สศค.ชี้ปตท.ปรับขึ้นราคา NGV เป็นการสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงเพื่อบรรเทาภาวะขาดทุน แต่ต้องมีมาตรการลดผลกระทบผู้บริโภค
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ชี้ปตท.ปรับขึ้นราคา NGV เป็นการสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงเพื่อบรรเทาภาวะขาดทุน แต่ต้องมีมาตรการลดผลกระทบผู้บริโภค
ปตท. เปิดเผยว่า จำเป็นต้องปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ (NGV) จากปัจจุบันที่จำหน่ายอยู่ที่ ก.ก. ละ 8.50 บาท เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เพราะตามข้อเท็จจริงแค่ต้นทุนเนื้อก๊าซที่ยังไม่รวมค่าขนส่ง และค่าบริหารจัดการก็อยู่ที่ 9.90 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีนี้จะทยอยปรับเดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม จนครบ 6 บาท/กก. สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2555
ทั้งนี้ต้นทุนเนื้อก๊าซเอ็นจีวีที่ปรับสูงขึ้นทุก ๆ ปีโดยในปี 2553 อยู่ที่ 8.39 บาทต่อกิโลกรัม และปี 2554 อยู่ที่ 9.90 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ที่ผ่านมาปตท. มีภาระขาดทุนสะสมจากการจำหน่ายราคาเอ็นจีวีต่ำกว่าทุนจนถึงสิ้นปีนี้รวม 4 หมื่นล้านบาท
สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับราคาขายก๊าซ NGV จะทำให้ราคาสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น แต่จำเป็นต้องหามาตรการรองรับเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มรถโดยสารแท็กซี่ เนื่องจากเป็นต้นทุนที่สำคัญในการให้บริการ หากไม่มีมาตรการช่วยเหลือจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชากรกลุ่มนี้
ทั้งนี้ในเบื้องต้นกระทรวงพลังงานได้ออกโครงการบัตรเครดิตพลังงานที่มีทั้งวงเงินเครดิตและส่วนลดสำหรับราคาก๊าซฯ 50 สต. – 2 บาทต่อกิโลกรัม รวมคิดเป็นมูลค่า 9,000 บาท เพื่อบรรเทาผลกระทบดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะช่วยบรรเทาแรงกดดันเงินเฟ้อในปี 2555 ลงได้บ้างโดยเฉพาะในหมวดค่าโดยสารสาธารณะซึ่งมีสัดส่วนในตะกร้าสินค้าร้อยละ 5.2 ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2555 จะขยายตัวที่ร้อยละ 3.3 ชะลอลงจากปี 2554