เนื้อหาวันที่ : 2012-01-25 10:24:42 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1161 views

2554 น้ำตาเล็ดทั่วหน้าหวัง 2555 ฟื้นฟูทั่วถึง

สศอ.ชี้ปี 54 เป็นปีแห่งความทรงจำสำหรับภาวะเศรษฐกิจโลกที่แปรปรวน หวังปี 2555 จะเป็นปีแห่งความหวังที่ภาคเศรษฐกิจธุรกิจจะขับเคลื่อนไปข้างหน้า

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เผยแพร่บทความสถานการณ์ภาคอุตสาสหกรรมไทยปี 2554 ชี้เป็นปีแห่งความทรงจำสำหรับภาวะเศรษฐกิจโลกที่แปรปรวน นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้การผลิตในภาคอุตสาหกรรมหยุดชะงัก และเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศไทยที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมเป็นวงกว้างเช่นกัน หวังปี 2555 จะเป็นปีแห่งความหวังที่ภาคเศรษฐกิจธุรกิจจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยดี

2554 น้ำตาเล็ดทั่วหน้าหวัง 2555 ฟื้นฟูทั่วถึง

ต้องบันทึกไว้ในความทรงจำ อย่าให้เลือนลาง สำหรับภาวะเศรษฐกิจโลกที่เกิดอาการแปรปรวนราวกับอารมณ์ศิลปินดัง เมื่อต้นปี 2554 ยักษ์ใหญ่แดนปลาดิบเกิดแผ่นดินไหวขนาดความแรง 8.9 ริกเตอร์ ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์ซัดราบพนาสูรในพริบตา หางคลื่นยักซัดมาถึงไทยแม้ไม่รุนแรงเท่าแต่ก็ทำให้ภาวะการผลิตในอุตสาหกรรมหยุดชงักไปชั่วขณะ กว่าจะเริ่มฟื้นได้ก็กินเวลาหลายเดือน อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ประเมินไว้ว่าทำสถิติใหม่ที่มียอดผลิตทะลุ 2,000,000 คันเป็นอันพับไป

ล่วงมาถึงวสันตฤดู พระพิรุณโปรยปรายลงมาราวกับฟ้ารั่ว ส่งผลให้น้ำทุ่งน้ำท่าท่วมท้น กลายเป็นวิกฤติน้ำท่วมทั่วถึงกว่าค่อนประเทศ ทำให้โรงงานอุตสาหกรรม จบน้ำกว่า 10,000 โรง ประเมินความเสียหานับแสนล้านบาท เครื่องจักรเสียหายหยุดการผลิตชั่วขณะเป็นแรมเดือน ส่งผลให้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจดิ่งเหวกันถ้วนหน้า

ภาคอุตสาหกรรมโดย นายอภิวัฒน์ อสมาภรณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ปี 2554 จะหดตัวในช่วง -9,-10% และอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 56-58% โดยข้อมูลล่าสุด 11 เดือนแรก MPI -7.9% อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 58.6%

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อ MPIเนื่องจากมหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ทั่วประเทศทำให้การผลิตหยุดชะงักเป็นการชั่วคราว  โดยเฉพาะในเขตนิคมอุตสาหกรรมของจังหวัดอยุธยาและปทุมธานี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ในการผลิตสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง และส่งผลให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบโดยตรงจากการหยุดการผลิต

ขณะที่ แนวโน้มภาคอุตสาหกรรมปี 2555 คาดว่า MPI จะขยายตัวในช่วงระหว่าง 5–6% โดยแนวโน้มอุตสาหกรรมไทยในปี 2555 ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวในไตรมาสที่ 1 และในไตรมาสที่ 2 จะเริ่มอยู่ในภาวะขาขึ้นและอาจเติบโตในระดับปกติหรือทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่

ส่วนแนวโน้มครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตได้ ภายใต้ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ก็คือการใช้จ่ายหรือลงทุนของภาครัฐบาลในด้านต่างๆ รวมไปถึงแรงขับเคลื่อนจากการเร่งการผลิตในหลายสาขาอุตสาหกรรมหลังจากที่ได้รับการฟื้นฟูโรงงานและกลับมาผลิตอีกครั้ง จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนการขยายตัวให้กลับคืนมาอีกครั้ง
 
ส่องอุตสาหกรรมรายสาขา 
อาหาร
เมื่อเทียบกับปีก่อน ภาวะการผลิตเพิ่มขึ้น 20% เนื่องจากการผลิตในหลายสินค้า ได้รับผลดีจากการที่ประเทศผู้ผลิตสำคัญหลายประเทศประสบปัญหาด้านวัตถุดิบจากภัยธรรมชาติ ส่งผลต่อระดับราคาสินค้าเกษตรและอาหารในตลาดโลกมีทิศทางปรับตัวสูงขึ้นในเกือบทุกสินค้า  ส่งผลให้การผลิตอุตสาหกรรมอาหารของไทยได้รับผลดี

