อิเมอร์สัน แนะผู้จัดการศูนย์ข้อมูลควรถามคำถามสำคัญ 6 ข้อก่อนเริ่มใช้โซลูชั่นการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล
6 คำถาม ก่อนการพิจารณาเลือกใช้
โซลูชันการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านศูนย์ข้อมูล (DCIM)
บริษัท อิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์ จำกัด
อิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งของอีเมอร์สัน (NYSE:EMR) และผู้นำระดับโลกในการช่วยให้การทำงานที่สำคัญของธุรกิจดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง (Business-Critical ContinuityTM) ได้แนะนำว่าผู้จัดการศูนย์ข้อมูลควรถามคำถามสำคัญ 6 ข้อ ก่อนมีการเริ่มใช้โซลูชันการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านศูนย์ข้อมูล (DCIM) เพื่อช่วยให้มีการจัดการช่องว่างด้านข้อมูลที่จำเป็นระหว่างระบบจริงและระบบเสมือนในศูนย์ข้อมูลให้ดีขึ้น
ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลในทุกวันนี้ต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาสภาพหรือเพิ่มการมีใช้ของเทคโนโลยีสารสนเทศและการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในขณะที่ต้นทุนและความต้องการมีเพิ่มสูงขึ้น
กลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้คือการใช้เทคโนโลยีเสมือน (Virtualization) ซึ่งช่วยเพิ่มการใช้งานของเซิร์ฟเวอร์และทำให้มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงขึ้น แต่เทคโนโลยีเสมือนก็ทำให้คาดการณ์ความต้องการใช้ระบบจริงในช่วงระยะหนึ่งเป็นไปได้ยาก ผลจากความไม่แน่นอนในการคาดการณ์ความต้องการระบบจริงทำให้ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลต้องสำรองทรัพยากรเพื่อป้องกันไม่ให้ระบบถูกใช้งานมากเกินกำลังในช่วงที่ต้องใช้งานระบบสูงสุด
วิธีการ DCIM ที่ครอบคลุมรอบด้านจะช่วยให้ความกระจ่างเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอุปกรณ์อำนวยความสะดวกกับอุปกรณ์ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ทำให้ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลสามารถใช้ทรัพยากรด้านศูนย์ข้อมูลให้เกิดประโยชน์มากขึ้น
คำถามที่อิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์ แนะนำให้ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลถามก่อนใช้โซลูชัน DCIM ได้แก่
1. สินทรัพย์ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในศูนย์ข้อมูลของเรามีอะไรบ้างและสินทรัพย์เหล่านั้นต้องพึ่งพากันในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายตามลำดับอย่างไรบ้าง
การทำรายการสินทรัพย์และมีที่เก็บเฉพาะจะช่วยให้ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลได้รับรู้จำนวนสินทรัพย์มีค่าที่มีอยู่จริงในปัจจุบัน และช่วยด้านการวางแผนศูนย์ข้อมูลสำหรับอนาคต
ความคิดที่มองไปข้างหน้านี้ให้มุมมองในการใช้สินทรัพย์ที่สำคัญเหล่านี้ในเชิงธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และช่วยให้มีการคืนทุนจากสินทรัพย์ได้เร็วขึ้น และช่วยบั่นทอนงบประมาณสำหรับศูนย์ข้อมูลเพื่อนำไปใช้สำหรับงานที่สำคัญอื่น ๆ ซึ่งเป็นข้อสำคัญที่ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลควรคำนึงถึง
2. ถ้าผู้บริหารถาม เราสามารถดึงข้อมูลรายงานที่ครอบคลุมการวิเคราะห์และดูแลสินทรัพย์ทั้งหมดที่มีในศูนย์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ และรายงานฉบับนี้จะช่วยบอกถึงปัญหาที่เป็นคอขวดได้หรือไม่
โซลูชัน DCIM ที่มีประสิทธิภาพควรดูแลทั้งพื้นที่ พลังงานและการให้ความเย็นในสิ่งแวดล้อมทั้งหมดของศูนย์ข้อมูล เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดจากการทำงานเนื่องจากสิ่งแวดล้อม โซลูชัน DCIM ควรทำให้ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลมีรายงานที่สามารถดำเนินการเชิงรุกได้ และมีรายงานสภาพของศูนย์ข้อมูลพร้อมเสมอในทุกเวลาที่ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลต้องการใช้
3. ศูนย์ข้อมูลของเราจัดการงานวันต่อวันด้วยความยืดหยุ่นในขณะที่ตอบสนองความต้องการที่เกิดขึ้นเมื่อบริษัทต้องการได้หรือไม่
โซลูชัน DCIM ควรให้กระบวนการทำงาน (Workflow) ที่สามารถทำงานต่อไปนี้ได้
* การจัดทำสถานการณ์จำลอง–สามารถแสดงสถานการณ์จำลองก่อนเริ่มการดำเนินการผลิต
* กระบวนการซ้อนที่แสดงขั้นตอนแต่ละขั้นที่ต้องทำให้เสร็จเรียบร้อยก่อนอนุมัติให้ดำเนินการจริง
* เครื่องมือวัดที่อ้างอิงกับข้อตกลงในการให้บริการ (Service Level Agreement: SLA) ซึ่งเป็นมาตรฐานหรือเครื่องมือสำหรับวัดความสำเร็จ และ
* ความสามารถในการกระจายการทำงานไปยังพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานเต็มที่ ให้พลังงานและสมรรถนะในการให้ความเย็น ฟังก์ชันนี้ควรสามารถแนะนำการจัดวางอุปกรณ์แต่ละอย่างให้เหมาะสมตามลักษณะการใช้งานและสมรรถนะของโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่
4. โซลูชัน DCIM ที่จะใช้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มและความฉลาดที่ทีมของเราต้องการเพื่อทำแผนจัดการสมรรถนะอย่างครอบคลุมได้หรือไม่
เพื่อควบคุมการใช้งานทรัพยากรศูนย์ข้อมูลในปัจจุบันและในอนาคต โซลูชัน DCIM ควรสามารถช่วยผู้จัดการศูนย์ข้อมูลในด้านต่อไปนี้
* แสดงภาพโครงการต่าง ๆ ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ–แสดงว่าโครงการไหนอยู่ในระหว่างการอนุมัติและจะมีผลกระทบอย่างไรต่อโครงสร้างพื้นฐานและ
* แนวโน้มสำหรับการใช้งานในปัจจุบันและในอนาคต (แสดงกราฟตามการใช้งานที่ผ่านมา) เช่น ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลควรบอกได้ว่าเมื่อไรความจุข้อมูลหรือระบบให้ความเย็นจะหมดโดยดูจากแนวโน้มนี้
5. โซลูชันนี้สามารถแสดงรายงานสรุปย่อผ่านหน้าเว็บที่ใช้งานง่ายหรือไม่และมีเครื่องมือในการวางแผนอะไรบ้าง
โซลูชัน DCIM ควรสามารถแสดงข้อมูลแบบ Dashboard บนเว็บที่กำหนดรูปแบบได้ และให้มาตรฐานการวิเคราะห์ข้อมูลไว้ในตัวโซลูชันเอง การรวบรวมข้อมูลและรายงานการทำงานแบบอัตโนมัติผ่าน Dashboard บนเว็บจะช่วยแสดงสรุปย่อที่กลายเป็นแหล่งข้อมูลเดียวที่ใช้สำหรับการจัดการและวางแผน DCIM ได้โดยง่าย
6. โซลูชัน DCIM จะช่วยทำให้การบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและธุรกิจสอดคล้องไปในทางเดียวกันได้หรือไม่
การจัดรูปแบบการบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และความต้องการทางธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง โซลูชั่น DCIM ใด ๆ ก็ตามต้องช่วยจัดการศูนย์ข้อมูลทำให้การใช้ทรัพยากรเป็นไปในทางเดียวกับกลยุทธ์ ITSM, ITIL และ BSM
“ตอนนี้ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลอยู่ภายใต้ความกดดันมากกว่าเมื่อก่อนในการที่จะจัดการเพิ่มสมรรถนะให้สูงขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดความเสี่ยงที่ระบบไม่ทำงานให้น้อยลง” คุณสตีฟ ฮัสเซล ประธานธุรกิจ Avocent ของอิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์กล่าว
“กลยุทธ์ DCIM ที่ครอบคลุมเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุดของผู้จัดการศูนย์ข้อมูลในการตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่เข้มงวดในสภาพแวดล้อมของศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่นี้ เพื่อที่จะดำเนินกลยุทธ์ DCIM ให้ประสบผลสำเร็จ ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลจะต้องคอยเลือกใช้กลุ่มฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์และบริการต่าง ๆ ที่ดีที่สุดเพื่อช่วยลดช่องว่างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น”
จากการเข้าถือครองบริษัท Avocent ทำให้อิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์ ได้มีส่วนประกอบชิ้นสุดท้ายที่จำเป็นในการให้บริการครบวงจรทุกด้านของโครงสร้างศูนย์ข้อมูลจริง อิเมอร์สันให้คำมั่นสัญญาด้านทรัพยากรที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมในการให้โซลูชันที่เชื่อมต่อไอทีกับระบบอำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลที่ใช้งานได้เหมาะสมกับอุปกรณ์และระบบไอทีต่าง ๆ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ DCIM ของ
อิเมอร์สัน เนทเวอร์ค พาวเวอร์
ได้ที่ http://www.EmersonNetworkPower.com/DCIM