บลจ.ไอเอ็นจี เดินหน้าจ่ายปันผลกองทุน โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ผลการดำเนินงานกองทุนเด่น เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 16.66% ได้รับการจัดอันดับ 4 ดาว
นายจุมพล สายมาลา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด
บลจ.ไอเอ็นจี เดินหน้าจ่ายปันผลกองทุน ‘โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต’ ผลการดำเนินงานกองทุนเด่น เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 16.66% ได้รับการจัดอันดับ 4 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์เชียร์ตลาดเกิดใหม่แนวโน้มสดใส ทุนสำรองสูง-หนี้ต่ำ-เหมาะลงทุน
บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ประกาศจ่ายเงินปันผล “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต-ปันผล” หน่วยละ 0.50 บาท เผยผลการดำเนินงานโดดเด่นติดอันดับ 4 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ช ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ 16.66% ระบุแนวโน้มตลาดในภูมิภาคเอเชียและตลาดเกิดใหม่ยังสดใส เหตุพื้นฐานเศรษฐกิจแกร่ง ทุนสำรองสูง ขณะที่หนี้สาธารณะต่ำ เหมาะกับการลงทุน
นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ในฐานะบริษัทจัดการ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต-ปันผล จะทำการจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ถึง 31 ตุลาคม 2554 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อ ณ วันปิดสมุดทะเบียนหน่วยลงทุน ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 13 ธันวาคม 2554 ในอัตราหน่วยละ 0.50 บาท
สำหรับ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต-ปันผล เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารหนี้ของตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคต่างๆ ของโลก โดยจากการจัดอันดับผลการดำเนินงานของกองทุนรวมจากบริษัท มอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ช (ประเทศไทย) (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2554, www.morningstarthailand.com) พบว่า กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต-ปันผล ได้รับการจัดอันดับใน MorningStar Rating Overall ที่ระดับ 4 ดาว
โดยมีผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ยต่อปีย้อนหลัง 3 ปี อยู่ที่ 16.66% เทียบดัชนีเปรียบเทียบ JP Morgan Emerging Markets Bond Index-Global Diversified Investment Grade ซึ่งอยู่ที่ 13.32% (ข้อมูล 28 ตุลาคม 2554, www.ingfunds.co.th)
ทั้งนี้ ปัจจัยที่สนับสนุนให้ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต-ปันผล มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น เนื่องจากปัจจัยพื้นทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียและกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ซึ่งมีปริมาณเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับที่สูง และระดับหนี้สาธารณะอยู่ในระดับที่ต่ำ ทำให้นับตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีเม็ดเงินลงทุนเริ่มไหลกลับเข้ามาลงทุนในกลุ่มประเทศดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น
รวมทั้งมูลค่าของตราสารหนี้ในเอเชียและกลุ่มประเทศเกิดใหม่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมกับการลงทุน และกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียและกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ยังมีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายการเงินเชิงผ่อนคลาย ภายหลังจากปัจจัยกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มคลี่คลายลง ซึ่งคาดหมายว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกที่มีแนวโน้มจะอยู่ในทิศทางขาลง
“จากภาพโดยรวมการลงทุนในตลาดเกิดใหม่หรืออีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต ที่มีภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและฐานะการเงินที่ดี รวมทั้ง จุดเด่นของกองทุนนี้คือการบริหารร่วมกับระหว่างผู้จัดการกองทุนของไอเอ็นจี ประเทศไทย และผู้จัดการกองทุนของ ING Investment Management ที่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภูมิภาคเอเชียและตลาดเกิดใหม่ จึงทำให้เราสามารถจัดพอร์ตการลงทุนและปรับเปลี่ยนการลงทุนได้อย่างเหมาะสม เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับกองทุน และกองทุนยังมีการคุ้มครองความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างน้อย 90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ จึงทำให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน” นายจุมพลกล่าว
ทั้งนี้ บลจ.ไอเอ็นจี มีความตั้งใจในการรักษามาตรฐานการบริหารกองทุนให้มีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่ดีได้ในระยะยาวและอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้กองทุนสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่อง และหวังว่า จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้าของบริษัทฯ ได้ต่อไปในอนาคต
สำหรับผู้สนใจลงทุนในกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต-ปันผล ของ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ingfunds.co.th หรือโทร. 0-2688-7777 กด 2
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต ของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การวัดผลการดำเนินงานนี้มิได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน
กองทุนนี้อาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ตามความเหมาะสมและสภาวการณ์ในแต่ละขณะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจที่ผู้จัดการกองทุนเห็นว่าเหมาะสม เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจะเกิดขึ้นได้จากการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนของกองทุนนี้ขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้