แนวโน้มปี 2555  คาดว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 0.1% โดยยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น การประกาศลดค่าเงินของประเทศคู่แข่งและการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาท ความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศของผู้บริโภคที่ยังชะลอการจับจ่ายใช้สอย ภัยธรรมชาติที่ไม่อาจคาดการณ์ได้  และมาตรการกีดกันทางการค้ารูปแบบต่างๆ ที่ประเทศผู้นำเข้าจะประกาศใช้ในอนาคต นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังการประกาศมาตรการกีดกันรูปแบบใหม่  โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การวิเคราะห์ร่องรอยคาร์บอนและการใช้น้ำ และความปลอดภัยของแรงงาน ซึ่งจะประกาศใช้เพื่อส่งเสริมการผลิตในกลุ่มประเทศสมาชิก นอกจากนี้การที่สหรัฐฯ กำลังพิจารณายกเลิกการคว่ำบาตรการค้ากับพม่า อาจส่งผลต่อการแข่งขันกับสินค้าไทยได้ในอนาคต

สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เมื่อเทียบกับปีก่อน MPI ของการผลิตเส้นใยสิ่งทอฯ และการผลิตเครื่องแต่งกายฯ (เสื้อผ้าสำเร็จรูป) ลดลง -12.6 %และ -15.7% ตามลำดับ เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของตลาดส่งออกหลักอย่างสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ประกอบกับความผันผวนของราคาฝ้ายซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต จึงกระทบต่อคำสั่งซื้อสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่มีแนวโน้มกระทบต่อการผลิตที่จะปรับลดลง

แนวโน้มปี 2555 คาดว่าทั้งปริมาณการผลิตเส้นใยสิ่งทอ ผ้าผืน เครื่องนุ่งห่มโดยเฉพาะเสื้อผ้าสำเร็จรูป จะมีการผลิตที่ปรับตัวลดลงเนื่องจากอุทกภัย หากสถานการณ์คลี่คลายและโรงงานที่ได้รับความเสียหายสามารถฟื้นตัวได้ในระยะเวลาอันสั้น (ไม่เกิน 6 เดือน) จะช่วยลดผลกระทบได้ โดยการผลิตและมูลค่าการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มคาดว่าจะฟื้นตัวได้ภายในไตรมาสที่ 2 แต่ถ้าใช้เวลาฟื้นฟูนานเกินกว่า 6 เดือน ผู้ประกอบการอาจจะต้องนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการผลิต ทั้งผ้าผืน เส้นใย เส้นด้าย และเสื้อผ้าสำเร็จรูป

เหล็กและเหล็กกล้า เมื่อเทียบกับปีก่อนการผลิตโดยรวมลดลง -6.04% เนื่องจากการภาคก่อสร้างชะลอตัว ประกอบกับปริมาณสต๊อกที่เหลือค้างจากการเร่งผลิตในปีก่อน นอกจากนี้เป็นผลมาจากการนำเข้าเหล็กชนิดที่เติมธาตุโบรอนทั้งในกลุ่มของเหล็กเส้นและเหล็กแผ่นจากประเทศจีนเพิ่มมากขึ้น ส่วนสถานการณ์ราคาเหล็กในตลาดโลก เช่น เศษเหล็กที่ปรับลดลงทำให้แนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์เหล็กปรับลดลงด้วย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจของหลายประเทศของโลก เช่น ประเทศในแถบยุโรป จีน ที่ยังคงชะลอตัวอยู่ทำให้ความต้องการเหล็กของโลกลดลง

แนวโน้ม ปี 2555 คาดว่า ในส่วนของกลุ่มเหล็กทรงยาวซึ่งใช้ในภาคการก่อสร้างจะขยายตัวขึ้นส่วนหนึ่งเพื่อเร่งซ่อมแซมสาธารณูปโภคและบ้านเรือนที่เสียหายจากภาวะอุทกภัยในประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อรักษาระดับสต๊อกที่ลดลงในช่วงปลายปี 2554  สำหรับในส่วนของเหล็กทรงแบนคาดการณ์ว่าการผลิตและความต้องการใช้ในประเทศจะลดลงเนื่องจากนิคมอุตสาหกรรมหลายนิคมซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม  ส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กลดลงด้วย

ปูนซีเมนต์ เมื่อเทียบกับปีก่อน การผลิตปูนซีเมนต์ (ไม่รวมปูนเม็ด) ประมาณ 36.42 ล้านตัน ลดลงเล็กน้อย -0.22% เนื่องจากในปี 2554 อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์เติบโตขึ้น โดยเฉพาะช่วงครึ่งปีแรก ภาคอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในที่อยู่อาศัยประเภทบ้านจัดสรร เนื่องจากมีการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนออกสู่ชานเมือง

และปัจจัยสำคัญที่มีส่วนสนับสนุนต่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ คือ การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล ซึ่งมีส่วนช่วยผลักดันให้มีการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ก็ไม่ขยายตัวอย่างที่คาดไว้ในช่วงต้นปี

