เนื้อหาวันที่ : 2011-12-16 11:54:26 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 724 views

ดีเอ็มจีเปิดตัวหนังสือ ที่สุดแห่งความดี

ดีเอ็มจีเปิดตัวหนังสือ ที่สุดแห่งความดี ผลงานล่าสุดของท่าน ว. วชิรเมธี รวมความงามของที่สุด ลูกกตัญญู พร้อมปลุกพลัง ทำดี ตามรอยพระยุคลบาท

          ดีเอ็มจีเปิดตัวหนังสือ “ที่สุดแห่งความดี” ผลงานล่าสุดของท่าน ว. วชิรเมธี รวมความงามของที่สุด ‘ลูกกตัญญู’ พร้อมปลุกพลัง ‘ทำดี’ ตามรอยพระยุคลบาท

          เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๗  รอบ ๘๔ พรรษา พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี) ร่วมกับ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี จัดทำหนังสือทรงคุณค่า “ที่สุดแห่งความดี” เชิญชวนคนไทยร่วมเทิดพระเกียรติในปีมหามงคลนี้ด้วย ‘ความกตัญญู’ ซึ่งในพระพุทธศาสนามีหลักการวัดคนดีเอาไว้อย่างชัดเจนผ่านพุทธภาษิตว่า ‘ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี’

โดยกล่าวถึง เรื่องราวของมหาบุรุษยอดกตัญญูในสมัยพุทธกาล คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระสารีบุตร ผสานความรักระหว่างแม่กับลูก ของท่านพุทธทาสและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำมาซึ่งความงดงามของลูกกตัญญูและการเป็นต้นแบบของ ‘แรงบันดาลใจแห่งความดี’ เชื่อมร้อยปลุกพลังให้คนไทยลุกขึ้นมา ‘ทำดี’ เพื่อประโยชน์สุขของตนและของสังคมไทย โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมทบทุนมูลนิธิภูมิพโลภิกขุ ในพระราชูปถัมภ์และมูลนิธิธรรมดี

          มนุษย์ส่วนใหญ่ในยุคนี้ แม้ชีวิตสมบูรณ์ด้วยวัตถุ แต่ความสุขในหัวใจกลับเหือดหาย บางคนมุ่งดิ้นรนแสวงหาความสุขนั้น จนพลาดพลั้งตกหลุมความทุกข์ ชักนำชีวิตตนเจริญงอกงามในทางเสื่อม บ้างก็วิ่งไล่ล่าอนาคตที่แขวนอยู่บนความไม่แน่นอน  จนหลงลืมรากเหง้าของตนเอง กลายเป็นต้นไม้พันธุ์ที่ปลูกในเรือนเพาะชำของนักวิทยาศาสตร์ รากลอยเหนือผืนดิน

วันนี้เราจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า คนส่วนใหญ่ในศตวรรษนี้ รายได้สูง แต่กตัญญูต่ำ ความรู้สูง แต่คุณธรรมต่ำ นั่นเพราะเรายอมให้ความลุ่มหลงมัวเมาควบคุมบังเหียนชีวิต หัวใจตกเป็นทาสของความโลภ พอกพูนจนโลกใบนี้รุ่มร้อนไปด้วยไฟแห่งกิเลส ตาลปัตรลุกลามเข้าสู่ยุค ‘เสื่อม’ สาเหตุสำคัญที่สุดซึ่งทำให้เป็นเช่นนี้ เพราะมนุษย์มองข้าม ‘ความกตัญญู’ ซึ่งเป็นรากฐานของคุณธรรมแห่งความดีทั้งปวง

          พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) และสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี จึงมีดำริร่วมกันจัดทำหนังสือทรงคุณค่า ‘ที่สุดแห่งความดี’ เพื่อเทิดพระเกียรติในปีมหามงคลพุทธศักราช ๒๕๕๔ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมายุครบ ๗ รอบ ๘๔ พรรษา พร้อมถวายพระพรชัยมงคลอันสูงสุด ด้วยความดีภาคปฏิบัติ

