กระทรวงการคลัง เปิดเผยการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2555 ยังเป็นไปตามเป้าหมายแม้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลเดือนธันวาคม 2554 และในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2555 (ตุลาคม – ธันวาคม 2554)
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2555 ยังคงเป็นไปตามเป้าหมาย แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 13.7 พันล้านบาท
เดือนธันวาคม 2554 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 124,595 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,768 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.9 โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,963 และ 1,883 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ กรมศุลกากรได้ส่งคืนเงินที่กันไว้สำหรับชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับผู้ส่งออกสินค้าเหลือจ่ายจำนวน 4,655 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 4,330 ล้านบาท เป็นผลจากเหตุการณ์อุทกภัย และรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้ต่ำกว่าประมาณการ 4,037 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้นำส่งเงินปันผลจากกำไรสุทธิประจำปี 2553 แล้วในเดือนพฤศจิกายน 2554 จำนวน 3,984 ล้านบาท (ประมาณการว่าจะนำส่งในเดือนธันวาคม 2554)
ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2555 (ตุลาคม – ธันวาคม 2554) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 396,150 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 13,672 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 จากการจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บ (กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร) หน่วยงานอื่น และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจที่สูงกว่าประมาณการ 3,853 1,688 และ 505 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ การคืนภาษีของกรมสรรพากรต่ำกว่าประมาณการที่ตั้งไว้
นายสมชัยฯ สรุปว่า “การดำเนินมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลทั้งด้านการเงินและการคลัง เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จะส่งผลให้เศรษฐกิจ ฟื้นตัวโดยเร็ว และมั่นใจว่าในปีงบประมาณ 2555 นี้ ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลจะเป็นไปตามเป้าหมาย ที่ตั้งไว้ 1.98 ล้านล้านบาท”
ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลเดือนธันวาคม 2554
และในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2555 (ตุลาคม – ธันวาคม 2554)
ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลเบื้องต้นเดือนธันวาคม 2554 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 124,595 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 5,768 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 ส่งผลให้รายได้สุทธิของรัฐบาลในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2555 มีจำนวนเท่ากับ 396,150 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 13,672 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 สรุปได้ ดังนี้
1. เดือนธันวาคม 2554 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 124,595 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,768 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.1) ภาษีที่จัดเก็บได้ สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีมูลค่าเพิ่ม และอากรขาเข้า จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,963 1,883 และ 1,205 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.3 3.8 และ 13.6 ตามลำดับ โดยภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ เนื่องจากในเดือนนี้มีการนำเข้าสินค้าประเภทรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ (พิกัด 87) ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ กรมศุลกากรได้ส่งคืนเงินที่กันไว้สำหรับชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับผู้ส่งออกสินค้าเหลือจ่ายจำนวน 4,655 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 4,330 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.6 เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์ยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศ นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้ต่ำกว่าประมาณการ 4,037 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.7 เนื่องจาก บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้นำส่งเงินปันผลจากกำไรสุทธิประจำปี 2553 ไปแล้วในเดือนพฤศจิกายน 2554 จากที่ประมาณการไว้จะนำส่งในเดือนธันวาคม 2554
2. ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2555 (ตุลาคม – ธันวาคม 2554) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 396,150 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 13,672 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 (สูงกว่า ช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.1) เป็นผลจากการจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บ หน่วยงานอื่น และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 3,853 1,688 และ 505 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ การคืนภาษีของกรมสรรพากรต่ำกว่าประมาณการที่ตั้งไว้
ผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้
2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 278,297 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,999 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.3) ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ ที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สูงกว่าประมาณการ 3,846 และ 2,006 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.9 และ 4.0 ตามลำดับ สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ใกล้เคียงกับประมาณการ เนื่องจากภาษีที่จัดเก็บจากการนำเข้าสูงกว่าประมาณการร้อยละ 1.8 ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคในประเทศต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 1.2
2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 83,033 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,869 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.2 (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 25.8) ภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญได้แก่ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้ 16,914 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 8,044 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.2 เนื่องจากโรงงานผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ ได้รับผลกระทบในช่วงเหตุการณ์อุทกภัย
แต่อย่างไรก็ดี ขณะนี้เหตุการณ์น้ำท่วมได้คลี่คลายลงแล้ว ประกอบกับรัฐบาลมีมาตรการด้านภาษีในการยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับการนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนเพื่อทดแทนการผลิตในประเทศ ดังนั้น คาดว่าการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์จะดีขึ้นเป็นลำดับ
สำหรับภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษียาสูบ และภาษีสุราจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3,466 และ 1,093 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26.5 และ 9.0 ตามลำดับ เนื่องจากผู้จำหน่ายได้เร่งการสั่งซื้อเพื่อนำไปทดแทนสต๊อกเก่าที่ไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์อุทกภัย ส่วนภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 23,940 ล้านบาท หรือร้อยละ 62.4 เป็นผลจากการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลเหลือลิตรละ 0.005 บาท ตั้งแต่เดือนเมษายน 2554
2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 27,223 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 277 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.2) เนื่องจากจัดเก็บอากรขาเข้าได้ต่ำกว่าประมาณการ 238 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.9 ทั้งนี้ อัตราการขยายตัวของมูลค่านำเข้าในรูปดอลาร์สหรัฐฯ และเงินบาทเฉลี่ย 2 เดือน (ตุลาคม – พฤศจิกายน 2554) เท่ากับร้อยละ 9.3 และ 10.0 ตามลำดับ
2.4 รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 35,303 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 505 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.5 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 35.7) ส่วนหนึ่งเป็นผลจาก บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) นำส่งเงินปันผลสูงกว่าประมาณการ 829 และ 303 ล้านบาท ตามลำดับ
2.5 หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 27,020 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,688 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.7 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 3.7) เนื่องจากกรมศุลกากรได้ส่งคืนเงินที่กันไว้สำหรับชดเชยค่าภาษีอากรสำหรับผู้ส่งออกสินค้าเหลือจ่ายจำนวน 4,655 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี การจัดเก็บรายได้จากสัมปทานปิโตรเลียมต่ำกว่าประมาณการ 1,131 ล้านบาท นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ยังจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ 978 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 60.6 เนื่องจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ขอเลื่อนการนำส่งค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ไปในเดือนมกราคม 2555
2.6 การคืนภาษีของกรมสรรพากร จำนวน 48,594 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 7,421 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.2 โดยเป็นการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 41,526 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 5,474 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.6 และการคืนภาษีอื่นๆ 7,068 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 1,947 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.6