เนื่องจากเกิดปัญหาอุทกภัยทำให้มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานานในหลายพื้นที่ ซึ่งถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะน้ำท่วม แต่ทำให้เกิดอุปสรรคในการขนส่ง รวมทั้งการก่อสร้างต่างๆ ต้องชะลอออกไป ส่งผลให้การใช้ปูนซีเมนต์ลดลงตามไปด้วย

แนวโน้มปี 2555 คาดว่าความต้องการใช้ปูนซีเมนต์จะเพิ่มขึ้นหลังจากที่ภาวะน้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย พื้นที่ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงเส้นทางการขนส่งที่เสียหายจากน้ำท่วม ทั้งนี้ผู้ประกอบการได้เตรียมการผลิตเพื่อรองรับความต้องการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเห็นผลอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 1-ไตรมาสที่ 2 ปี 2555

ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเทียบกับปีก่อนการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าลดลง -5% เนื่องจากความผันผวนของตลาดส่งออก และผลกระทบจากอุทกภัยภายในประเทศ คาดว่าจะทำให้การผลิตลดลงต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 ก่อนจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2 ของปี 2555

โดยการผลิตในส่วนของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ประกอบกับได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ทำให้คาดว่าการผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในไตรมาสที่ 4 จะลดลงประมาณ -15% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ทั้งปีคาดว่ายังสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยระหว่าง 2-3% เนื่องจากสินค้าเครื่องทำความเย็น ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เป็นต้น ยังขยายตัวได้ ประกอบกับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเริ่มฟื้นตัวมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น

ขณะที่การผลิตอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะ HDD ค่อนข้างผันผวน ตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูปรุ่นใหม่ไม่ใช้ HDD เช่นที่ใช้ในคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค โดยเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ที่เร็วและราคาสูง แบบ Solid State Drive มากกว่า ทำให้การผลิตมีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้ผลกระทบจากอุทกภัย ทำให้คาดว่าใน  ไตรมาส 4 นี้ การผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะปรับตัวลดลงประมาณร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการผลิต HDD และ IC ซึ่งเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หลักของไทยต้องหยุดการผลิต และทั้งปี 2554 คาดว่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะมีการผลิตลดลงประมาณ -8-9%

แนวโน้มปี 2555 คาดว่าอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ยังคงขยายตัวได้ แต่มีอัตราการขยายตัวที่ไม่สูงมากนัก โดยอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5-7 เนื่องจากจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก ส่วนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น

10-12% เนื่องจากความต้องการสินค้าไอทีใหม่ๆ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงทางด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ที่มีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง ซึ่งจะส่งผลให้การซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ลดลงได้

รถยนต์ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีมีการผลิตชะลอตัวเล็กน้อย โดยมีการผลิตประมาณ 1.5 ล้านคัน เนื่องจากในช่วงต้น ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นใประเทศญี่ปุ่น  ส่งผลให้โรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทย มีการปรับลดการผลิตอันเนื่องมาจากการขาดแคลนชิ้นส่วน ได้แก่ ชิ้นส่วนสมองกล (Micro Computer Chip) ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ในเมืองเซนได และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

และปลายปี 2554 ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ  โดยมีโรงงานประกอบรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง คือ โรงงานผลิตรถยนต์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ตั้งอยู่ในสวนนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีการหยุดการผลิตตั้งแต่วันที่  4 ตุลาคม 2554 และคาดว่าจะกลับมาผลิตได้อีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2555

ส่วนโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์หลายรายก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ส่งผลให้ไม่สามารถส่งชิ้นส่วนรถยนต์ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ขาดชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิต อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนตลาดในประเทศ เช่น นโยบายการคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก และกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดโดยการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด เป็นต้น

แนวโน้มปี 2555 คาดว่าจะมีผลิตรถยนต์ประมาณ 2,000,000 คัน เพิ่มขึ้น 33% เนื่องจากการลงทุนผลิตรถยนต์รุ่นใหม่และรถยนต์ยี่ห้อใหม่ที่เริ่มผลิตในประเทศ เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศสำคัญในเอเชีย ตลอดจนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ภายหลังจากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ และการกระตุ้นยอดจำหน่ายจากนโยบายรถยนต์คันแรก อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องของอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมัน ที่อาจส่งผลต่อการเลือกซื้อรถยนต์ของผู้

ศักราชแห่งความสุข 2555 จึงเป็นปีแห่งความหวังที่ภาคเศรษฐกิจธุรกิจจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยดี เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยดี หมดเวลาเซ็ดน้ำตากับความเสียหายแล้ว จากนี้ไปต้องลุกขึ้นมาเข้าเกียร์ 5 ไปข้างหน้าอย่างผู้ชนะ จึงจะสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง