สศค.ชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายปี 55 ขึ้นอยู่กับการฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลด แรงกดดันเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจโลก คาดอยู่ที่ 2.75-3.75
สศค.ชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายปี 55 ขึ้นอยู่กับการฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลด แรงกดดันเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจโลก คาดอยู่ที่ 2.75-3.75
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รอง รมว.กระทรวงพาณิชย์ กล่าวในงานสัมมนา “Reinven Thailand ซ่อมสร้าง วาระบูรณะประเทศไทย” ว่าไม่เห็นด้วยกับการลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพียงร้อยละ 0.25 ซึ่งถือว่าไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่จำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่านี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
สศค. วิเคราะห์ว่า นับจากต้นปี 54 กนง. มีการประชุมทั้งสิ้น 8 ครั้ง และมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 5 ครั้ง จากแรงกดดันเงินเฟ้อที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาและแม้ว่าในกระประชุมรอบสุดท้ายของปีนี้ กนง.ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 อยู่ที่ร้อยละ 3.25 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และบรรเทาผลกระทบจากภาวะอุทกภัยแต่ภาคธนาคารพาณิชย์กับยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝากลง เนื่องจากต้องการความชัดเจนและความต่อเนื่องของนโยบาย
ขณะที่สภาพคล่องในระบบการเงินยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 2.05 ล้านล้านบาท (ณ ก.ย. 54) ซึ่ง สศค.วิเคราะห์ว่า ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบายปี 55 จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
ปัจจัยภายใน ได้แก่ (1) การฟื้นฟูประเทศหลังน้ำลดจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้รวดเร็วหรือไม่ (2) แรงกดดันเงินเฟ้อที่อาจปรับเพิ่มขึ้นหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว และปัจจัยภายนอก ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความเสี่ยง ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปี 55 จะอยู่ในช่วงร้อยละ 2.75-3.75 ต่อปี (คาดการณ์ ณ เดือน พ.ย. 54) โดย สศค. จะปรับประมาณการเศรษฐกิจอีกครั้งในเดือน ธ.ค. 54