เนื้อหาวันที่ : 2011-11-22 14:33:57 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2705 views

อีเอ็น-วี และ มีเรย์ ยนตรกรรมต้นแบบอัจฉริยะจากเชฟโรเลต

เชฟโรเลต เตรียมโชว์รถต้นแบบอัจฉริยะอีเอ็น-วี และ มีเรย์ ภายใต้แนวคิด การขับเคลื่อนล้ำอนาคต ในงานมอเตอร์ เอกซ์โปร

          เชฟโรเลต เตรียมโชว์รถต้นแบบอัจฉริยะอีเอ็น-วี และ มีเรย์ ภายใต้แนวคิด การขับเคลื่อนล้ำอนาคต ในงานมอเตอร์ เอกซ์โปร

          เชฟโรเลต เตรียมนำ อีเอ็น-วี และ มีเรย์ ที่สุดแห่งยานยนต์ต้นแบบออกแสดงเทคโนโลยีในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2011 ภายใต้แนวคิด ‘การขับเคลื่อนก้าวล้ำอนาคต’ (Further and Beyond the future) ให้สาธารณชนผู้เข้าชมงานได้ร่วมก้าวสู่ศตวรรษที่สองของเชฟโรเลต ไปกับที่สุดแห่งเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยน แปลงโลกยานยนต์ในอนาคต

          มร.อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวคิดหลักของบูธเชฟโรเลต ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2011 คือการแสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอันล้ำอนาคต ผ่านทางสองยานยนต์ต้นแบบ เชฟโรเลต มีเรย์ และอีเอ็น-วี ที่ไม่เพียงจะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าอันเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่เชฟโรเลต เป็นผู้บุกเบิกและพัฒนามาโดยตลอดแล้ว ยังสะท้อนถึงทิศทางการออกแบบ และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่จะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์

          “ในปีนี้ นอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ของเชฟโรเลตแล้ว เรายังมองไปข้างหน้า เตรียมพร้อมในการก้าวสู่ศตวรรษที่สองด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนที่ล้ำอนาคต ผู้เข้าชมบูธเชฟโรเลต จะได้ร่วมสัมผัสกับยานยนต์ต้นแบบที่จะเปลี่ยนแปลงโลกยานยนต์ในอนาคตอย่างสิ้นเชิง” มร.ซาร่า กล่าว

          ผู้เข้าชมบูธเชฟโรเลต ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2011 นี้ จะได้สัมผัสกับอีเอ็น-วี (Electric Networked-Vehicle) ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าสองที่นั่ง ที่ได้รับการพัฒนาด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์เพื่อลดข้อจำกัดในการเดินทาง ลดปัญหาด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แก้ไขปัญหาความคับคั่งของการจราจร รวมถึงปัญหาในการหาที่จอดรถ ปัญหาคุณภาพอากาศ และปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นในเมืองใหญ่

          อีเอ็น-วี ยานยนต์ต้นแบบสุดล้ำทั้งสองคัน คือ สีแดง และสีน้ำเงิน ที่นำมาโชว์ในงานนี้ ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อให้ยานยนต์แต่ละคันสามารถสื่อสารระหว่างกัน พร้อมระบบเซนเซอร์ และกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่ช่วยบอกระยะห่างระหว่างรถยนต์ เพื่อการตอบสนองได้อย่างรวดเร็วต่อสิ่งกีดขวาง และการเปลี่ยนแปลงของสภาพการขับขี่ อีกทั้งยังช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยทั้งหมดนี้จะเป็นการเชื่อมต่อกันผ่านระบบจีพีเอส เป็นผลทำให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนได้เองอย่างอัตโนมัติ และปราศจากการควบคุมจากผู้ขับขี่

          “อีเอ็น-วี เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ที่สามารถทำให้การขับขี่แบบอิสระไร้ผู้ขับขี่เป็นจริงขึ้นมาได้ ด้วยการคิดค้นเทคโนโลยีระบบการเตือนก่อนการออกตัวของรถยนต์ ระบบการค้นหามุมอับของสายตาขณะขับขี่ หรือ แม้แต่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ผนวกกับความสนุกสนานในการขับขี่ และการออกแบบที่มีสีสัน ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวได้มีการนำไปใช้ในรถยนต์บางรุ่นของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ในปัจจุบันบ้างแล้ว” มร.ซาร่า กล่าว

          สำหรับเชฟโรเลต มีเรย์ เป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ต้นแบบ แนวคิดหลักของการดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ ทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร จึงมีความโฉบเฉี่ยวตามหลักอากาศพลศาสตร์ ตัวถังผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ และคาร์บอนไฟเบอร์เสริมโพลิเมอร์ ที่มีความแข็งแกร่ง ทนทาน และน้ำหนักเบา ปีก สปอยเลอร์หลังปรับระดับได้ เพิ่มแรงกดท้ายและช่วยควบคุมการไหลเวียนของอากาศ ซึ่งถูกออกแบบให้มีฝาถังน้ำมัน และช่องชาร์จไฟติดตั้งอยู่ด้านล่างอย่างแนบเนียน โดยช่องชาร์จไฟมีมาตรวัดแสดงความจุแบตเตอรี่อยู่ด้วย

          มีเรย์ มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าต้นแบบ “มิด-อิเลกทริก” (mid-electric) ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 15 กิโลวัตต์จำนวน 2 ตัว และใช้กำลังไฟจากแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ขนาด 1.6 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งชาร์จไฟขณะเหยียบเบรก ให้อัตราเร่งที่คล่องแคล่ว และปราศจากมลพิษอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน มีเรย์ ยังสามารถเปลี่ยนจากระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลังได้อีกด้วย

          “โรดสเตอร์ต้นแบบอย่างมีเรย์ จะนำเสนอแนวทางแห่งอนาคตของแบรนด์ที่จะเชื่อมโยงผู้ขับขี่และตัวรถให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น พร้อมกับการนำเสนอรูปลักษณ์อันสดใหม่ในแบบที่รถสปอร์ตควรจะเป็นในอนาคต” มร.ซาร่า กล่าว