อินเทล ประกาศความร่วมมือกับ ออเรนจ์ ลาวา อินเตอร์เนชั่นแนล ZTE และวีซ่า พัฒนาอุปกรณ์สำหรับสมาร์ทโฟน พร้อมเปิดตัว สมาร์ทโฟน SoCs
อินเทล ประกาศความร่วมมือกับ ออเรนจ์ ลาวา อินเตอร์เนชั่นแนล ZTE และวีซ่า พัฒนาอุปกรณ์สำหรับสมาร์ทโฟน พร้อมเปิดตัว สมาร์ทโฟน SoCs
พอล โอเทลลินิ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร อินเทล คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยถึงรายละเอียดพร้อมทั้งประกาศเปิดตัวแผนการขยายธุรกิจสำหรับผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนของบริษัทและทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการประกาศผนึกความร่วมมือกับออเรนจ์*, ลาวา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด*, ZTE* และ วีซ่า*
“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ขยายฐานผู้บริโภคซึ่งเป็นกลุ่มสำคัญสำหรับเราให้กว้างขึ้น รวมถึงการเพิ่มสมรรถนะให้กับโทรศัพท์ที่เรานำมาเสนอในวันนี้ เรายังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณสมบัติที่น่าตื่นเต้นและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพให้กับสมาร์ทโฟนเพื่อผู้บริโภคทั่วโลก” โอเทลลินิกล่าว
ในระหว่างงานแถลงข่าวของอินเทล ณ งานโมบายล์ เวิลด์ คอนเกรส (Mobile World Congress) โอเทลลินิ ย้ำถึงแผนของอินเทลในการขยายธุรกิจสมาร์ทโฟนแบบซิสเต็มออมชิป (SoC) และทิศทางของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการสื่อสารเพื่อรองรับประสิทธิภาพและมูลค่าตลาดในกลุ่มสมาร์ทโฟนอีกด้วย
เร่งพัฒนาการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคในการใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่
จากที่ได้ประกาศการผนึกพันธมิตรทางธุรกิจกับ โมโตโรล่า โมบิลิตี้ อิงค์* และเลอโนโว* เมื่อไม่นานมานี้ วันนี้อินเทลได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการผนึกพันธมิตรเพื่อพัฒนาอุปกรณ์ครั้งใหม่ ร่วมกับ ออเรนจ์ ลาวา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ ZTE
อีฟ แมท รองประธานอาวุโสด้านโมบายล์มัลติมีเดียและอุปกรณ์ ของออเรนจ์ ร่วมพูดคุยกับ โอเทลลินิ ถึงสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของออเรนจ์ที่นำดีไซน์ต้นแบบมาใช้ร่วมกับอินเทล™ อะตอม™ โปรเซสเซอร์ Z2460 ด้วยรูปแบบที่บางเฉียบซึ่งพร้อมนำเสนอสุดยอดประสบการณ์ด้านความบันเทิง และบริการของออเรนจ์ที่หลากหลาย เช่น ออเรนจ์ ทีวี (Orange TV) เดลี่ โมชั่น (Daily Motion) ดีเซอร์ (Deezer) ออเรนจ์ เวนสเดย์ (Orange Wednesday) และออเรนจ์ เจสเชอร์ (Orange Gestures) สมาร์ทโฟนของออเรนจ์มีกำหนดเปิดตัวออกสู่ตลาดประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสในช่วงฤดูร้อนของปีนี้
อินเทลยังเผยถึงแผนในการขยายตลาดไปยังประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงสำหรับการใช้สมาร์ทโฟน โดยอินเทลได้ผนึกพันธมิตรร่วมกับ ลาวา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตแฮนด์เซ็ตสำหรับโทรศัพท์มือถือที่เติบโตเร็วที่สุดในอินเดีย
