เนื้อหาวันที่ : 2012-02-06 14:40:41 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 581 views

งานใหญ่นานาชาติ Fastener Fair Thailand ครั้งแรกในไทย

แม็ค บรู๊ค เอ็กซิบิชั่น ประเทศอังกฤษ ประกาศลุยจัดงานแสดงสินค้านานาชาติสุดยิ่งใหญ่ Fastener Fair Thailand 2012 ครั้งแรกในประเทศไทย

แม็ค บรู๊ค เอ็กซิบิชั่น ประเทศอังกฤษ ประกาศลุยจัดงานแสดงสินค้านานาชาติสุดยิ่งใหญ่ Fastener Fair Thailand 2012 ครั้งแรกในประเทศไทย

บริษัท แม็ค บรู๊ค เอ็กซิบิชั่น ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้จัดงานแสดงสินค้านานาชาติที่มีชื่อเสียงได้เปิดตัวการจัดงานแสดงสินค้า Fastener Fair Thailand 2012 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อโชว์ศักยภาพเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากทั่วโลก และตอบสนองต่อความต้องการทางออกที่เหมาะสมในเรื่องต้นทุนของเครื่องยึดและส่วนประกอบในประเทศไทยและในภูมิภาค ซึ่งงานนี้จะช่วยสร้างภาพพจน์ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางของธุรกิจงานแสดงสินค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแท้จริง

งาน Fastener Fair มีการจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองสตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมนี ซึ่งในปัจจุบันนี้ได้พัฒนาเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติหลักสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องยึดและส่วนประกอบ จากนั้นได้มีการขยายการจัดงานนี้ไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นงาน Fastener Fair ในเมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี งาน Fastener Fair ในอินเดีย งาน Fastener Fair ในบราซิล และมาถึงงานที่น่าตื่นเต้นที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งงาน Fastener Fair Thailand 2012 นี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2555 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

มร. ไมเคิล วิลตัน ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจจัดงานแสดงสินค้า บริษัท แม็ค บรู๊ค เอ็กซิบิชั่น ประเทศอังกฤษ กล่าวว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องยึด ซึ่งความต้องการสินค้าเครื่องยึดและส่วนประกอบมีสูงขึ้นด้วยแรงสนันสนุนจากแนวโน้มที่สดใสของอุตสาหกรรมที่เป็นผู้ใช้สินค้ากลุ่มนี้ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเลคโทรนิคส์ สาธารณูปโภค และสนามบิน นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีศักยภาพที่มากขึ้นในการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตในอาเซียน

อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยเติบโตร้อยละ 64 ในปี 2553 และคาดหมายว่าจะเป็น 1 ใน 10 ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2558 ด้วยยอดการผลิตที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี ส่วนในอุตสาหกรรมอิเลคโทรนิคส์ ร้อยละ 85 ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ในประเทศไทยเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก ภาพรวมพบว่ามีผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอิเลคโทรนิคส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวน 108 โครงการ ด้วยยอดการลงทุนรวม 950 ล้านเหรียญสหรัฐ

แนวโน้มการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในไทยถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆ ด้วยแผนการปรับปรุงและพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่อชุมชนเมืองเป็นตัวขับเคลื่อนการเจริญเติบโต นอกจากนี้ยังมีแผนการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงมูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเชื่อมระหว่างประเทศไทยและจีน ระบบรถไฟข้ามภูมิภาคเพื่อเชื่อมประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงที่ต้องให้เงินลงทุนมากกว่า 130 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการพัฒนาระบบเหล่านี้เป็นข่าวเชิงบวกสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องยึดและส่วนประกอบ

 มร. วิลสันกล่าวว่า ถึงแม้ประเทศไทยจะเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและอุตสาหกรรมอย่างหนักเมื่อไม่นานนี้ แต่ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความสามารถอย่างมากที่จะก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้ และภาคอุตสหกรรมไทยจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

“เนื่องจากว่าขณะนี้ยังไม่มีงานแสดงสินค้าที่มุ่งเน้นเฉพาะในการนำเสนอสินค้าเครื่องยึดเพื่อสร้างการค้าสำหรับอุตสาหกรรมนี้ในภูมิภาค ดังนั้นเวลานี้จึงมีความเหมาะสมในการจัดงาน Fastener Fair ในตลาดประเทศไทย ผู้ร่วมจัดแสดงสินค้าจะมีการนำเสนอสินค้าที่ช่วยประหยัดต้นทุนซึ่งในที่สุดแล้วจะทำให้ผู้ใช้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ ถึงแม้ว่าต้นทุนของสินค้าเครื่องยึดและส่วนประกอบแต่ละชิ้นจะมีราคาไม่สูง แต่ด้วยปริมาณการใช้ที่มาก ทำให้การประหยัดโดยรวมมีประสิทธิภาพเมื่อมีการลดราคาของสินค้าแต่ละชิ้นลงไป” มร. วิลสันกล่าว

งาน Fastener Fair Thailand 2012 นี้เป็นการนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดด้านเทคโนโลยีและทางออกที่เหมาะสมในเรื่องต้นทุนสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเลคโทรนิคส์ สาธารณูปโภค สนามบิน และการผลิตทั่วไป โดยเป็นการจัดขึ้นในใจกลางประเทศไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางของอาเซียนด้วย โดยในงานนี้มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้า120 รายจากต่างประเทศและประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีพาวิลเลียนนานาชาติด้วย โดยคาดว่าจะมีนักธุรกิจเข้าชมงานไม่น้อยกว่า 5,000 คน

