เนื้อหาวันที่ : 2006-05-02 14:13:52 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1881 views

อินเทล เตรียมส่ง วี โปร เน้นด้วยปลอดภัยและประหยัดพลังงานออกสู่ตลาด

อินเทลเปิดเผยทิศทางใหม่ของพีซีสำหรับธุรกิจ เตรียมส่ง อินเทล วี โปร เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้านความปลอดภัย ลดค่าใช้จ่าย และประหยัดพลังงานได้คุ้มค่ายิ่งขึ้น

อินเทลได้เตรียมตัวส่ง อินเทล™ วีโปร™ เทคโนโลยี (Intel® vPro™) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของอินเทล คอร์ปอเรชัน ที่มีการพัฒนาคุณสมบัติให้ล้ำหน้าและโดดเด่นยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการรักษาความปลอดภัย คุณสมบัติด้านการจัดการ และประสิทธิภาพพลังการประมวลผลที่โดดเด่นไปพร้อมกับการประหยัดพลังงาน

.

ทุกวันนี้ธุรกิจต่าง ๆ มักได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวนและปัญหาด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ทั้งในรูปแบบของไวรัส และสปายแวร์ ที่สร้างความเสียหายให้กับระบบ รวมถึงการละเมิดข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ส่งผลให้ผู้จัดการฝ่ายไอทีต้องปรับปรุงขั้นตอนและปรับเปลี่ยนรูปแบบในการบริการลูกค้าอยู่เรื่อย ๆ  

.
อินเทล วีโปร เทคโนโลยี จะทำให้ธุรกิจและวงการไอทีก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่ช่วยให้ธุรกิจและวงการไอทีสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุดด้วยงบประมาณที่ลดลง
.

อินเทลได้สรุปถึงประโยชน์หลัก ๆ ที่จะได้รับจาก อินเทล วีโปร เทคโนโลยี ซึ่งจะมีการเปิดตัวออกสู่ตลาดภายในปีนี้ ผ่านการร่วมมือในวงกว้างกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และบริษัทผู้ให้บริการด้านไอที อีกทั้งยังได้รับความสนับสนุนจากผู้ผลิตพีซีทั่วโลกอีกด้วย  อินเทล วีโปร เทคโนโลยี ถือเป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุดของอินเทลที่เพิ่มขึ้นมา และนับเป็นแบรนด์แรกที่มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักธุรกิจและผู้ดูแลด้านไอทีโดยเฉพาะ

.

นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า  อินเทล วีโปร เทคโนโลยี เป็นเทคโนโลยีที่รวมเอาคุณสมบัติที่เหนือชั้นจากองค์ประกอบต่าง ๆ มารวมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งได้แก่ โปรเซสเซอร์ ชิปเซ็ต อุปกรณ์เครือข่าย และซอฟต์แวร์ ในลักษณะเดียวกับที่เคยนำเสนออินเทลเซนทริโน โมบายล์ เทคโนโลยี (Intel® Centrino™ mobile technology) และเทคโนโลยี อินเทลไวฟ์ (Intel® Viiv™)  เทคโลโลยีนี้จะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของพีซีแบบตั้งโต๊ะให้สูงขึ้นได้อย่างโดดเด่น ตลอดจนเพิ่มสมรรถนะด้านความปลอดภัยและการจัดการ โดยรวมคุณสมบัติเหล่านี้ไว้ในพีซีที่มีสมรรถนะสูงและประหยัดพลังงานมากที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด

.

หัวใจสำคัญของพีซีที่ใช้ อินเทล วีโปร เทคโนโลยี รุ่นแรกนี้ ได้แก่ โปรเซสเซอร์แบบดูอัลคอร์ ที่ใช้สถาปัตยกรรม อินเทล คอร์ ไมโครอาร์คิเทคเจอร์  ทั้งนี้ การประมวลผลด้วยไมโครอาร์คิเทคเจอร์ แบบ 64 บิตรุ่นใหม่ จะให้ประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น ประหยัดการใช้พลังงาน และตอบสนองต่อคำสั่งการทำงานได้เร็วขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มสูงขึ้น

.

นอกจากนี้ อินเทล วีโปร เทคโนโลยี ยังประกอบด้วยเทคโนโลยี อินเทล™ แอคทีฟ แมเนจเมนท์ (Intel® Active Management Technology – Intel® AMT) และเทคโนโลยี อินเทล™ เวอร์ช่วลไลเซชัน (Intel® Virtualization Technology – Intel® VT) รุ่นที่สอง โดยที่เทคโนโลยี อินเทล วีที จะมีอยู่ในโปรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ ส่วนเทคโนโลยี อินเทล เอเอ็มที รุ่นใหม่ จะรวมเข้าไว้ในชิปเช็ตของแพลตฟอร์มใหม่ เมื่อนำนวัตกรรมฮาร์ดแวร์นี้มารวมเข้ากับโซลูชันซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจประเภทต่าง ๆ จะทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพด้านการจัดการที่เหนือชั้นและยังมีความปลอดภัยมากขึ้น

.

