เอสวีโอเอเผยแนวโน้มสินค้าไอทีปีหน้าราคาดีดตัวสูงขึ้น สมาร์ทโฟนและแทบเล็ต ยังขยายตัวต่อเนื่อง
เอสวีโอเอเผยแนวโน้มสินค้าไอทีปีหน้าราคาดีดตัวสูงขึ้น สมาร์ทโฟนและแทบเล็ต ยังขยายตัวต่อเนื่อง
เอสวีโอเอ เผยทิศทางในปี 2555 หันมารุกตลาดดิสทริบิวชั่น เป็นผู้จัดจำหน่ายในทุกแบรนด์อย่างเต็มตัว พร้อมสร้างทีมบริการหลังการขายรองรับความต้องการของผู้บริโภคแบบไม่จำกัด เผยธุรกิจไอทีปีหน้าตลาดอาจเติบโตช้า แต่มีราคาสูงขึ้นจากผลกระทบจากอุทกภัย ส่วนสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นายวีระ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสวีโอเอ จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายคอมพิวเตอร์ไทย แบรนด์"เอสวีโอเอ" เปิดเผยว่า ธุรกิจไอทีในปี 2555 ในภาพรวมจะได้รับผลกระทบจาก 3 ปัจจัยหลักคือ หนึ่งภาวะอุทกภัยที่เกิดขึ้นนั้นทำให้สินค้าขาดตลาด โดยเฉพาะฮาร์ดดิสต์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของคอมพิวเตอร์ ซึ่งน่าจะเข้าสู่สภาพปกติประมาณสิ้นไตรมาสที่ 1
ปัจจัยที่สองคือการเติบโตของสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ที่มีการแข่งขันกันสูงมากในปัจจุบัน ทำให้ความต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กน้อยลงไปบ้าง ส่วนทิศทางตลาดไอทีโดยภาพรวมนั้น ขึ้นอยู่กับวางสินค้าประเภทสมาร์ทโฟนและแทบเล็ตว่าอยู่ฝั่งไหน จะอยู่ในส่วนของไอที หรืออยู่ในส่วนของโมบายโฟน
หากอยู่ในส่วนของตลาดไอที ก็น่าจะทำให้สามารถเติบโตได้อีก 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหากนำสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต อยู่ในกลุ่มโมบายโฟน ตลาดไอทีในปีหน้าก็จะไม่เติบโตเลย
ปัจจัยที่สามคือนโยบายของภาครัฐ เช่นการที่จะแจกแท็บเล็ตโรงเรียน จะทำให้ผู้บริโภครอดูสถานการณ์และยังไม่ตัดสินใจที่จะซื้อ เพื่อจะรอได้แท็บเล็ตฟรี เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จะส่งผลกับตลาดโดยรวมในปีหน้า
นายวีระกล่าวว่า ในส่วนของเอสวีโอเอในปี 2555 นั้น ยังคงตั้งเป้าหมายว่าจะเติบโตขึ้นประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ อันเนื่องมาจากผลกระทบจากปัจจัยทั้งสามประการที่ได้กล่าวไปแล้ว เอสวีโอเอเองจะขยายใน 2 ธุรกิจหลักคือ หนึ่งส่วนธุรกิจช่องทางการจัดจำหน่าย คือการเป็นตัวแทนจำหน่ายและกระจายสินค้าไอทีแบรนด์ต่างๆ ให้มากขึ้น โดยการนำสินค้าจากแบรนด์อื่น ๆ มาจัดจำหน่าย
โดยปัจจุบันเอสวีโอเอได้สิทธิ์เป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับ 15 แบรนด์ดัง และล่าสุดได้สิทธิ์การเป็นตัวแทนจำหน่ายของซัมซุง ในการจำหน่ายสินค้าไอทีเกือบทุกชนิด อาทิ โน้ตบุ๊ก , จอมอนิเตอร์ , เลเซอร์พริ้นเตอร์ , แทบเล็ต ,โปรเจคเตอร์ เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าเดลล์,ฟูจิตสึ เป็นต้น ผ่านตัวแทนจำหน่ายของเอสวีโอเอกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้เอสวีโอเอจะยังคงเจรจาและเสนอให้ผู้ผลิตสินค้าไอทีทุกแบรนด์
เชื่อมั่นว่าเอสวีโอเอมีศักยภาพในการจำหน่ายสินค้าไอทีได้ดี โดยตั้งเป้าหมายที่จะก้าวไปเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดช่องทางการจัดจำหน่ายและการบริการ ส่วนที่สองคือธุรกิจบริการหลังการขาย เอสวีโอเอมีทีมเซอร์วิส ที่คอยให้คำปรึกษาและบริการประมาณ 300 กว่าคน โดยรับงานบริการให้ลูกค้าได้ทุกแบรนด์ที่เป็นเซอร์วิสโพรไวเดอร์ที่เข้ามาในประเทศไทยทั่วประเทศ
“เราสามารถทำได้สินค้าที่เราจะเซอร์วิสไม่จำกัดเฉพาะไอทีโปรดักส์ พวกโน๊ตบุ๊ก เดสต์ท๊อปหรือแม้แต่พริ้นเตอร์ เราก็ให้บริการได้ และยังจะขยายเข้าไปในสเปเชียลโปรดักส์ เช่น ตู้เอทีเอ็ม เครื่องพิมพ์บัตรคิว หรือ มัลติโปรดักส์ ที่ไม่ได้จัดจำหน่าย แต่สามารถเข้าไปเซอร์วิสให้ได้ เนื่องจากมีช่องทางที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และทำตามที่โปรดักส์ ต้องการในประเทศไทย สิ่งที่เราทำได้เพราะมีระบบรวบรัดทำธุรกิจบริการ และลิงค์กับเจ้าของโปรดักส์ ทราบถึงพื้นฐานระบบการทำงานของสินค้าอยู่แล้ว และรู้พื้นฐานของผู้บริโภคว่าต้องการสิ่งใด”
นายวีระกล่าวอีกว่า สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ แบรนด์ “SVOA” นั้น จะไม่เข้าไปทำตลาดในส่วนของโน้ตบุ๊ก ซึ่งเอสวีโอเอจะเน้นไปที่ตลาดเดสต์ท็อปมากกว่า โดยมองว่าตลาดในส่วนนี้ยังคงโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นในส่วนของการทำตลาดคอนซูมเมอร์และระบบราชการให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเจาะเข้าในไปส่วนของเวอร์ทิเคิลมาร์เก็ต เช่น ธุรกิจอินเตอร์เน็ตไอ -คาเฟ่ หรือเกมเมอร์มาร์เก็ต ที่ยังคงมีอัตราเติบโต และมีช่องทางการทำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ทิศทางของตลาดไอทีในปีหน้าผู้ผลิตคอมพิวเตอร์หลาย ๆ แบรนด์จะเน้นเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีระดับไฮเอ็นด์มากขึ้น รวมถึงผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ยังคงมุ่งผลิตเครื่องโน้ตบุ๊กราคาสูงเป็นหลักในไตรมาสแรก ส่วนในไตรมาสที่ 2 และ 3 จะมีสินค้าไอทีคุณภาพปานกลาง และราคาไม่สูงมากนัก เริ่มกลับเข้าสู่ตลาดมากขึ้น โดยผู้ผลิตฮาร์ดดิสต์และมอเตอร์ จะเริ่มผลิตตามไลน์การทำงานได้อย่างปกติ แต่ทั้งนี้สินค้าไอทีจะมีราคาสูงมากขึ้น