เนื้อหาวันที่ : 2006-05-02 16:38:21 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1813 views

กทม. แจ้ง บ.สไตเออร์ ชี้แจงให้ข่าวขัดแย้งขั้นตอนเปิด L/C กรณีรถดับเพลิง

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกแถลงกรณีข่าวฉาวเกี่ยวกับการจัดซื้อรถและอุปกรณ์ดับเพลงของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของ กทม. ไม่โปร่งใส

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกแถลงกรณีข่าวฉาวเกี่ยวกับการจัดซื้อรถและอุปกรณ์ดับเพลงของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของ กทม. ไม่โปร่งใส

 

ดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงกรณีการให้ข่าวของรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค เกี่ยวกับการจัดซื้อรถและอุปกรณ์ดับเพลิงตามโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือการจัดซื้อรถดับเพลิงของกทม. ว่า จากการที่รองประธานกรรมการบริหารบริษัทสไตเออร์ฯ ได้ให้ข่าวว่าหากกรุงเทพมหานครเห็นว่าการจัดซื้อดังกล่าวไม่เป็นธรรมก็สามารถยกเลิกสัญญาได้ในช่วงที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนปัจจุบันดำรงตำแหน่งอยู่ แต่กรุงเทพมหานครเลือกที่จะยินยอมให้มีการปฏิบัติตามสัญญา โดยการเปิด Letter of Credit (L/C) ซึ่งการให้ข่าวดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน จนเห็นว่ากรุงเทพมหานครดำเนินการโดยไม่รักษาผลประโยชน์ของทางราชการ 

 

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากที่มีการท้วงติงจากบริษัทสไตเออร์ ผ่านทางกระทรวงมหาดไทย โดยนายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้แจ้งมายังกทม. เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 47 ว่า เอกอัครราชทูตออสเตรียมีหนังสือแจ้งไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และสำเนาถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้กรุงเทพมหานครเร่งรัดการเปิด L/C ให้บริษัทสไตเออร์ฯ ซึ่งหากยังไม่เปิด L/C อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ และระหว่างรัฐบาล เนื่องจากโครงการนี้ได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและมีการลงนามใน A.O.U. สัญญาจัดซื้อและสัญญาการค้าต่างตอบแทนแล้ว จึงต้องเร่งรัดให้เปิด L/C โดยเร็ว โดยนายสมศักดิ์ คุณเงิน ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งมาให้เร่งเปิด L/C อีกทางหนึ่ง โดยระบุว่าไม่สามารถทบทวนได้อีกเพราะได้ผ่านการพิจารณาและลงนามสัญญา M.O.U. แล้ว ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ทำหนังสือขอทบทวนไปยังกระทรวงมหาดไทยเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 47 เนื่องจากสัญญาการซื้อต่างตอบแทนได้ลงนามหลังจากสัญญาจัดซื้อซึ่งไม่เป็นไปตามขั้นตอนตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ และมีผู้ร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากลของโครงการนี้ จนเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 47 นายโภคิน พลกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งว่าสัญญาทุกอย่างที่รัฐบาลดำเนินการนั้นถูกต้องทุกประการ และให้การร้องเรียนเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ในการสอบสวน คู่สัญญาต้องดำเนินการต่อไป คือ ต้องเปิด L/C 

 

ดร.วัลลภ กล่าวอีกว่า ตามขั้นตอนของการขอทบทวน และการได้รับคำยืนยันของหนังสือ รวมถึงการเร่งรัดให้กทม.เปิด L/C กับบริษัทสไตเออร์ มีความขัดแย้งกับข่าวที่รองประธานกรรมการบริหารบริษัท สไตเออร์ฯ เปิดเผยที่ว่า หากกทม.พบว่าไม่ปกติให้ระงับการเปิด L/C ดังนั้นกทม.จึงต้องขอให้บริษัทสไตเออร์ฯ ชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าวกลับมายัง กทม.ภายใน 3 วัน เพื่อ กทม.จะได้หาข้อยุติต่อไป