ครม.เปิดไฟเขียวยกเว้นภาษีเงินได้ช่วยกิจการเรือเดินทะเลขยายเวลาจัดหาเรือใหม่ เพื่อพัฒนาการขนส่งทางน้ำและกิจการพาณิชยนาวี
ครม.เปิดไฟเขียวยกเว้นภาษีเงินได้ช่วยกิจการเรือเดินทะเลขยายเวลาจัดหาเรือใหม่ เพื่อพัฒนาการขนส่งทางน้ำและกิจการพาณิชยนาวี
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2554 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อการส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวีของประเทศ โดยดำเนินการแก้ไขหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 299) พ.ศ. 2539
กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและประกอบกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เฉพาะที่ได้จากการขายเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยนำเงินได้ดังกล่าวไปซื้อเรือลำใหม่หรือต่อเรือลำใหม่ตามสัญญาการต่อเรือ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังนี้
(1) ต้องมีการซื้อเรือลำใหม่และนำไปจดทะเบียนเป็นเรือไทยตามกฎหมายว่าด้วยเรือไทยภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ขายเรือลำเก่านั้น
(2) ให้สามารถจัดหาเรือด้วยการต่อเรือลำใหม่ตามสัญญาการต่อเรือ โดยให้นำเรือลำใหม่ไป จดทะเบียนเป็นเรือไทยตามกฎหมายว่าด้วยเรือไทยภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ขายเรือลำเก่านั้น
(3) ให้สามารถซื้อเรือลำใหม่ได้ก่อนที่จะมีการขายเรือลำเก่าออกไป โดยให้นำเรือลำใหม่ไปจดทะเบียนเป็นเรือไทยตามกฎหมายว่าด้วยเรือไทย และต้องขายเรือลำเก่าภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ซื้อเรือลำใหม่นั้น
(4) เรือที่ซื้อใหม่ตาม (1) และ (3) ต้องมีอายุการใช้งานมาแล้วน้อยกว่าเรือที่ขายไป รวมทั้งเรือที่ซื้อใหม่และเรือที่ต่อใหม่ตาม (1) (2) และ (3) ต้องมีระวางบรรทุกไม่น้อยกว่าเรือที่ขายไป
(5) ต้องแจ้งการขายเรือเก่า และการซื้อหรือการต่อเรือใหม่เป็นหนังสือต่ออธิบดีกรมสรรพากรภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ขายเรือเก่านั้น หรือนับแต่วันจดทะเบียนเรือลำใหม่เป็นเรือไทย
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “มาตรการภาษีเพื่อการส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวีของประเทศ เป็นนโยบายในด้านสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของรัฐบาลเพื่อพัฒนาการขนส่งทางน้ำและกิจการพาณิชยนาวี
โดยมาตรการนี้จะช่วยให้กิจการเรือเดินทะเล มีระยะเวลาในการวางแผนการจัดหาเรือลำใหม่ได้มากขึ้น โดยขยายกำหนดระยะเวลาในการจัดหาเรือใหม่ให้มากขึ้น รวมทั้งกำหนดวิธีการจัดหาเรือใหม่ให้ครอบคลุมถึงการว่าจ้างต่อเรือด้วย ซึ่งจะช่วยให้มีการขยาย กองเรือไทย เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของกองเรือพาณิชย์ไทยให้สูงขึ้น อันจะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวมากขึ้น
ดร.สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “มาตรการภาษีเพื่อการส่งเสริมกิจการพาณิชยนาวีของประเทศ จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีความคล่องตัวและมีระยะเวลามากขึ้นในการจัดหาเรือลำใหม่มาทดแทนเรือลำเก่า โดยจะทำให้ผู้ประกอบการได้รับเรือที่มีระวางบรรทุกตรงตามความต้องการ
รวมทั้งมีประสิทธิภาพมากกว่าเรือมือสองและลดภาระการซ่อมบำรุง ตลอดจนจะทำให้ผู้ประกอบการมีโอกาสที่จะได้เรือที่มีราคาที่เหมาะสมหากพบเรือที่ประกาศขายก่อนที่ผู้ประกอบการจะขายเรือลำเก่าออกไป นอกจากนี้จะทำให้ผู้ประกอบการมีเรือให้บริการตลอดเวลา”