ส่งออก เดินหน้าเจรจาพม่าเปิด 2 ด่านเพิ่มมูลค่าการค้าไทย-พม่า คาดขยายตัวที่ 35% เอกชนมั่นใจศักยภาพศูนย์กลางโลจิสติกส์ไทยเสนอพัฒนา 5 เมืองชายแดนคู่แฝด
กรมส่งเสริมการส่งออก เผยเดินหน้าเจรจาพม่าเปิด 2 ด่านเพิ่มมูลค่าการค้าไทย-พม่า คาดขยายตัวที่ 35% เอกชนมั่นใจศักยภาพศูนย์กลางโลจิสติกส์ไทยเสนอพัฒนา 5 เมืองชายแดนคู่แฝด
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ปัจจุบันประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนและอินเดียเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญอันดับต้นๆ ของโลกในเรื่องทางด้านเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน ซึ่งจะเห็นได้จากขนาดทางเศรษฐกิจของประเทศจีนที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจนสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ประเทศอินเดียนั้นมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายปีจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ประเทศพม่าเองก็เป็นประเทศที่ไม่ควรมองข้ามผ่านไป เนื่องจากประเทศพม่าเองอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติทั้งแร่ธาตุ อัญมณี ก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน มีจำนวนประชากรไม่น้อย ค่าแรงต่ำและมีชายแดนติดต่อทั้งประเทศจีน ไทย ลาว อินเดีย เปิดประเทศขึ้นเมื่อใดเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติต้องแห่เข้าไปหาทางลงทุนในประเทศพม่าทันที
ซึ่งประเทศพม่าเป็นหนึ่งในสมาชิกทั้ง 6 ประเทศในกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ GMS: Greater Mekong Sub regional Economic Cooperation คือ กัมพูชา จีน พม่า ลาว เวียดนาม ไทย ขณะที่ประเทศอินเดียซึ่งเป็นประเทศที่มีความสำคัญยิ่งในกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ BIMSTEC: Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation ที่มีสมาชิกรวม 7 ประเทศ คือ บังคลาเทศ ศรีลังกา อินเดีย ไทย พม่า เนปาล และภูฎาน ซึ่งทั้งสองกลุ่มความร่วมมือนี้มีศูนย์กลางการขนส่งอยู่ที่ประเทศไทย
“ขณะนี้ทางกรมฯ ได้ทำความตกลงกับประเทศพม่าในการขอเปิดด่าน 2 ด่าน คือ 1.เมืองเมียวดีกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งการเปิดด่านดังกล่าวจะเป็นตัวช่วยเร่งให้เกิดมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับพม่า และ 2.ด่านสิงขรถือเป็นจุดที่สำคัญของเส้นทางผ่านสินค้าจากไทยไปสู่เมียนมาร์ตอนใต้ (เส้นทางไปเมืองมะริด) ซึ่งเป็นเมื่องสำคัญทั้งการนำสินค้าทางไทยไปใช้เองและส่งต่อไปยังบังคลาเทศ อินเดีย และการนำเข้าสินค้าประมงจากเมียนมาร์สู่ไทย
ซึ่งคาดว่าสิ้นปี 2554 มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดพม่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 35 เนื่องจากในช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวและฤดูท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) รวมทั้งการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร ประชาชนชาวพม่าเริ่มจับจ่ายซื้อสินค้าในเทศกาลลอยกระทง การออกพรรษา และเข้าสู่ปีใหม่” นางนันทวัลย์ กล่าว
