวิสัยการขับขี่ในยามค่ำคืนเป็นไปอย่างชัดเจนและปลอดภัย รวมทั้งไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน แบบ LED และเซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) พร้อมจอ LED แสดงระยะ
“การสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า คือ ปัจจัยสำคัญแห่งความสำเร็จของบริษัท เราได้สร้างความประทับใจและความมั่นใจให้กับลูกค้าผ่านการบริการหลังการขายและการใส่ใจและดูแลลูกค้าที่เป็นเลิศ ด้วยการรับประกัน 3 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร และสิทธิพิเศษ Star Assist โปรแกรมพิเศษช่วยเหลือยามฉุกเฉินที่สมบูรณ์แบบที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
รวมถึงการสร้างความประทับใจในตัวผลิตภัณฑ์ที่สามารถสะท้อนรสนิยมและไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งทั้งหมดนี้คือ มาตรฐานการให้บริการของเรา โดยลูกค้าของเราจะได้รับประสบการณ์เหล่านี้โดยตรง และเป็นที่แน่นอนว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์จะยังคงสานต่อความมุ่งมั่นสู่อนาคตอย่างไม่หยุดยั้ง เนื่องจากความพึงพอใจของลูกค้าถือเป็นเครื่องสะท้อนที่ดีที่สุดถึงการมีสัมพันธภาพที่ดีร่วมกัน” มร.ชูลซ์ กล่าวเสริม