บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เผยการบริหารสถานีบริการน้ำมัน ปั๊มเจ็ท (JET) หลังจาก ปตท.เป็นผู้ชนะการประมูล คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 ปี และใช้เงินไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท
|
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวทางการบริหารสถานีบริการน้ำมันของบริษัทโคโนโค (ประเทศไทย) หรือ ปั๊มเจ็ท (JET) หลังจาก ปตท.เป็นผู้ชนะการประมูลว่า ปตท.จะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่โดย ปตท.เป็นผู้ถือหุ้น 100% เพื่อทำการบริหารปั๊มเจ็ททั้ง 147 แห่ง ซึ่ง ปตท.จะมีการปรับปรุงใหม่ให้เป็นรูปแบบของ ปตท. แบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะบางแห่งอาจต้องเลิกกิจการโดยยอมรับว่าปั๊มเจ็ทมีทำเลที่ดี โดยเฉพาะบางจุดสามารถขยายเป็นสถานีก๊าซเอ็นจีวีได้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี และคาดว่าจะมีการใช้เงินไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท |
| . |
|
"การตั้งบริษัทใหม่จะง่ายต่อการบริหารโดยเฉพาะการรับพนักงานของเจ็ทมาทั้งหมด และเงินลงทุนจะมาจาก ปตท.ทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งการชนะประมูลซื้อปั๊มเจ็ทนั้นจะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันของ ปตท.เพิ่มขึ้นประมาณ 4-5% เท่านั้น เพราะปัจจุบัน ปตท.เป็นรายใหญ่ที่มีปั๊มมากกว่า 1,200 แห่งอยู่แล้ว" แหล่งข่าวกล่าว |
| . |
|
แหล่งข่าวจากวงการน้ำมันกล่าวว่า การที่ ปตท.ชนะประมูลซื้อปั๊มน้ำมันเจ็ท จะส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันมีการแข่งขันลดลงระดับหนึ่ง เพราะส่วนแบ่งการตลาดของเจ็ทหายไป ขณะที่ ปตท.จะเข้ามามีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้น จากขณะนี้มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศอยู่แล้ว ทำให้อำนาจการต่อรองเพิ่มขึ้น จากแต่ก่อนที่ ปตท.จะคุมการลดแลกแจกแถมไม่ได้ทั้งหมด เพราะเจ็ทก็มีการลดแลกแจกแถมในช่วงที่เข้ามาแรกๆ เป็นการจุดประกายให้ธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับน้ำมันเช่น ร้านสะดวกซื้อเป็นอย่างมาก |
| . |
|
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันขณะนี้ ราคาตลาดโลกยังสูงอยู่ แต่ผู้ค้าน้ำมันยังไม่ได้ปรับราคา ทำให้ค่าการตลาดตกต่ำ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ค่าการตลาดเหลือเพียง 20-30 สตางค์ต่อลิตร ผู้ค้าน้ำมันต้องแบกรับภาระต้นทุน เฉลี่ยวันละ 500 |
| . |
|
ที่มา : มติชน |
Thailandindustrycom_official