วิชาล เซกัล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการกรรมการบริหารของลาวา ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน XOLO ของลาวา รุ่น XOLO X900 ที่นำดีไซน์ต้นแบบสมาร์ทโฟนของอินเทลมาใช้ และจะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้เทคโนโลยีของอินเทลเครื่องแรกที่มีวางจำหน่ายในประเทศอินเดีย ที่พร้อมวางขายในห้างค้าปลีกชั้นนำช่วงต้นไตรมาสที่สองของปี 2555 และสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวยังรองรับเครือข่ายเซลลูลาร์มือถือหลักของอินเดียได้ด้วย
เช่นเดียวกับที่เคยประกาศความร่วมมือกับโมโตโรล่า โมบิลิตี้ เมื่อไม่นานมานี้ อินเทลยังได้ผนึกพันธมิตรระยะยาวเพื่อพัฒนาอุปกรณ์โมบายล์สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ร่วมกับผู้ผลิตแฮนด์เซ็ตระดับโลกอย่าง ZTE โดย มร. เฮ ชิยู รองประธานบริษัท ZTE และหัวหน้าแผนกเทอร์มินอลของ ZTE ได้กล่าวถึงความร่วมกับอินเทลในครั้งนี้ว่า ช่วยให้ ZTE สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นและแตกต่างออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับผู้ให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย โดยสมาร์ทโฟนของ ZTE ที่ใช้ระบบประมวลผลของอินเทลมีกำหนดเปิดตัวในครึ่งปีหลังของปี 2555
ขยายแผนสมาร์ทโฟนแบบซิสเต็มออนชิป SoC และการสื่อสาร
ต่อเนื่องจากการสร้างการดำเนินงานแบบครบวงจร อินเทลยังได้เปิดเผยถึงแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนแบบซิสเต็มออนชิป (SoC) ทั้ง 3 รุ่นเพื่อขยายไลน์ธุรกิจของบริษัทตั้งแต่ประสิทธิภาพไปจนถึงสร้างมูลค่าในตลาด
นอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและช่วยประหยัดพลังงานจาก อินเทล™ อะตอม™ โปรเซสเซอร์ รุ่น Z2460 ที่มีชื่อรหัสเดิมว่า “เมดฟิลด์” (Medfield) แล้ว อินเทลเปิดเผยแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ร่วมกับชิปดังกล่าว ที่จะสามารถรองรับความเร็วได้สูงสุดที่ 2 กิกะเฮิร์ต อีกด้วย
อินเทลเปิดเผยถึง อะตอม™ โปรเซสเซอร์ รุ่น Z2580 ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพจาก อะตอม โปรเซสเซอร์รุ่น Z2460 เป็นเท่าตัว และมาพร้อมโซลูชั่นที่ล้ำสมัยด้วยคุณสมบัติมัลติโหมด LTE/3G/2G อินเทลจะทำการทดลองประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์รุ่น Z2580 ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และมีแผนจะเปิดตัวสินค้าในตลาดในครึ่งปีแรกของปี 2556
ในระหว่างที่กล่าวถึงอัตราการเติบโตของจำนวนผู้ใช้แฮนด์เซ็ตที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาซึ่งผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาเริ่มต้น อินเทลยังได้เผยถึงแผนการสำหรับโปรเซสเซอร์ อินเทล™ อะตอม™ Z2000 อีกด้วย
โปรเซสเซอร์รุ่น Z2000 จะเน้นตลาดสมาร์ทโฟนระดับที่ราคาไม่สูง ซึ่งแหล่งข่าวในวงการอุตสาหกรรมได้คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 500 ล้านเครื่องภายในปี 25581 แพลตฟอร์มจะประกอบด้วยซีพียูรุ่น อะตอม ขนาด 1 กิกะเฮิร์ต ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับชมภาพและวิดีโอ พร้อมคุณสมบัติในการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์และเล่นเกมส์บนกูเกิล แอนดรอยด์* และยังรองรับโมเด็มรุ่น Intel® XMM 6265 3G HSPA+ อีกทั้งยังรองรับได้ทั้งซิม 2G และ 3G จึงเพิ่มความคล่องตัวในการเลือกใช้บริการรับข้อมูล หรือใช้โทรศัพท์เพื่อประหยัดค่าบริการ โดยอินเทลจะทดสอบโปรเซสเซอร์รุ่น Z200 ในราวกลางปี 2555 นี้ และกำหนดวางผลิตภัณฑ์ภายในต้นปี 2556