เทคโนโลยี อินเทล เอเอ็มที จะช่วยให้ระบบการจัดการ การเก็บข้อมูลรายละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ในระบบ การตรวจวิเคราะห์ และการซ่อมเครื่องพีซี สามารถทำได้แม้ว่าเครื่องจะปิดอยู่ หรือเมื่อระบบปฏิบัติการหรือฮาร์ดไดรฟ์เกิดขัดข้อง จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านการดูแลรักษาเครื่องได้เป็นอย่างดี  เทคโนโลยีอินเทล เอเอ็มที รุ่นที่สอง ยังมีความสามารถในการแยกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดไวรัสหรือสปายแวร์ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อระบบ และยังมีระบบแจ้งให้ฝ่ายไอทีรับทราบอีกด้วยเมื่อระบบสามารถป้องกันความเสียหายได้สำเร็จ

.

เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น เทคโนโลยี อินเทล วีที ยังสามารถสร้างภาพแวดล้อมของฮาร์ดแวร์แบบแยกส่วนในพีซีเครื่องเดียวกัน เพื่อที่ฝ่ายจัดการทางไอทีสามารถให้บริการกับเครื่องนั้นได้แบบการสร้างพาร์ทิชัน โดยในสภาพแวดล้อมดังกล่าวฝ่ายจัดการไอทีจะสามารถทำงาน หรือกิจกรรมได้โดยอิสระ โดยที่ผู้ใช้งานเครื่องพีซีนั้น ๆ ไม่จำเป็นต้องรับรู้ และยังสามารถทำงานบนเครื่องพีซีนั้นได้อย่างต่อเนื่อง

.
ทั้งนี้ บริษัท ไซแมนเทค ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของอุตสาหกรรมไอที ได้ประกาศโครงการที่จะดำเนินการร่วมกับอินเทล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนที่วงการไอทีมีให้กับ อินเทล วีโปร เทคโนโลยี  แผนธุรกิจดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาโซลูชันด้านความปลอดภัย ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่แยกจากระบบปฏิบัติการพีซีหลัก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ระบบมากที่สุด สภาพแวดล้อมจำลองที่ใช้งานได้โดยแยกจากผู้ใช้นี้ จะช่วยป้องกันและรักษาข้อมูลพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
.

นอกจากนี้ อินเทล วีโปร เทคโนโลยี ยังได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากบรรดาผู้ค้าซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลก โดยบริษัทเหล่านี้จะวางจำหน่ายแอพพลิเคชันและโซลูชั่นใหม่ ๆ ที่สนับสนุนเทคโนโลยีนี้ออกจำหน่ายในปีหน้า บริษัทเหล่านี้ได้แก่ อะโดบี้, อัลทิริส, อโวเซนต์, เช็ก พอยท์, ซิสโก้, คอมพิวเตอร์ แอสโซซิเอทส์, ฮิตาชิ เจพี1, เอชพี โอเพ่นวิว, แลนเดสก์, เลโนโว, ล็อกดาวน์ เน็ตเวิร์ค, ไมโครซอฟท์, โนเวลล์, พานอรามา เอสดับเบิ้ลยู, เอสเอพี, สไคป์, สตาร์ซอฟต์คอมม์, SyAM Software, ไซแมนเทค และเซนิธ

.

บรรดาผู้นำในแวดวงธุรกิจที่ให้บริการด้านไอที ก็จะได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพด้านการจัดการที่มากับ อินเทล วีโปร เทคโนโลยี นี้เช่นกัน โดยบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งรวมถึง บริษัท อะทอส ออริจิน, อีดีเอส และบริษัท ซีเมนส์ เอจี ซึ่งประสบความสำเร็จในการลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีซึ่งเป็นผลจากเทคโนโลยี อินเทล เอเอ็มที โดยได้ตีพิมพ์ข้อมูลที่กล่าวถึงประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มที่ใช้ เทคโนโลยี อินเทล เอเอ็มที ในการช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทออกเผยแพร่ด้วย

.
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี อินเทล วีโปร เทคโนโลยี จะมีคุณสมบัติด้านกราฟิกล่าสุดอย่างครบถ้วน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อใช้กับแอพพลิเคชันธุรกิจที่ใช้กันทั่วไป และยังมีคุณสมบัติในการอินเทอร์เฟสกราฟิกอย่างเต็มรูปแบบพร้อมรองรับระบบปฏิบัติการวินโดว์ วิสต้า ของไมโครซอฟท์ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในอนาคต
.

อินเทล วีโปร เทคโนโลยี จะเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Intel® Stable Image Platform ที่สามารถระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนได้ โดยรับประกันว่าซอฟต์แวร์และไดรเวอร์รุ่นต่าง ๆ จากอินเทลจะมีพร้อมใช้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะเวลา 5 ไตรมาสหลังจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์  โดยเฉพาะในปีที่ 4 ของการใช้งาน องค์กรธุรกิจสามารถปรับระบบการใช้งานโปรแกรม Intel Stable Image Platform ได้หนึ่งครั้ง แทนที่จะต้องปรับระบบใหม่เพราะมีการเปลี่ยนซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ในภายหลัง อินเทล วีโปร เทคโนโลยี จะเริ่มเปิดศักราชใหม่ให้กับระบบคอมพิวเตอร์สำหรับวงการธุรกิจตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปีนี้เป็นต้นไป โดยบรรดาผู้ผลิตและรีเซลเลอร์ชั้นนำทั่วโลกจะติดโลโก้ใหม่ของเทคโนโลยีนี้อยู่บนพีซีที่มีเทคโนโลยีนี้ทุกตัว