นายมังกร ธนสารศิลป์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมเครื่องยึดและส่วนประกอบต่างๆ เป็นอุตสาหกรรมที่มีส่วนสำคัญในการผลิตสินค้าหลากหลายชนิด เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมจำเป็นในห่วงโซ่การผลิตสินค้า เช่น อิเลคโทรนิคส์ ยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์ 

ซึ่งอุตสาหกรรมที่ถือว่าเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศคือ อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องใช้เครื่องยึดและส่วนประกอบมากที่สุด
ประเทศไทยได้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ในเอเชียโดยสามารถผลิตรถยนต์ได้เกิน 1 ล้านคันตั้งแต่ปี 2548 และในปี 2555 นี้ สถาบันยานยนต์คาดว่าประเทศไทยจะสามารถผลิตได้เกิน 2 ล้านคัน และทำให้ไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศผู้ผลิตยานยนต์ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นครั้งแรก

โดยประมาณครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตเป็นไปเพื่อการส่งออก ในช่วงเดือนมกราคม ถึง เดือนพฤศจิกายน 2554 ประเทศไทยผลิตรถยนต์ได้รวม 1,358,369 คัน ลดลง 9.92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 ทั้งนี้เนื่องจากผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในประเทศญี่ปุ่น และภาวะน้ำท่วมหนักในประเทศไทย

ในครึ่งแรกของปี 2555 นี้ คาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์โลกและในประเทศไทยจะมีการฟื้นตัว ซึ่งจะทำให้เกิดความต้องการมากขึ้นของชิ้นส่วนยานยนต์ ดังนั้นผู้ผลิตในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะหลั่ยยานยนต์ที่มีมากกว่า 2,000 รายในประเทศ จะต้องผลิตสินค้าเพื่อป้อนอุตสาหกรรมภายในและเพื่อส่งออกไปสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์โลกที่ก่อนหน้านี้ได้เผชิญภาวะสินค้าขาดแคลน 

โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 คาดว่าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์จะมีการเติบโต 12% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยดูจากคำสั่งซื้อที่เริ่มมีเข้ามาแล้ว ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม ถึงเดือนพฤศจิกายน 2554 ประเทศไทยส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์มูลค่า 14,778.45 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ามูลค่าการส่งออกทั้งปีในปี 2553 ที่ 14,451.10 ล้านบาท

“ด้วยอนาคตที่สดใสในอุตสาหกรรมยานยนต์ ธุรกิจเครื่องยึดและส่วนประกอบจะมีการเจริญเติบโตตามไปด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งจะสร้างผลต่อเนื่องไปยังการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยในภาพรวม” นายมังกรกล่าว

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. กล่าวว่า “การสนับสนุน ส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าของไทยให้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับอาเซียนนับเป็นพันธกิจหลักของ สสปน. ภายใต้แคมเปญ Believe in Thailand มั่นใจเมืองไทยพร้อม

โดยยุทธศาสตร์การแสดงสินค้าไทยปี 2555 จะเน้นสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่ศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้าในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งแนวโน้มของงานที่จะเข้ามาจัดในภูมิภาคนี้จะเป็นงานที่มีลักษณะ profile งานเฉพาะด้าน แต่ยังอยู่ในภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศและภูมิภาค”

การสนับสนุนงาน Fastener Fair Thailand 2012 นับเป็นงาน New Show ในปี 2012 เป็นงานสำคัญที่ทั้งผู้จัดงาน ผู้ร่วมแสดงงาน และผู้เข้าชมงาน ได้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมเครื่องยึดและส่วนประกอบต่างๆ สถานที่จัดงานที่ได้มาตรฐานระดับโลก ศักยภาพของโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก การบริการอย่างมืออาชีพ 

สสปน. สนับสนุนการจัดงาน Fastener Fair Thailand 2012 ด้วยการจัดกิจกรรมแฟมทริป เพื่อเยี่ยมชมสถานที่จัดงานแสดงสินค้า ตลอดจนการช่วยจัดทำการศึกษาตลาดของอุตสาหกรรม เพื่อให้ผู้จัดงานได้เกิดความเข้าใจและเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาค

รวมทั้งให้การสนับสนุนกิจกรรมการตลาดในต่างประเทศ เสนอโปรโมชั่นการตลาดสำหรับผู้เข้าร่วมชมงาน Fastener Fair Thailand 2012 อาทิ แคมเปญ 100 A-HEAD สำหรับการดึงกลุ่มผู้ชมงานจากประเทศต่างๆ ในกลุ่มประเทศ อาเซียนพลัสซิกและโปรแกรม Be My Guest ในการให้ห้องพักสำหรับผู้ซื้อรายใหญ่

“สสปน. มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดงาน Fastener Fair Thailand 2012 จะก่อให้เกิดการเชื่อมโยงเปิดเจรจาการค้าธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอาเซียน ซึ่งไทยได้ให้ความสำคัญกับตลาดกลุ่มนี้เพื่อเตรียมความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

นอกจากนี้การจัดงานดังกล่าวจะทำให้เป้าหมายผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ปี 2555 เป็นไปตามที่ตั้งไว้คือ 750,000 คนและสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 60,120 ล้านบาท โดยในภาคอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าตั้งเป้ารายได้กว่า 8,000 ล้านบาท” นางศุภวรรณ กล่าวสรุป