ญี่ปุ่น-มะกัน หนุนสร้างโรงกำเนิดไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ ลงนามข้อตกลงช่วยกันส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในระดับโลกควบคู่ไปกับการพัฒนาแนวทางป้องกันการแพร่กระจายที่นำไปสู่การพัฒนาอาวุธ
|
ญี่ปุ่น-มะกันเดินหน้าส่งเสริมการสร้างโรงกำเนิดไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ โดยร่วมลงนามข้อตกลงช่วยกันส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในระดับโลกควบคู่ไปกับการพัฒนาแนวทางป้องกันการแพร่กระจายที่นำไปสู่การพัฒนาอาวุธ |
| . |
|
นายทาดาโอะ ยานาเสะ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนนโยบายพลังงานนิวเคลียร์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานสังกัดกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เปิดเผยความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาเพื่อพัฒนาแนวทางป้องกันการแพร่กระจายการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการพัฒนาอาวุธทำลายล้าง ขณะที่ต้องการส่งเสริมให้เกิดการนำนิวเคลียร์ไปใช้ประโยชน์ในการสร้างพลังงานทั่วโลก |
| . |
|
โดยสองฝ่ายได้ลงนามเป็นแผนเชิงปฏิบัติการเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา จัดตั้งเป็นกลุ่มทำงานหกด้านประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เพื่อศึกษาในด้านเทคโนโลยีเตาแยกปฏิกรแบบด่วน เทคโนโลยีรีไซเคิลเชื้อเพลิง การจำลองแบบ เตาแยกปฏิกรขนาดกลางและเล็ก มาตรฐานและการป้องกันความปลอดภัย รวมถึงการบริหารจัดการกากเชื้อเพลิง ทั้งจะตั้งคณะกรรมการติดตามซึ่งจะจัดการประชุมครั้งแรกในเดือนมิ.ย. ที่สหรัฐอเมริกา |
| . |
|
การพัฒนาพลังงานจากนิวเคลียร์กำลังเป็นประเด็นที่ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจอีกครั้ง เนื่องจากความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในตลาดที่กำลังเติบโตในอินเดีย และจีน ความตึงตัวในตลาดน้ำมันทำให้ราคาขยับสูงขึ้นเป็นระยะ และปัญหาโลกร้อนที่เกิดจากการเผาผลาญน้ำมันนำไปสู่การสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ |
| . |
|
อย่างไรก็ตาม นายยานาเสะระบุว่า เนื่องจากสหรัฐอเมริกาปรับนโยบายหันมาส่งเสิรมการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เมื่อปี 2548 หลังจากหยุดไปเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นที่เกาะทรีไมล์เมื่อปี 2522 ภายใต้นโยบายใหม่ รัฐบาลสหรัฐสร้างแรงจูงใจด้วยการปรับลดภาษีและประกันเงินกู้ให้ แต่เนื่องจากหยุดการพัฒนาไปเกือบ 30 ปีทำให้สหรัฐอเมริกขาดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ จึงเป็นสาเหตุที่สหรัฐอเมริกาหันมาร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์กับญี่ปุ่น ซึ่งหากทั้งสองสามารถพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์พร้อมกับป้องกันการแพร่กระจายได้ก็จะช่วยญี่ปุ่นในการเจรจาเรื่องพลังงานนิวเคลียร์กับรัสเซียและคาซัคสถานได้ง่ายขึ้น |
| . |
|
โดยญี่ปุ่นกำลังเจรจากับรัสเซียในโอกาสที่นายมิกาอิล ฟราดกอฟ รัฐมนตรีรัสเซียเดินทางเยือนญี่ปุ่นซึ่งมีการหารือข้อตกลงร่วมกันพัฒนานิวเคลียร์ หลังเคยหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดถึงเมื่อฤดูร้อนปีก่อน ทั้งนี้ญี่ปุ่นต้องการหาแหล่งเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในรัสเซียเพื่อรีไซเคิลเชื้อเพลิงนิวเคลียร์มาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า แต่ในขั้นเริ่มต้นจำเป็นต้องเห็นชอบกันในด้านการใช้พลังงานเพื่อสันติก่อน เพราะกระบวนดังกล่าวอาจนำไปสู่การพัฒนาเป็นอาวุธได้ด้วย |
| . |
|
จากข้อมูลของทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศระบุว่าปัจจุบันมีโรงปฏิกรนิวเคลียร์ราว 435 แห่งใน 30 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นปริมาณกระแสไฟฟ้า 370 กิ๊กะวัตต์ หรือ 16% ของการผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งโลก ขณะที่คาดว่ามีโรงปฏิกรนิวเคลียร์อีกราว 30 แห่งที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างใน 11 ประเทศ ซึ่งรวมถึงในจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และรัสเซีย และในอีก 15 ปีข้างหน้าน่าจะมีโรงปฏิกรนิวเคลียร์สร้างใหม่อีกอย่างน้อย 60 แห่ง ช่วยเพิ่มการผลิตกระแสไฟฟ้าให้ได้เป็น 430 กิ๊กะวัตต์ภายในปี 2563 |
| . |
|
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ |
Thailandindustrycom_official