ต่อเนื่องจากการประกาศถึงกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีขนาด 32 นาโนเมตรนั้น โอเทลลินิยังได้กล่าวถึงการออก อะตอม โปรเซสเซอร์ รุ่นถัดไปซึ่งจะเป็นการแซงหน้ากฎของมัวร์ได้สำเร็จ พร้อมกล่าวถึงความพร้อมของอินเทลในการส่งผลิตภัณฑ์ ซิสเต็มออนชิป (SoC) ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขนาด 22 นาโนเมตร เพื่อเข้าสู่กระบวนการจดลิขสิทธิ์ carrier certification ในปีหน้า และพร้อมแล้วสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยี SoC ด้วยเทคโนโลยีขนาด 14 นาโนเมตร
ในปี 2554 ที่ผ่านมา อินเทลได้ผลิตเซลลูล่าร์แพลตฟอร์มเพื่อรองรับโทรศัพท์มือถือกว่า 400 ล้านเครื่อง และได้เปิดตัว ZMM 7160 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับมัลติโหมด LTE/3G/2G ช่วยเพิ่มความเร็วในการดาวน์ลิงค์ได้สูงถึง 100 เมกะบิต และ 50 เมกะบิต ในการอัพลิงค์ อีกทั้งยังรองรับ HSPA+ ความเร็ว 42 เมกะบิต อินเทลจะทดสอบผลิตภัณฑ์ในครึ่งหลังของปีนี้ และมีกำหนดเปิดตัวภายในปลายปี 2555
นอกจากนี้ อินเทลยังได้ขยายการทดสอบแพลตฟอร์ม XMM 6360 ซึ่งเป็นโมเด็ม 3G HSPA+ โซลูชั่นรุ่นใหม่ที่มีขนาดบางและรองรับการความเร็วในการดาวน์ลิงค์ได้ 42 เมกะบิต และ 11.5 เมกะบิตในการอัพลิงค์สำหรับคอมพิวเตอร์ดีไซน์ขนาดเล็ก
มอบประสบการณ์ที่ดีกว่าด้วยสถาปัตยกรรมของอินเทล
กลยุทธ์ของอินเทลคือการสร้างสรรค์และมอบประสบการณ์ในการใช้งานที่ให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วม ทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์โมบายล์ทุกชนิด
เทรนด์ที่กำลังเป็นที่จับตามองในปัจจุบันนี้ คือ การใช้อุปกรณ์โมบายล์ที่มีความปลอดภัยสำหรับ ทำธุรกรรมออนไลน์และค้าปลีกออนไลน์ โดยโอเทลลินิได้เชิญ จอนห์ พาทริดจ์ ประธานบริษัทวีซ่า อิงค์ ร่วมประกาศผนึกพันธมิตรทางธุรกิจระยะยาว เพื่อพัฒนาโซลูชั่นในการดำเนินธุรกรรมบนมือถือสำหรับผู้บริโภคในประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศที่กำลังพัฒนา
ความร่วมมือดังกล่าวประกอบด้วยการให้บริการโมบายล์ เซอร์วิส ของ วีซ่า บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่ใช้อินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์ เพื่อนำเสนอสุดยอดบริการที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัย พาทริดจ์ ได้เผยถึงความร่วมมือในระยะแรกว่า อุปกรณ์สมาร์ทโฟนต้นแบบของอินเทลจะได้รับการขึ้นทะเบียนบน Visa payWave* เพื่อใช้ดำเนินธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเท่ากับว่าผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคที่นำดีไซน์สมาร์ทโฟนต้นแบบจากอินเทลมาใช้จะรองรับบริการของวีซ่าได้บนอุปกรณ์โมบายล์
นอกจากนี้ จากที่เคยประกาศความร่วมมือกับกูเกิล อินเทลยังมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับ ISVs อย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาแอนดรอยด์แอพพลิเคชั่นที่รองรับการทำงานบนอุปกรณ์ที่ใช้ อินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์ โดยโอเทลลินีกล่าวสรุปว่า อินเทลมีทั้งเครื่องมือและความเชื่ยวชาญที่จะช่วยรองรับความหลากหลายของผู้พัฒนาโมบายล์แอพพลิเคชั่นชนิดต่างๆได้