สศค. เชื่อ ธปท.ลงนามความตกลงทวิภาคีแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท วงเงินกว่าสามแสนล้านบาท ช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกไทย-จีนโต
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เชื่อ ธปท.ลงนามความตกลงทวิภาคีแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท วงเงินกว่าสามแสนล้านบาท ช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกไทย-จีนโต
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การลงนามในความตกลงทวิภาคีเพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาทกับจีน วงเงิน 7 หมื่นล้านหยวน หรือ 3.2 แสนล้านบาท จะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าไทย-จีน ในอีก 5 ปีข้างหน้า ให้เติบโตขึ้นร้อยละ 20 จากปัจจุบันมีมูลค่าร่วมกันอยู่ที่ 45,000+50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นเงินหยวนในสัดส่วนร้อยละ 1
โดยใน 5 ปีข้างหน้า มูลค่าการค้าจะอยู่ที่ 70 พันล้านหยวน นอกจากนี้ยังจะเป็นการช่วยดึงธุรกรรมที่อยู่นอกระบบธนาคารให้เข้ามาอยู่ในระบบธนาคารมากขึ้น และจะเป็นการเพิ่มทางเลือกลดความผันผวนของค่าเงิน นอกจากนี้ ธปท. มีแนวคิดที่จะหารือในการประชุม Executives’ Meeting of East Asia-Pacific Central Banks (EMEAP) ซึ่งเป็นกลุ่มอาเซียน 5 ประเทศ บวกอีก 6 ประเทศ เพื่อขอใช้เงินสกุลท้องถิ่นนั้น ๆ
สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันจีนเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทยโดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 54 ไทยส่งออกไปยังจีนคิดเป็นมูลค่า 25,366 ล้านบาทขยายตัวร้อยละ 18.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปยังจีน ได้แก่ คอมพิวเตอร์ ยางพารา เคมีภัณฑ์ เป็นต้น
ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าสำคัญจากจีน ได้แก่ คอมพิวเตอร์ เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องจักรกล และเคมีภัณฑ์ ทั้งนี้ การลงนามในความตกลงทวิภาคีเพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาทจะช่วยส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและจีนให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น