เนื้อหาวันที่ : 2006-05-02 16:01:17 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1476 views

น้ำมันแพงพ่นพิษดันเงินเฟ้อ เม.ย. ปรับขึ้นร้อยละ 6 สินค้าเลงขึ้นราคาเพียบ

พาณิชย์เผยเงินเฟ้อเดือนเมษายนปรับขึ้นถึงร้อยละ 6 เหตุน้ำมันแพง ส่งผลราคาสินค้า พืชผักขยับตาม แต่เชื่อเฉลี่ยทั้งปียังอยู่ในเป้าร้อยละ 3.5-4.5 เพราะมั่นใจราคาน้ำมันจะปรับลดลง

พาณิชย์เผยเงินเฟ้อเดือนเมษายนปรับขึ้นถึงร้อยละ 6 เหตุน้ำมันแพง ส่งผลราคาสินค้า พืชผักขยับตาม แต่เชื่อเฉลี่ยทั้งปียังอยู่ในเป้าร้อยละ 3.5-4.5 เพราะมั่นใจราคาน้ำมันจะปรับลดลง พร้อมปัดเอกชนขอขึ้นราคาสินค้า 9 รายการ เนื่องจากต้นทุนขึ้นเพียงนิดเดียว 

.

นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนเมษายน 2549 ว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายน 2549 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2549 สูงขึ้นร้อยละ 1.2 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนสูงขึ้นร้อยละ 6 โดยสาเหตุที่ปรับตัวสูงขึ้นมาจากราคาผักสดเพิ่มขึ้น จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ประกอบกับต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น และราคาไก่สด ไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำตาลมะพร้าว อาหารเช้า (โจ๊ก) ราคาสูงขึ้น แต่จากมาตรการดูแลราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดของกระทรวงพาณิชย์ ทำให้ราคาสินค้า เช่น น้ำมันพืช อาหารธัญพืช ซีอิ๊ว ซอสมะเขือเทศ น้ำส้มสายชู และผงชูรส มีราคาลดลง อย่างไรก็ตาม หมวดสินค้าอื่น ๆ ที่มีราคาสูงขึ้นตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิงได้ปรับตัวสูงขึ้น เช่น อัตราค่าโดยสารสาธารณะขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มีการปรับราคา เช่น รถครีม-แดง และครีม-น้ำเงินปรับตัวอีก 1 บาท ทั้งรถเมล์เล็กและสามล้อเครื่องในต่างจังหวัดที่มีราคาสูงขึ้น ในขณะที่มีราคาสินค้าบางประเภทลดลง ได้แก่ อุปกรณ์การบันเทิง เช่น เครื่องรับโทรทัศน์ กล้องถ่ายรูปและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

.

สาเหตุสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อในเดือนเมษายนปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนมีนาคมไม่มากมาจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ช่วยลดปัญหาภาวะอัตราเงินเฟ้อไม่ปรับตัวสูงขึ้นไปมากนัก นายการุณ กล่าว

.

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในช่วงไตรมาสแรกจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 5.7 และไตรมาส 2 จะอยู่ที่ร้อยละ 5.8 และมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อในช่วง 2 เดือนหลังจากนี้จะลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 4 และคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยต่อเดือนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมไปอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยต่อเดือนจะอยู่ร้อยละ 4 ซึ่งจะไม่เกินร้อยละ 6 แน่นอน เนื่องจากสถานการณ์ราคาสินค้าโดยรวมไม่ว่าจะเป็นสินค้าตามฤดูกาลจะมีราคาไม่สูงมากนัก โดยยังเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบดูไบที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 60-65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปียังเป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์คาดว่าที่ร้อยละ 3.5-4.5

.

กระทรวงพาณิชย์จะไม่มีการปรับตัวเลขการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีที่ร้อยละ 3.5-4.5 เพราะยังเชื่อมั่นว่าเงินเฟ้อหลังจากนี้ไปจะมีแนวโน้มที่ลดลง แต่ที่คงต้องติดตามคือ สถานการณ์ราคาน้ำมัน เพราะขณะนี้แม้ราคาน้ำมันจะขยับตัวสูงขึ้นไปบ้าง แต่เมื่อเทียบกับที่ผ่านมาราคาน้ำมันโดยรวมมีการปรับขึ้นไม่มากเท่าที่ควร จึงเป็นปัจจัยที่เชื่อว่าจะไม่ทำให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีสูงมากจนเกินไป นายการุณ กล่าว

.

นายการุณ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการดูแลราคาสินค้าโดยกรมการค้าภายในมีการติดตามราคาสินค้าทุกชนิดอย่างใกล้ชิด และมีสูตรการคำนวณต้นทุน จึงทำให้ราคาสินค้าโดยรวมไม่มีการปรับตัวสูงขึ้นเกินไป ซึ่งหากราคาสินค้าใดที่เห็นว่าไม่กระทบต่อต้นทุนมากเท่าที่ควรก็จะให้มีการตรึงราคาต่อไป และกระทรวงพาณิชย์ได้ทำการถอดรายการสินค้าออกจากการพิจารณาขอปรับราคาสินค้า 9 รายการ ประกอบไปด้วย ปุ๋ยเคมี ยารักษาโรค โยเกิร์ต กาแฟสำเร็จรูป นมเปรี้ยว รองเท้านักเรียน นมสด เส้นหมี่ และแป้งฝุ่น เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ได้กระทบต่อต้นทุนต่อการผลิตสินค้ามากนัก

.

สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนเมษายน 2549 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2549 สูงขึ้นร้อยละ 0.3 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนสูงขึ้นร้อยละ 2.9 ซึ่งขณะนี้การดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงอัตราค่าบริการต่าง ๆ กรมฯ ได้มีการติดตามราคาอย่างใกล้ชิด แต่ก็มีการติดตามดูแลหากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่หลายฝ่ายหวั่นวิตกจะทะลุเกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ก็ย่อมส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อค่อนข้างมาก แต่ยังเชื่อว่าราคาน้ำมันคงไม่มีการปรับขึ้นรุนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา