ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ (ฮิตาชิ) ประกาศเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์บุกตลาดเอ็นเทอร์ไพรซ์พร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ 15K RPM Ultrastar® 15K300, 7200 RPM Ultrastar A7K1000 และ 10K RPM Ultrastar C10K147 ซึ่งเป็นฮาร์ดไดรฟ์เอ็นเตอร์ไพร์ซแบบ small form factor (SFF) ตัวแรกของฮิตาชิ  โดยฮาร์ดไดรฟ์รุ่นใหม่ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับระบบการจัดเก็บข้อมูลเอ็นเตอร์ไพร์ซ แบบต่าง ๆ ตั้งแต่แอพพลิชันจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญที่สุด และ low duty cycle จนถึงเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเปี่ยมด้วยคุณภาพและเชื่อถือได้

การขยายตลาดฮาร์ดไดรฟ์สำหรับเอ็นเตอร์ไพร์ซ นับเป็นส่วนสำคัญของแผนดำเนินธุรกิจของฮิตาชิเนื่องจากเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และผลักดันให้มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งสามารถนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของฮิตาชิ การส่งฮาร์ดไดรฟ์เอ็นเตอร์ไพร์ซรุ่นใหม่ในปี 2550 นี้ จะทำให้ฮิตาชิสร้างผลกำไร และส่งผลให้ฮิตาชิอยู่ในตำแหน่งที่เข้มแข็ง บรรลุเป้าหมายคือเติบโต 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปีของจำนวนฮาร์ดไดรฟ์ที่ป้อนสู่ตลาดเอ็นเตอร์ไพร์ซ

ผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลง สู่ในการใช้ฮาร์ดไดรฟ์แบบ Small Form Factor (SFF)

ฮาร์ดไดรฟ์ตัวหลักในกลุ่มเอ็นเตอร์ไพร์ซ คือ Ultrastar C10K147 ซึ่งเป็นฮาร์ดไดรฟ์แบบ small form factor ตัวแรกของฮิตาชิ ซึ่งถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีประสิทธิภาพสูงแต่ใช้พลังงานจากเซิร์ฟเวอร์ต่ำ ซึ่งไอดีซีคาดการณ์ว่า จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในการป้อนฮาร์ดไดรฟ์แบบดังกล่าวในตลาดอุตสาหกรรม จาก 2.4 ล้านชิ้นในปี 2549 เป็น 9.4 ล้านชิ้นในปี 2550 เพราะปัจจัยในด้านราคา ความจุ และการใช้พลังงานต่ำของศูนย์ข้อมูล ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนมาใช้ฮาร์ดไดรฟ์แบบ Small Form Factor (SFF) มากขึ้น ดังนั้น Ultrastar C10K147 จึงสามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้ และจะช่วยผลักดันให้เกิดความต้องการฮาร์ดไดรฟ์แบบดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น

มร.รอน โนเบล็ต รองประธาน Shared Technology, Industry Standard Servers and BladeSystem Division บริษัท เอชพี กล่าวว่า "ในฐานะที่เอชพีเป็นรายแรกในตลาดที่นำเสนอ small form factor SAS-based servers and storage อย่างเต็มรูปแบบ เอชพีมีการนำเสนอนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เชื่อถือได้ ประหยัดพลังงาน ตลอดจนด้านอื่น ๆ ที่ให้เกิดประโยชน์ต่อการลงทุนด้านไอทีของลูกค้า และด้วยการสนับสนุนของฮิตาชิในฐานะผู้คิดค้นเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ และรุ่น Ultrastar C10K147 เราจะช่วยผลักดันให้ทั้งอุตสาหกรรมมีการเปลี่ยนมาใช้ฮาร์ดไดรฟ์แบบ small form factor อย่างต่อเนื่อง"

เนื่องจากหลายองค์กรธุรกิจและไอทีต่างกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสู่โลกดิจิตอล ดังนั้น ความต้องการในการเก็บข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง และวีดีโอ หรือการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เพิ่มสูงมากขึ้น ข้อมูลเหล่านี้มีการจัดเก็บซ้ำกันหลายครั้งบนอินเทอร์เน็ต เซิร์ฟเวอร์ และศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งล้วนอยู่บนแกนหลักของฮาร์ดไดรฟ์เอ็นเตอร์ไพร์ซ โดยฮาร์ดไดรฟ์ที่หลากหลายของฮิตาชิจะช่วยให้ลูกค้าสร้างระบบพื้นฐานเพื่อการใช้ประโยชน์สูงสุดจากฮาร์ดไดรฟ์ทั้งในด้านการปฏิบัติงาน เพิ่มพลังงาน ความจุ และราคา สำหรับความต้องการจัดเก็บและการเข้าถึงข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ตามลำดับระบบการจัดเก็บข้อมูล

มร. จอห์น ไรด์นิง ผู้จัดการงานวิจัยอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ของไอดีซี กล่าวว่า "ซัพพลายเออร์ฮาร์ดไดรฟ์ต่างก็ประสบกับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นจากองค์กรต่าง ๆ ทั้งทางด้านการใช้พลังงานที่น้อย และมีความร้อนลดลง มีประสิทธิภาพสูง ใช้พื้นที่น้อย และความจุมากขึ้น ผู้จำหน่ายฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ฮิตาชิที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด ได้นำเสนอทางเลือกแก่ลูกค้าและทางเลือกของระบบผลิตภัณฑ์ OEMs เพื่อตอบรับความต้องการที่แตกต่างสำหรับการจัดเก็บข้อมูลเอ็นเตอร์ไพร์ซประเภทต่าง ๆ ได้"

ฮาร์ดไดรฟ์ Ultrastar รุ่นใหม่ของฮิตาชิ ถูกสร้างจากเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้โดยได้พัฒนาการออกแบบและวงจรอิเลคทรอนิกส์จากรุ่นก่อน ๆ และใช้ประโยชน์จากการออกแบบและระบบไฟฟ้าแบบเดิม 15K300 เป็นฮาร์ดไดรฟ์รุ่นใหม่ที่พัฒนามาจาก 15K147 ซึ่งเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับจากผู้ผลิต OEMs รายใหญ่ ส่วน Ultrastar A7K1000 พัฒนามาจาก Deskstar E7K500 ซึ่งเป็นฮาร์ดไดรฟ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน Enterprise SATA applications ด้วยระยะเวลาการทำงานเฉลี่ย (MTBF) อยู่ที่ 1.2  ล้านชั่วโมง

มร. ชินจิโร่ อิวาตะ ประธานฝ่ายการตลาด บริษัท ฮิตาชิ จีเอสที โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า "ตลาดเอ็นเตอร์ไพร์ซมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจของฮิตาชิ เรานำเสนอการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญเพื่อให้ลูกค้าสามารถสร้างสรรค์ จัดเก็บ และส่งผ่านข้อมูลดิจิตอลถึงกันได้ ส่วนลูกค้า OEMs รู้จักผลิตภัณฑ์ของเราในฐานะมาตรฐานคุณภาพ จากความสำเร็จดังกล่าว ฮาร์ดไดรฟ์ที่นำเสนอในปี 2550 จะช่วยให้ฮิตาชิเติบโตในตลาดเอ็นเทอร์ไพรซ์ และประสบความสำเร็จตามตั้งเป้าหมายที่ตั้งไว้"

ฮาร์ดไดรฟ์เอ็นเตอร์ไพร์ซทั้ง 3 รุ่น ของฮิตาชิได้ถูกสร้างขึ้นจากความเข้าใจในตลาดเอ็นเตอร์ไพร์ซ อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ตลอดจนการควบคุมการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ฮิตาชิยังคงให้ความสำคัญกับมาตรฐานการผลิตฮาร์ดไดรฟ์ที่เชื่อได้  และตรงกับความต้องการเฉพาะในสามส่วนสำคัญของการจัดลำดับการเก็บข้อมูลแบบเอ็นเตอร์ไพร์ซ

Ultrastar 15K300 – สำหรับระบบสารสนเทศสำคัญต่าง ๆ

- 3.5-inch, 15,000 RPM, up to 300GB

- 16 MB data buffer

- Ultra320 SCSI, 3Gb/s SAS and 4Gb/s FCAL interfaces

- Rotational Vibration Safeguard (RVS)

- Thermal Fly-height Control (TFC)

- Adaptive format

- End-to-end data protection

Ultrastar C10K147 – สำหรับเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องใช้พลังงานและประสิทธิภาพสูง

- SFF 2.5-inch 10,000 RPM, up to 147GB

- 16 MB data buffer

- 3Gb/s SAS interface

- Thermal Fly-height Control

- Adaptive format

- End-to-end data protection

Ultrastar A7K1000 – ความจุสูง ราคาต่อกิกะไบท์ต่ำ สำหรับเอ็นเทอร์ไพรซ์แบบ lower duty cycle

- 3.5-inch, 7,200 RPM, up to 1TB

- 3.0Gb/s SATA interface

- 32 MB data buffer

- Targeted 1.2 million hours MTBF

- Improved Rotational Vibration (RV) functionality

- Self Protection Throttling (SPT) technology

- Built on perpendicular magnetic recording technology

MTBF measurement (การวัดระยะเวลาเฉลี่ยก่อนการเสียหาย) คือ การวัดจากจำนวนกลุ่มตัวอย่าง และประมาณการจากการวัดทางสถิติและการเร่งของอัลกอริทึ่มภายใต้การทำงานแบบรอบการทำงานต่ำ lower duty cycle และ สภาวะทำงานที่เป็นปกติ nominal operating conditions โดยการวัดแบบ MTBF ไม่ใช่การคาดการณ์ความคงทนไม่ใช่การการันตีอายุของฮาร์ดไดรฟ์แต่ละชิ้น