เนื้อหาวันที่ : 2012-02-16 09:21:23 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1515 views

SMT ลุยซื้อเครื่องจักรใหม่ มั่นใจพร้อมผลิต 100% พ.ค.นี้

SMT ได้เงินประกันงวดแรก 500 ล้านบาท เร่งซื้อเครื่องจักรใหม่ มั่นใจพร้อมเดินหน้าผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เต็มสูบ พฤษภาคมนี้

          SMT ได้เงินประกันงวดแรก 500 ล้านบาท เร่งซื้อเครื่องจักรใหม่ มั่นใจพร้อมเดินหน้าผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เต็มสูบ พฤษภาคมนี้

          บมจ. สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) หรือ SMT ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของไทย เผยได้รับเงินประกันความเสียหายงวดแรก 500 ล้านบาทแล้ว คาดพร้อมเดินเครื่องผลิตสินค้าเต็มสูบ 100% ภายใน 2-3 เดือนนี้

          นายพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) หรือ SMT ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของไทยเปิดเผยว่า “บริษัทฯได้ทำประกันภัยคุ้มครองความ เสียหายจากน้ำท่วมไว้ ซึ่งครอบคลุมความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมโรงงาน ในนิคมอุตสาหกรรม บางปะอินทั้งในส่วนของ เครื่องจักร ตัวอาคาร โรงงาน วัตถุดิบ และสินค้าคงคลัง รวมถึงยังมีการประกัน ค่าชดเชย ความเสียหายจากการเสียโอกาสทางธุรกิจ มูลค่าการประกันภัยรวมทั้งหมดประมาณ 3,800 ล้านบาท

ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับเงินชดเชยงวดแรกจาก บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทร่วมประกันภัย จำนวน 500 ล้านบาท นับว่าเป็น รายแรกๆ ที่ได้รับเงินประกัน ความเสียหายจากเหตุการณ์ น้ำท่วมซึ่งบริษัทฯ จะนำเงินดังกล่าวไปปรับปรุง ตัวอาคาร ห้องคลีนรูม ( Clean room) และ สายการผลิตโดยการ สั่งซื้อเครื่องจักรที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดทดแทนส่วนที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งพร้อมเดินเครื่องการผลิตเต็มสูบแบบครบวงจร 100% ในเดือนพฤษภาคม ขณะเดียวกันบริษัทฯ คาดว่าจะได้รับเงินประกันครบทั้งหมดภายในไตรมาส 3 นี้”

          บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) หรือ SMT เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชั้นนำของไทยที่มุ่งเน้นการผลิตสินค้า 2 กลุ่มหลักคือ 1. ชิ้นส่วน MMA (Microelectronics Module Assembly) 2. ชิ้นส่วน IC (Integrated Circuit)

โดยมีผลิตภัณฑ์ ชั้นนำหลากหลาย ประเภท อาทิเช่น ระบบทัชสกรีน ของโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เซ็นเซอร์อัจฉริยะวัดลมยางรถยนต์อัตโนมัติ ชิ้นส่วนฮาร์ดดิสค์ ผลิตภัณฑ์ MEMS และชิ้นส่วน IC ขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมโทรศัพท์สมาร์ทโฟน รถยนต์ เป็นต้น โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักระดับโลกจำนวนมาก จากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เอเชีย และยุโรป