โดยมีเนื้อหากล่าวถึง ที่สุดการแทนคุณของมหาบุรุษยอดกตัญญูเมื่อครั้งสมัยพุทธกาล คือ พระพุทธเจ้าและพระสารีบุตร ผสานความงดงามของความรักระหว่างแม่กับลูก ท่านพุทธทาสกับโยมมารดา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จย่า พระมหาวุฒิชัยกับโยมบิดามารดา นำมาซึ่งเรื่องราวอันซาบซึ้ง กินใจ แฝงแง่คิด เติมเต็มความรู้สึกให้ระลึกถึงความรักที่เคยหลงลืม และความดีที่สมควรกระทำมากที่สุดในชีวิต นั่นคือ ความกตัญญูกตเวทิตา

          หนังสือเล่มนี้ จึงเปรียบเสมือนตัวแทนแห่ง ‘พลังความดี’ เพื่อเชิญชวนคนไทยหัวใจกตัญญูให้ลุกขึ้นมา  ‘ทำดี’ ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ตอบแทนบุญคุณชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พ่อแม่ และทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ที่ทำให้เราดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข และร่วมกันจุดคบเพลิง ‘ที่สุดแห่งความดี’ นี้ ให้ส่องสว่างลุกโชนในหัวใจตัวเอง เพื่อเป็นอนุสาวรีย์แห่งความดีที่จะสถิตในโลกนี้ตลอดกาล เพื่อไปสู่บทสรุปที่ว่า ร้อยความดี ความกตัญญูมาเป็นที่หนึ่ง และดอกไม้ที่หอมที่สุดสำหรับพ่อแม่ คือ ดอกไม้ที่ชื่อว่า ลูกกตัญญู

          พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี กล่าวว่า ในอภิลักขิตสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๗ รอบ เราคนไทยควรจะได้เรียนรู้พระราชจริยวัตรในพระองค์ท่านอย่างถ่องถ้วนทั่วถึง เพื่อเก็บรับซึมซับแรงบันดาลใจนำเอาคุณธรรมยิ่งใหญ่จากพระองค์ท่าน มาประพฤติปฏิบัติขัดเกลาตน ให้มีชีวิตที่ร่มเย็นและเป็นสุข

หนังสือ ที่สุดแห่งความดี คือ รูปธรรมแห่งแรงบันดาลใจที่ผู้เขียนได้รับจากการศึกษาพระราชประวัติ พระราชจริยวัตร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เป็นที่รักยิ่งของเรา และนำมาบอกเล่าในรูปแบบใหม่ให้อ่าน ฟังกันง่ายๆ สบายๆ ด้วยความเชื่อมั่นว่า ผู้อ่านทุกท่านจะได้รับแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่เช่นเดียวกันกับที่ผู้เขียนได้รับมาไม่น้อยไปกว่ากัน

          ในงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “ที่สุดแห่งความดี” ที่หอประชุมพุทธคยา สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับเมตตาจาก พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี) แสดงธรรมบรรยายหัวข้อ “ร้อยความดี...ความกตัญญูมาเป็นที่หนึ่ง” ร่วมด้วย ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ อดีตวิศวกรนาซ่า ผู้ดำเนินชีวิตด้วยวิถีเศรษฐกิจพอเพียง ดำเนินรายการโดย คุณเพชรี พรหมช่วย

          หนังสือ “ที่สุดแห่งความดี” จำนวนหน้า ๒๗๖ หน้า ราคา ๒๑๙ บาท รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมทบทุนมูลนิธิภูมิพโลภิกขุ ในพระราชูปถัมภ์และมูลนิธิธรรมดี วางจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ และร้านดีบุ๊คส์ ชั้น ๒๒ อาคารอัมรินทร์พลาซ่า ถนนเพลินจิต (บีทีเอสชิดลม) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี โทร ๐ ๒๖๘๕ ๒๒๕๕ หรือ www.dmgbooks.com