โรงงานน้ำตาล ชงรัฐลดน้ำตาลโควตา ก. ลง 1 ล้านกระสอบหลังพบน้ำตาลค้างกระดานรอขายท่วมกว่า 3.72 ล้านกระสอบ
โรงงานน้ำตาล ชงรัฐลดน้ำตาลโควตา ก. ลง 1 ล้านกระสอบหลังพบน้ำตาลค้างกระดานรอขายท่วมกว่า 3.72 ล้านกระสอบ
3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เตรียมเสนอคณะกรรมการน้ำตาลทราย ลดปริมาณน้ำตาลโควตา ก. ที่ใช้บริโภคภายในประเทศลง 1 ล้านกระสอบ จากเดิม 24 ล้านกระสอบ ให้เหลือ 23 ล้านกระสอบ มากเกินพอสำหรับบริโภคในปีนี้ โดยดูได้จากน้ำตาลขึ้นงวดค้างกระดานกว่า 3.72 ล้านกระสอบ “เชิดพงษ์” ชี้ นำไปส่งออกเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชาวไร่อ้อยและประเทศชาติ ดีกว่าปล่อยค้างกระดานถึง 8 งวด ซึ่งภาครัฐเคยกำหนดไว้ว่าหากค้างกระดานเกิน 2 งวด ให้พิจารณาปรับโควตา ก. ใหม่
นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ประธานคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย ได้มีการประชุมและมีมติเกี่ยวกับการจัดสรรน้ำตาลโควตา ก. ที่ใช้บริโภคภายในประเทศ โดยเห็นว่า ในปัจจุบันมีน้ำตาลค้างกระดาน (จัดสรรไว้แต่ยังไม่ได้นำออกจำหน่าย) มากเกินความจำเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้สูญเสียโอกาสในการขายเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศและเกษตรกรชาวไร่อ้อย ด้วยการนำน้ำตาลทรายส่วนที่เกินความจำเป็นนี้ส่งออกไปขายยังต่างประเทศ
ดังนั้น ในการประชุมคณะกรรมการน้ำตาลทรายที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 มีนาคม 2555 นี้ โดยจะมีวาระพิจารณากำหนดปริมาณน้ำตาลโควตา ก. เพื่อบริโภคภายในประเทศ ครั้งที่ 2 ผู้แทนของ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายจะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาลดปริมาณการจัดสรรน้ำตาลทรายโควตา ก. ประจำฤดูการผลิตปี 2554/2555 ลง 1 ล้านกระสอบ จากเดิมที่กำหนดไว้ 24 ล้านกระสอบ ให้เหลือ 23 ล้านกระสอบ ซึ่งเชื่อว่า มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศอย่างแน่นอน โดยดูได้จาก ณ วันที่ 15 มีนาคม 2555 ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลทรายค้างกระดานรวมกันกว่า 3,720,411 กระสอบ หรือคิดเป็นปริมาณน้ำตาลค้างกระดานกว่า 8 งวด (ปริมาณน้ำตาลขึ้นงวดต่อสัปดาห์อยู่ที่ 461,516 กระสอบ)
“มติที่ประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ครั้งที่ 8/2554 กำหนดว่า ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 หากน้ำตาลทรายโควตา ก. มีปริมาณค้างกระดานเกินกว่า 2 งวด ให้คณะกรรมการน้ำตาลทรายพิจารณาปรับปรุงปริมาณน้ำตาลทรายโควตา ก. ให้สอดคล้องกับภาวะการณ์จำหน่ายน้ำตาลทรายภายในประเทศต่อไป และการที่มีน้ำตาลทรายค้างกระดานถึง 8 งวด ณ ปัจจุบันนี้ จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการพิจารณาลดปริมาณน้ำตาลทรายโควตา ก. ลง” นายเชิดพงษ์กล่าว
ประธานคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย กล่าวอีกว่า เนื่องจากข้อเสนอนี้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย ทั้งเกษตรกรชาวไร่อ้อย และประเทศชาติ ที่จะมีรายได้จากการจำหน่ายน้ำตาลทรายในตลาดโลก จึงเชื่อว่าคณะกรรมการน้ำตาลทรายจะพิจารณาเห็นชอบตามข้อเสนอดังกล่าว
“เรามองว่า การจัดสรรน้ำตาลโควตา ก. ในฤดูการผลิตปีนี้ น่าจะสูงเกินกว่าความต้องการบริโภค ภายในประเทศ โดยน้ำตาลทราย 23 ล้านกระสอบที่กันไว้จำหน่ายภายในประเทศนี้เป็นปริมาณที่สูงกว่าปริมาณที่มีการบริโภคในประเทศในปีที่ผ่านมา ในขณะที่ช่วงต้นปีนี้เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ปริมาณการบริโภคน้ำตาลภายในประเทศลดลง ทำให้ปริมาณน้ำตาลค้างกระดานมีมากกว่าปกติและเกินความจำเป็น
ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป จะไม่เป็นผลดีต่อใครเลย โดยเฉพาะต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เพราะเท่ากับผลิตน้ำตาลทรายขึ้นมาแล้วทิ้งไว้โดยเปล่าประโยชน์ ทั้งๆ ที่สามารถนำไปส่งออกได้” นายเชิดพงษ์ กล่าวย้ำอีกครั้ง