เปิดนโยบายนายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านคนใหม่ ชูยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ สร้างการยอมรับ มั่นใจตลาดรับสร้างบ้านพัฒนาต่อเนื่องคาดปี 55 มูลค่าตลาดรวม 1.2 หมื่นล้านบาท
เปิดนโยบายนายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านคนใหม่ ชูยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ สร้างการยอมรับ มั่นใจตลาดรับสร้างบ้านพัฒนาต่อเนื่องคาดปี 55 มูลค่าตลาดรวม 1.2 หมื่นล้านบาท
เปิดนโยบายนายกฯใหม่ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านดัน 2 นโยบายหลัก มุ่งยกระดับมาตรฐานทางวิชาชีพ และเร่งสร้างการรับรู้ในคำว่า “รับสร้างบ้าน” ให้เป็นที่ยอมรับเพิ่มมากขึ้น เผยทิศทางตลาดรับสร้างบ้านมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คาดปี 55 มูลค่าตลาดรวม 12,000 ล้านบาท หลังกำลังซื้อปีที่แล้วเริ่มกลับเข้ามา ประกอบกับราคาเฉลี่ยบ้านต่อหลังแนวโน้มสูง รวมถึงการเร่งสร้างการรับรู้ของสมาคมฯ
ดร.พัชรา ตัณฑยรรยง
นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน
ดร.พัชรา ตัณฑยรรยง นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า นโยบายของสมาคมฯ ปี 2555-2556 ยังคงมุ่งเน้นความสำคัญในการยกระดับมาตรฐานของธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับกับผู้บริโภค โดยแบ่งนโยบายหลักออกเป็น 2 เรื่องคือ การยกระดับมาตรฐานทางวิชาชีพ และการสร้างการับรู้ในคำว่า รับสร้างบ้าน
โดยในส่วนของการยกระดับมาตรฐานทางวิชาชีพสมาคมฯ จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของสมาชิก โดยเฉพาะการพัฒนามาตรฐานและคุณภาพการให้บริการเพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความพึงพอใจสูงสุด โดยสมาคมฯจะมีการจัดตั้งโครงการพัฒนาวิชาชีพธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งจะมุ่งเน้นการฝึกอบรม พัฒนา และให้ความรู้ในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างต่อเนื่อง โครงการดังกล่าวนอกจากสมาชิกสมาคมฯแล้ว ยังเปิดโอกาสให้บริษัทรับสร้างบ้านอื่นๆ สามารถเข้าร่วมโครงการดังกล่าวนี้ได้ เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานทั้งธุรกิจไปพร้อมๆ กัน
โครงการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการช่วยพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของธุรกิจรับสร้างบ้าน ทั้งระบบแล้วยังสามารถช่วยรองรับการแข่งขันระดับนานาชาติซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตหลังการเปิดเสรีการค้าอาเซียนด้วยเช่นกัน นอกจากนี้สมาคมฯยังมีแนวทางในการพัฒนาฐานข้อมูลที่เกี่ยวกับธุรกิจรับสร้างบ้านด้วย
โดยแบ่งออกเป็น 2 แนวทางคือ การเร่งพัฒนางานทางด้านวิชาการให้มีความเข้มข้น มากขึ้น โดยเฉพาะการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อมุ่งตอบสนองความต้องการให้มากที่สุด และการร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกในการทำวิจัยร่วมกัน อาทิ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์
สำหรับนโยบายหลักอีกประการก็คือ การสร้างการรับรู้ในคำว่า “รับสร้างบ้าน”ซึ่งถือเป็นเรื่อง ที่สมาคมฯ ดำเนินการมาโดยตลอด และยังคงเป็นเรื่องที่ต้องมีการสานต่ออย่างต่อเนื่องผ่านการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ
อาทิ การจัดงาน รับสร้างบ้าน Focus, การจัดงานรับสร้างบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้สมาคมฯ จะเร่งสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านการให้ความรู้ความเข้าใจในธุรกิจรับสร้างบ้านผ่านบทความทางวิชาการ อาทิ ความรู้เกี่ยวกับการสร้างบ้าน, วัสดุก่อสร้างประเภทต่างๆ, ความรู้ทางด้านการเงิน ฯลฯ ให้เพิ่มมากขึ้น
“นโยบายเรายังให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นหลัก โดยเฉพาะการสื่อสารและสร้างการรับรู้ในคำว่า “รับสร้างบ้าน”ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ทำได้ดีมาโดยตลอด ส่วนแบ่งการตลาดของสมาชิกแต่ละบริษัทเพิ่มขึ้น ยอดขายก็เติบโตขึ้น และเราก็เห็นพัฒนาการของแต่ละบริษัทเองก็เพิ่มความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เรายังมุ่งเน้นที่จะสานต่อ พร้อมกับวิธีในการนำเสนอที่หลากหลายรูปแบบมากขึ้น” ดร.พัชรา กล่าว
ดร.พัชรา กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของภาพรวมตลาดรับสร้างบ้าน ก็ยังถือเป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญ โดยในปีที่ผ่านมาตลาดรับสร้างบ้านมีมูลค่ารวมที่ประมาณ 11,000 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่สมาคมฯ คาดการณ์ไว้ประมาณ 500ล้านบาท โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาอุทกภัย รวมถึงการปรับตัวสูงขึ้นของราคาพลังงาน
ขณะที่ในปี 2555 คาดว่ามูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ราว 12,000ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ชะลอการตัดสินใจในช่วงที่มีอุทกภัยจะกลับเข้ามาสร้างบ้านอีกครั้ง ขณะเดียวกันค่าเฉลี่ยของการสร้างบ้านแต่ละหลัง มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ และการเร่งสร้างการรับรู้ในคำว่า “รับสร้างบ้าน” ของสมาคมฯ ให้เป็นที่ยอมรับกับผู้บริโภคมากขึ้นด้วย