ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. 2555 เริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องหลังเกิดวิกฤตน้ำท่วม แต่ยังห่วงราคาน้ำมันกระทบค่าครองชีพ
ภาพประกอบข่าวจาก www.thaigov.go.th
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. 2555 เริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องหลังเกิดวิกฤตน้ำท่วม แต่ยังห่วงราคาน้ำมันกระทบค่าครองชีพ ขณะที่โอกาสในการหางานทำยังอยู่ในระดับต่ำ
นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังเกิดวิกฤติอุทกภัย แต่ทั้งนี้ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันและค่าครองชีพ
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2555 จากประชาชนสาขาอาชีพต่างๆจำนวน 3,075 คน พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมาจาก 24.2 เป็น 25.8 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อสถานการณ์ปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 14.6 เป็น 15.7
และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีต่อสถานการณ์ในอนาคต (3 เดือน) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 30.6 เป็น 32.6 พบว่า ค่าดัชนีทุกรายการปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังเกิดภาวะวิกฤติอุทกภัยและการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลเพื่อเยียวยาผู้ประสบภัยที่เม็ดเงินเริ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งนโยบายดูแลราคาสินค้าเกษตรของกระทรวงพาณิชย์ เช่น โครงการรับจำนำข้าวและมันสำปะหลัง เป็นต้น
แต่ทั้งนี้ค่าดัชนีที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังคงมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะราคาน้ำมันโลกปรับตัวสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทำให้ประชาชนมีรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้รายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายรวมทั้งปัจจัยลบ ด้านความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและภัยธรรมชาติ
ส่วนค่าดัชนีในด้านต่าง ๆ พบว่าผู้บริโภคมีความคาดหวังต่อรายได้ในอนาคตเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการในเดือนมกราคม 2555 และการปรับขึ้นค่าจ้างค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทที่จะมีผลในวันที่ 1 เมษายน 2555 อีกทั้งมาตรการของภาครัฐที่เข้ามาดูแลราคาสินค้าเกษตรส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น แต่ทั้งนี้โอกาสในการหางานทำในปัจจุบันและอนาคตยังอยู่ในระดับต่ำ
ซึ่งประชาชนยังมีความกังวลและไม่มั่นใจเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่วนความเชื่อมั่นในด้านการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในปัจจุบันและอนาคตยังอยู่ในระดับสูงเนื่องจากประชาชนยังมีความต้องการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิตและการขนส่งที่เป็นผลจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
แต่ทั้งนี้ การวางแผนซื้อรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ใน 6 เดือนข้างหน้า ยังอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่มีความมั่นใจในการซื้อสินค้าคงทนถาวรเพราะยังเป็นกังวลกับเรื่องปัญหาปากท้องและค่าครองชีพ