นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เผยโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 7,200 ล้านบาท เพื่อลดระดับการปล่อยไนโตรเจนไดออกไซด์และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คุมเข้มโรงแยกแก๊ส โรงไฟฟ้าและโรงกลั่นน้ำมัน
ปิยะบุตร เผยโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 7,200 ล้านบาท เพื่อลดระดับการปล่อยไนโตรเจนไดออกไซด์และซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คุมเข้มโรงแยกแก๊ส โรงไฟฟ้าและโรงกลั่นน้ำมัน |
. |
นายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหามลพิษในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยองว่า การแก้ไขมลพิษต้องดำเนินการอย่างจริงจัง การทำงานให้มีการประสานงานกันระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงานและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องมีธรรมาภิบาล 4 ข้อ คือ โรงงานทุกแห่งต้องมีข้อมูล ต้องเปิดเผยข้อมูล ต้องเข้าไปตรวจสอบให้ชุมชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและต้องให้โรงงานอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างสันติ |
. |
จากการสำรวจพบว่า มีโรงงานใหญ่ ๆ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่ต้องลดระดับการปล่อยไนโตรเจนไดออกไซด์ ต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาท ต้องลงทุนเพื่อลดระดับการปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์อีกกว่า 3,000 ล้านบาท จึงต้องใช้เงินลงทุนในการแก้ไขปัญหาเพื่อลดระดับมลพิษรวมประมาณ 7,200 ล้านบาท สำหรับโรงงานที่จะต้องลงทุนเพื่อลดระดับการปล่อยมลพิษส่วนใหญ่เป็นโรงแยกแก๊ส โรงไฟฟ้าและโรงกลั่นน้ำมันของ บมจ.ปตท และ บมจ.ไออาร์พีซี |
. |
ทั้งนี้เพื่อช่วยลดภาระให้กับโรงงานที่ต้องลงทุนในการลดระดับการปล่อยมลพิษมากถึง 7,200 ล้านบาท คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จึงให้สิทธิพิเศษ หากเป็นโรงงานเดิม เมื่อมีการนำเข้าอุปกรณ์ในการลดระดับมลพิษจะลดภาษีนำเข้าให้ 70% เป็นเวลานาน 3 ปี ส่วนโรงงานทั่วไปทั่วประเทศ จากการหารือกับกระทรวงการคลังจะลดหย่อนภาษีให้ 2 เท่าของวงเงินที่ได้ลงทุนเพื่อเป็นแรงจูงใจ |
. |
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ |