นายกฯ หารือ JCCI ย้ำพร้อมรับฟังข้อเสนอและปัญหาจากภาคเอกชนญี่ปุ่น เผยอนุมัติงบเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบภัยและภาคธุรกิจ แล้วกว่า 3.8 แสนล้านบาท ยันพร้อมให้ความช่วยเหลือเท่าเทียมกับธุรกิจไทย
นายกฯ หารือ JCCI ย้ำพร้อมรับฟังข้อเสนอและปัญหาจากภาคเอกชนญี่ปุ่น เผยอนุมัติงบเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบภัยและภาคธุรกิจ แล้วกว่า 3.8 แสนล้านบาท ยันพร้อมให้ความช่วยเหลือเท่าเทียมกับธุรกิจไทย
นายกรัฐมนตรีหารือกับประธานหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุน (Japan Chamber of Commerce and Industry -JCCI) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเรื่องความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่นเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจญี่ปุ่นที่ประสบอุทกภัยในปี 2554 และสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการป้องกันปัญหาอุทกภัย แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและญี่ปุ่น พร้อมทั้ง ขอบคุณ JCCI ที่ให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ 7 สาขา ระหว่าง นักธุรกิจญี่ปุ่นกับนักธุรกิจไทยที่ร่วมคณะนายกรัฐมนตรี
วานนี้ (7 มี.ค.55) นายโนบุ ยามากูจิ ประธานบริหาร Japan Chamber of Commerce and Industry (JCCI) เข้าหารือกับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ซึ่งประกอบไปด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ประธาน JCCI กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อุทกภัยที่กิดขึ้นกับไทย และหวังว่าภายใต้การนำและบริหารจัดการของนายกรัฐมนตรี ไทยจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ จากการสอบถามนักลงทุนญี่ปุ่นในไทย ต่างก็ยืนยันที่จะลงทุนในประเทศไทยต่อไป และขอให้รัฐบาลได้รีบดำเนินการตามแผนและมาตรการป้องกันอุทกภัยให้เกิดผลโดยเร็ว เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนจะไม่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ ยังรู้สึกยินดีที่รัฐบาลได้ดำเนินการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการประกันภัยภิบัติ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนต่อการดูและและแก้ปัญหาได้อย่างมั่นใจ ทั้งนี้ สภาหอการค้าฯยังสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของญี่ปุ่นให้มาลงทุนในไทยอีกด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีที่ได้พบและขอขอบคุณที่ JCCI ร่วมมืออย่างดีในการจัดสัมมนาเพื่อสร้างเครือข่ายระหว่างนักธุรกิจไทยและญี่ปุ่นใน 7 สาขาหลักที่ทั้งสองประเทศมีความสนใจร่วมกัน และหวังว่าการจัดสัมมนาจะประสบความสำเร็จด้วยดี และเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายในการสร้างเครือข่ายสำหรับการดำเนินธุรกิจและการขยายการค้าและการลงทุนต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ ปี 2554 เป็นปีที่ทั้งไทยและญี่ปุ่นประสบภัยพิบัติร้ายแรง และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่การผลิตทั้งในไทยและญี่ปุ่นอย่างใหญ่หลวง แต่ก็ยินดีที่ได้เห็นทุกภาคส่วนของสองประเทศให้ความช่วยเหลือกันและกันอย่างเต็มที่ ซึ่งในส่วนของญี่ปุ่น เหตุการณ์ภัยพิบัติผ่านไปเกือบ 1 ปีแล้ว ไทยชื่นชมความพยายามและความทุ่มเท ของทุกภาคส่วนของญี่ปุ่นที่สามารถฟื้นฟูประเทศและเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว
ในส่วนของไทย เชื่อมั่นว่าด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่มีเสถียรภาพ และการดำเนินมาตรการฟื้นฟูเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างมีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้ความมั่นใจต่อ JCCI เกี่ยวกับมาตรการในการฟื้นฟูประเทศภายหลังเหตุการณ์อุทกภัย ว่ารัฐบาลไทยได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและภาคธุรกิจที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้สามารถฟื้นฟูธุรกิจได้โดยเร็ว และจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันมิให้เกิดอุทกภัยและความเสียหายรุนแรงรวมทั้ง แผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณสำหรับเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบภัยและภาคธุรกิจ รวมทั้งการอัดฉีดสภาพคล่องด้วยมาตรการสินเชื่อต่าง ๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 3.82 แสนล้านบาท หรือ 1.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขอให้ญี่ปุ่นมั่นใจได้ว่า รัฐบาลไทยจะช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจญี่ปุ่นอย่างครอบคลุมและเท่าเทียมกับธุรกิจไทย นอกจากนี้ ได้จัดตั้งกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท (1,667 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการให้ได้รับความคุ้มครองทรัพย์สินและกิจการ
รัฐบาลได้ออกแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน มีมาตรการเร่งด่วนที่จะดำเนินการให้เสร็จภายในเดือนมีนาคม คือ การฟื้นฟูและปรับปรุงประสิทธิภาพสิ่งก่อสร้างเดิมเพื่อบริหารจัดการน้ำ การจัดตั้งองค์กรบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ การพัฒนาคลังข้อมูลและระบบพยากรณ์เตือนภัย การกำหนดพื้นที่รับน้ำนองและมาตรการเยียวยา