ล่าสุดในช่วงระหว่างวันที่ 19-20 ธันวาคม 2554 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยได้เดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) หรือ "4th GMS Summit & GMS-BIC 2011" ที่นครเนย์ปิตอว์ สหภาพพม่า โดยภาคเอกชนเสนอการพัฒนาเมืองต้นแบบของประเทศไทยเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านหรือเมืองชายแดนคู่แฝดตามข้อเสนอของภาคเอกชนไทยทั้งสิ้น 5 เมืองคู่แฝด ได้แก่
1.เชียงของ-ห้วยทราย ซึ่งเป็นเมืองที่จะพัฒนาเชื่อมโยงจังหวัดเชียงราย ภาคเหนือของประเทศไทยกับแขวงบ่อแก้วทางภาคเหนือด้านตะวันตกของ สปป.ลาว โดยทั้งสองเมืองมีศักยภาพในการพัฒนาเนื่องจากอยู่ในแนวเส้นทาง R3E (R3A) มีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2556 ระยะทางทั้งสิ้น 229 กิโลเมตร เป็นเส้นทางหลักของการเชื่อมโยงไทย-ลาว-จีน โดยมูลค่าการค้าชายแดน ของอำเภอเชียงของในปี 2554 นี้มีมูลค่า 8,199 ล้านบาท
2.แม่สอด-เมียวดี เป็นแนวทางการพัฒนาภาคเหนือตอนบนซีกตะวันตกของไทย บริเวณอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และภาคกลางด้านตะวันตกของพม่าบริเวณจังหวัดเมียวดี ซึ่งมีความเหมาะสมในการพัฒนาเป็นเมืองเศรษฐกิจชายแดนเนื่องจากเป็นด่านถาวรระหว่างไทย-พม่า และตั้งอยู่ภายใต้เส้นทาง East West Economic Corridor เชื่อมชายฝั่งทะเลตะวันออกจากเมืองดานังในตอนกลางของประเทศเวียดนาม ผ่านตอนกลางของประเทศไทยไปสู่นครย่างกุ้ง ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของ ทั้งนี้มูลค่าการค้าชายแดนในอำเภอแม่สอดปี 2554 มีมูลค่าอยู่ที่ 18,346 ล้านบาท
3.นครพนม-คำม่วน เป็นเมืองชายแดนเชื่อมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยที่จังหวัดนครพนมกับภาคตะวันตกของ สปป.ลาว ที่แขวงคำม่วน เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทาง East West Corridor เส้นบน สามารถเชื่อมโยงชายฝั่งทะเลจากเมืองวิงห์ และท่าเรือหวุ่งอ๋าง ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นท่าเรือสู่ทะเลจีนใต้ มีระยะทาง 310 กิโลเมตร
4.มุกดาหาร-สะหวันนะเขต เป็นเมืองต้นแบบเชื่อมภาคอีสานตอนบนของไทยที่จังหวัดมุกดาหารกับตอนกลางของ สปป.ลาว ที่แขวงสะหวันนะเขต ซึ่งมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 และเส้นทางหมายเลข 9 ระยะทาง 240 กิโลเมตร เชื่อมโยงเมืองดานังกับเมืองลาวบ๋าว-แดนสะหวัน-สะหวันนะเขต-มุกดาหาร เป็นเส้นทางหลักของการขนส่งสินค้า เชื่อมโยงจากเมืองท่าโฮจิมินห์เข้าสู่ไทย เหมาะจะเป็นเมืองต้นแบบด้านโลจิสติกส์ การค้าชายแดน การลงทุนด้านเกษตร เหมืองแร่ และด้านการท่องเที่ยว และ
5.กาญจนบุรี-ทวาย เป็นการพัฒนาเมืองต้นแบบของภาคตะวันตกตอนกลางของไทยกับภาคตะวันตกตอนใต้ของพม่า อยู่ในแนวการก่อสร้างเส้นทางพุน้ำร้อน-ทวาย มีระยะทาง 160 กิโลเมตร ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2558 อีกทั้งเส้นทางนี้จะไปสู่ท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ของภูมิภาค
ซึ่งตามโครงการจะมีการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในปี 2558 เป็นเส้นทางที่มีศักยภาพในการเป็นแลนด์บริดจ์ของท่าเรือแหลมฉบังฝั่งตะวันออก (อ่าวไทย) กับท่าเรือทวายที่อยู่ชายฝั่งตะวันตก (อันดามัน) ต้องมีการยกระดับให้เป็นด่านถาวร ทั้งนี้ จังหวัดกาญจนบุรี - เมืองทวายมีความเหมาะสมที่จะเป็นเมืองต้นแบบด้านอุตสาหกรรมชายแดน โลจิสติกส์ การขนส่งสินค้าข้ามแดนแบบ Transshipment ระหว่างประเทศ และด้านการท่องเที่ยว