สมาคมเครื่องหนังไทยจับมือกรมส่งเสริมการส่งออก จัดงาน แบ็กแอนด์เดอะซิตี้ ดึงแบรนด์แฟชั่นเครื่องหนังไทยชื่อดัง จัดโปรโมชั่น กระตุ้นตลาดในประเทศ
สมาคมเครื่องหนังไทยจับมือกรมส่งเสริมการส่งออก จัดงาน “แบ็กแอนด์เดอะซิตี้” ดึงแบรนด์แฟชั่นเครื่องหนังไทยชื่อดัง จัดโปรโมชั่น กระตุ้นตลาดในประเทศ
สมาคมเครื่องหนังไทย ร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออก ระดมผู้ผลิตและส่งออกสินค้าแฟชั่นเครื่องหนังชื่อดังของไทย จัดงาน “ไทยเลเธอร์วีค : แบ็กแอนด์เดอะซิตี้” (Thai Leather Week : Bag And The City) หวังกระตุ้นตลาดในประเทศ หลังทำสำเร็จในตลาดโลก โดยงานจะมีขึ้นระหว่าง 17 – 26 กุมภาพันธ์ 2555 ณ อาคารแสดงสินค้า กรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษก
นางอัญชลี พรหมนารท รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงตลาดส่งออกสินค้าเครื่องหนังของไทยในปี 2554 ว่ามีมูลค่า 1,835.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ราว 5.7 หมื่นล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.20 เมื่อเทียบกับปี 2553
โดยประเทศสหรัฐ อเมริกา ยังคงเป็นตลาดส่งออกสินค้าเครื่องหนังอันดับหนึ่งของไทย คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 12.69 ตามมาด้วยประเทศจีน เดนมาร์ก ฮ่องกง เวียดนาม ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร และถึงแม้ในปีที่ผ่านมา ยอดการส่งออกสินค้าเครื่องหนังไปยังประเทศสหรัฐ อเมริกาจะลดลง แต่ก็ยังมีตลาดอื่นๆ ที่มีอัตราการขยายตัวสูงขึ้น อาทิ สวิสเซอร์แลนด์ ปากีสถาน และเนเธอร์แลนด์
“สำหรับปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมเครื่องหนัง ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ในปีที่ผ่านมา ก็คือเหตุการณ์อุทกภัย ซึ่งทำให้เกิดภาวะการขาดแคลนหนังดิบที่ใช้ในการผลิต เนื่องจากปัญหาการขนส่ง เครื่องจักรและสินค้าได้รับความเสียหาย สินค้าค้างสต็อก การส่งมอบสินค้าล่าช้า และผู้นำเข้าขาดความมั่นใจในการสั่งซื้อสินค้า”
“อย่างไรก็ตาม ทางกรมส่งเสริมการส่งออกได้คาดการณ์ว่ามูลค่าการส่งออกในปี 2555 นี้ จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 2,111 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือมากกว่า 6.5 หมื่นล้านบาท รักษาระดับการขยายตัวต่อเนื่อง ในอัตราที่สูงกว่า 15% เหมือนเช่นปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้เป็นผลมาจากการที่อุตสาหกรรมเครื่องหนังได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาสินค้าเครื่องหนังหลายด้าน เช่น การสร้างแบรนด์ การออกแบบ การลงทุนซื้อเครื่องจักรผลิตโดยใช้สิทธิประโยชน์จากเขตการค้าเสรี และจากการที่จีนมีการปรับเพิ่มค่าแรงและราคาวัตถุดิบสูงขึ้น รวมถึงการที่หลายประเทศประสบปัญหาเรื่องคุณภาพสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีน ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้สินค้าไทยซึ่งมีคุณภาพดีแทน” นางอัญชลี กล่าว
นางอัญชลี กล่าวถึงงาน “ไทยเลเธอร์วีค : แบ็กแอนด์เดอะซิตี้” ว่า เป็นความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน ที่ต้องการกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศ โดยนำแบรนด์สินค้าแฟชั่นเครื่องหนังของไทยที่ประสบความสำเร็จในการส่งออกสู่ตลาดโลก มาจัดโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อดึงดูดความสนใจของแฟนๆ สินค้าเครื่องหนัง ชาวไทย จึงนับว่าเป็นโอกาสดีของผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุภาพสตรีที่นิยมใช้สินค้าที่ทำจากหนัง ชอบความประณีต และราคาที่เหมาะสม จึงอยากจะขอเชิญชวนผู้สนใจมาร่วมงาน และเลือกซื้อสินค้าที่ถูกใจจากเหล่า แบรนด์ดังในงานนี้
งาน “ไทยเลเธอร์วีค : แบ็กแอนด์เดอะซิตี้” จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 26 กุมภาพันธ์ 2555 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ อาคารแสดงสินค้า กรมส่งเสริมการส่งออก ถนนรัชดาภิเษก
ดร.เนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย นายกสมาคมเครื่องหนังไทย กล่าวว่า งาน “ไทยเลเธอร์วีค : แบ็กแอนด์เดอะซิตี้” จะระดมแบรนด์สินค้าแฟชั่นเครื่องหนังชั้นนำของไทยมารวมกัน โดยนำสินค้ารุ่นยอดฮิตในตลาดส่งออก มาขายในราคาพิเศษ เพื่อลูกค้าคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นอิตาลีและสเปน หรือตลาดใหญ่ที่อื่นในโลก อย่าง อเมริกาและญี่ปุ่น อาทิ อีเลแกนซา, พารากอน, เดวี่, จิออร์จิน่า, มิอาห์, โมด้า ศรีราชา, มาร์เวลล์, บอนนี่, เซนต์เจมส์, คาร์โล โทมีโอ, แลมบ์ส, เออร์บันไนซ์, นันธิกา เป็นต้น
“ภายในงาน นอกจากจะมีส่วนลดสูงสุดถึง 80% แล้ว ทางสมาคมฯ ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษมากมาย รวมถึงโซนนาทีทอง สินค้าทุกชิ้นราคาเดียวไว้เอาใจนักช็อปและขาประจำงานเครื่องหนัง ซึ่งตลอด 10 วัน ทางสมาคมฯ คาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานมากกว่า 40,000 คน และมียอดรายได้สูกกว่า 20 ล้านบาท”
“ปัจจุบัน สินค้าเครื่องหนังของไทยได้รับการยอมรับอย่างมากจากตลาดโลก ว่าเป็นสินค้าที่มีความประณีตในการผลิต ดีไซน์ที่เป็นที่ถูกใจ และราคาที่เหมาะสม สำหรับในประเทศเอง ระดับความมั่นใจและความนิยมของผู้บริโภคก็เพิ่มมากขึ้น ลูกค้าเริ่มยอมรับในคุณภาพและดีไซน์ของสินค้าไทยมากขึ้น และงาน “ไทยเลเธอร์วีค : แบ็กแอนด์เดอะซิตี้” ครั้งนี้ ก็จะเป็นเครื่องรับประกันว่าสินค้าเครื่องหนังแบรนด์ไทยจะสร้างความพอใจให้แก่ลูกค้าคนไทย ได้ไม่แพ้แบรนด์เนมจากต่างประเทศ งานฯ จะรวมแฟชั่นสินค้าเครื่องหนังดีกรีส่งออกตีตลาดโลก และอื่นๆ กว่าหมื่นรายการมาให้เหล่านักช็อปได้มาอัพเดทเทรนด์ และเลือกดีไซน์ที่ตัวเองชอบไปใช้หรือเป็นของฝาก” ดร.เนาวรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย