Preactor Group ปลื้มยอดขายซอฟต์แวร์โตกว่า 50% สวนทิศทางการเติบโตในภาคซอฟต์แวร์การผลิตที่ยังมีความไม่แน่นอน
Preactor Group ปลื้มยอดขายซอฟต์แวร์โตกว่า 50% สวนทิศทางการเติบโตในภาคซอฟต์แวร์การผลิตที่ยังมีความไม่แน่นอน
Preactor Group ผู้ให้บริการชั้นนำด้านซอฟต์แวร์การวางแผนและการกำหนดตารางเวลา (APS) ขั้นสูง มากว่า 18 ปี เผยตัวเลขทางการค้ายอดเยี่ยม รวมถึงจำนวนลูกค้าทั่วโลกรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 300 ราย
ในปีที่การเติบโตในภาคซอฟต์แวร์การผลิตยังมีความไม่แน่นอน Preactor กลับมียอดขายซอฟต์แวร์สุทธิเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับปี 2009 ซึ่งถือเป็นปีแห่งประวัติการณ์สำหรั้บบริษัทเลยทีเดียว โดยรายได้ทั้งหมดของบริษัทได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับปี 2009
การเติบโตของ Preactor ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องไตรมาสต่อไตรมาส ปีต่อปี โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20% ต่อปี นับตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมา ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการเติบโตที่ยากจะหาบริษัทใดในภาคอุตสาหกรรมนี้มาเทียบได้ ตัวเลขนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการวางแผนและการกำหนดตารางเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงกลุ่มของโซลูชั่นที่ครอบคลุม รวมถึงความแข็งแกร่งของ Preactor เองด้วย
Mike Novels ซีอีโอของกลุ่มบริษัท Preactor แสดงความเห็นถึงผลประกอบการนี้ว่า “นับเป็นอีกครั้งที่ตัวเลขของบริษัทแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ตลาดให้ความสำคัญและยอมรับคุณค่าของ APS มากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะที่เป็นเครื่องมือในการสร้างความสามารถทางการแข่งขันและสร้างผลกำไรมากขึ้นให้แก่บริษัทต่างๆ
ผลิตภัณฑ์รุ่นหน้า รุ่นที่ 11 ของเราที่กำลังจะออกนี้ ได้รับคำวิจารณ์ในทางบวกเป็นอย่างมากจากบรรดาหุ้นส่วนและผู้ใช้ และเราเองก็ตั้งใจที่จะช่วยเหลือบริษัททั้งหลาย ให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ขยายตัว”
ความสำเร็จในยุโรป
เป็นอีกครั้งที่ยุโรปครองตำแหน่งตลาดที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดของ Preactor โดยมีตัวเลขการเติบโตโดยรวมที่ 66% ในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร ซึ่งคิดเป็นจำนวนลูกค้าทั้งหมดในยุโรป รวมถึงสหราชอาณาจักรเป็นจำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 2,800 ราย โดยธุรกิจในฝรั่งเศสและเนเธอร์แลนด์ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุด ขณะที่ธุรกิจในเยอรมนี สเปน อิตาลี โปแลนด์ สโลเวเนีย และสาธารณรัฐเช็กก็แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งเช่นกัน
ลูกค้ารายใหม่ของบริษัท ประกอบด้วยบริษัทผู้นำในอุตสาหกรรม เช่น Mercedes-Benz High Performance Engines Ltd (ยานยนต์), Martell (Cognac – อาหารและเครื่องดื่ม) และ Pepsico International (Quaker Oats - อาหารและเครื่องดื่ม) ส่วนลูกค้ารายใหญ่อื่นๆ เมื่อคิดตามภาคอุตสาหกรรมประกอบด้วย Instituto Grifols, Qualiphar (เภสัชภัณฑ์),
Delifrance, Farm Frites, Aunt Bessie’s (อาหารและเครื่องดื่ม), SNPE (การทหาร/ยานยนต์/การบิน), Aerolia (การบิน) Eurotab (ยาเม็ดและเครื่องจักร), Felix (การก่อสร้างเชิงสถาปัตยกรรม), Fortal (งานโลหะสำหรับการก่อสร้าง), SNR Roulements (ตลับลูกปืน), Quovadis (เครื่องเขียน), Posson Packaging (บรรจุภัณฑ์), Eurafarad (อิเล็กทรอนิกส์), ASML (อุปกรณ์ในการผลิตชิป), Tuboplast CTL (การขึ้นรูปพลาสติก) และ Edilon Sedra (การขนส่ง/ทางรถไฟ)
การเติบโตในอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้
ยอดขายในอเมริกาเหนือได้เพิ่มขึ้น 53% จากปี 2009 ขณะที่ปี 2010 ได้มีการเปิดบริษัทในเครือในสหรัฐฯ ในเมืองดัลลาส รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นการช่วยหนุนการเติบโตในตลาดอเมริกาเหนือ และให้การสนับสนุนในระดับท้องถิ่นแก่เครือข่ายหุ้นส่วนที่อยู่ในแถบนั้น ขณะที่การเติบโตในอเมริกาใต้ได้เพิ่มขึ้น 64%
และปัจจุบัน หากนับเฉพาะในบราซิลและอาร์เจนตินา บริษัทมีลูกค้าอยู่มากกว่า 200 ราย ลูกค้าล่าสุดเมื่อคิดตามภาคอุตสาหกรรมได้แก่ Gerdau และ Arcelormittal (โลหะ), Aché และ Laboratorios Raffo (เภสัชภัณฑ์), Unicasa (เฟอร์นิเจอร์) และ Brasfrigo (อาหารและเครื่องดื่ม)
การพัฒนาในภูมิภาคตะวันออกกลาง เอเชีย และแอฟริกาใต้
สำหรับภูมิภาคตะวันออกกลางและเอเชีย ทางบริษัทก็มองเห็นถึงโอกาสทางการตลาดเช่นกัน โดยล่าสุดบริษัทได้ลูกค้าซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง TE Connectivity หรือชื่อเดิม Tyco Electronics (ผู้ผลิตแม่พิมพ์และแม่แบบ), Sterlite Technologies (พลังงานและโทรคมนาคม) และ Sanitarium (อาหารและเครื่องดื่ม)
แอฟริกาใต้เป็นตลาดที่แข็งแกร่งของ Preactor มาเป็นเวลานาน และในแง่ของการเจาะตลาดเมื่อเทียบกับ GDP ด้านการผลิตแล้ว จะเป็นรองจากสหราชอาณาจักรเท่านั้น และคาดว่าส่วนอื่นๆ ของแอฟริกาจะมีความคึกคักมากขึ้นในอนาคต
ลูกค้าจากนานาประเทศเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่โปรไฟล์ของลูกค้ารายใหม่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นได้ชัดเช่นกัน กล่าวคือ ในขณะที่บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมยังคงยกให้ Preactor เป็นโซลูชันที่สามารถสนองความต้องการเฉพาะที่ของทางบริษัทได้
ขณะเดียวกันบริษัทที่มีโครงสร้างใหญ่กว่านั้นที่เป็นข้ามชาติและบริษัทที่มีสำนักงานอยู่หลายแห่งจำนวนมากได้กลายมาเป็นลูกค้าของ Preactor เพื่อให้จัดหาโซลูชันสำหรับใช้งานทั่วทั้งองค์กร โดยทั่วไปแล้ว บริษัทเหล่านี้จะปรับใช้ซอฟต์แวร์ของ Preactor ที่บริษัทนำร่องก่อน จากนั้นจึงปรับใช้ทั่วทั้งกลุ่มบริษัท หลังจากผ่านการทดสอบจนเป็นที่ประจักษ์ถึงประโยชน์ที่ได้รับ ตัวอย่างของบริษัทที่ใช้วิธีการนี้ได้แก่ Eurocopter (การบิน), Technip (อุปกรณ์ในภาคน้ำมัน), Areva (การผลิตพลังงาน) และ Cofel (เฟอร์นิเจอร์)
ได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายอุตสาหกรรม
ในแง่ของภาคอุตสาหกรรม ประมาณ 50% ของลูกค้ารายใหม่ในปี 2010 มาจากภาคอุตสาหกรรมการไฟฟ้า เครื่องจักร โลหะ เคมี เภสัชภัณฑ์ อาหารและเครื่องดื่ม ยาสูบและปิโตรเลียม ขณะที่ภาคการบิน การทหาร และยานยนต์ก็คึกคักมากขึ้นไม่แพ้กันโดยคิดเป็นสัดส่วน 10% ของลูกค้าใหม่ ส่วนตลาดอื่นๆ เช่น พลาสติก ยาง ไม้ สิ่งทอ และอื่นๆ ก็มีการเติบโตแบบปีต่อปี
การเติบโตที่แข็งแกร่งในปี 2011
“กล่าวโดยสรุปแล้ว ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับการเติบโตของตลาด APS และสถานะของเราในตลาด Mike Novels กล่าว และเสริมว่า “ขณะที่องค์ประกอบของความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจยังคงเกิดขึ้นในหลายตลาด แต่ตัวเลขในไตรมาสที่หนึ่งแสดงให้เห็นว่า
การเติบโตของเรายังคงดำเนินต่อไป เห็นได้จากรายได้สุทธิที่เพิ่มขึ้น 15% ปัญหาท้าทายของเราตอนนี้ก็คือ การรักษาการเติบโตนี้ให้ได้ต่อไปตลอดระยะเวลาที่เหลือของปี 2011 นี้และต่อจากนั้น ด้วยจุดแข็งในผลิตภัณฑ์ของเราและเครือข่ายหุ้นส่วนที่มีอยู่ทั่วโลก ผมจึงเชื่อว่า Preactor จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเช่นนี้ตลอดไป”