นายกรุดลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำริมคลองประปา หลังน้ำทะลักจากคลองบางหลวง เชียงรากน้อยเข้าท่วมคลองประปา สั่งประกาศเตือนประชาชนยกของขึ้นที่สูงเตรียมรับสถานการณ์
สำนักข่าวแห่งชาติ เปิดเผย เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ที่ผ่านมานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำบริเวณริมคลองประปา แยกศรีสมาน หลังน้ำได้ไหลลงมาจากจังหวัดปทุมธานี ผ่านเขตดอนเมือง เข้าเขตประชาชื่น โดยได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแก้ไขสถานการณ์
พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจประสาน ระดมรถเครนยกแผ่นเหล็กที่ปิดประตูระบายน้ำคลองสามเสน เพื่อเร่งระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาให้ได้โดยเร็วที่สุด และได้ประสานไปยังกรุงเทพมหานครให้เปิดประตูระบายน้ำบึงมักกะสัน และสามเสน เพื่อระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ได้ประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ เขตมักกะสัน สามเสน พงษ์เพชร และวิชัยยุทธ ให้เร่งขนย้ายสิ่งของ ทรัพย์สินขึ้นที่สูง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และติดตามการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. กล่าวว่า เมื่อเวลา เวลา 03.01 น. น้ำได้ทะลักจากคลองบางหลวง เชียงรากน้อย จ.ปทุมธานี ไหลเข้าท่วมคลองประปา ก่อนแยกเป็นสองทาง ทางหนึ่งไปที่โรงสูบน้ำสามเสน ซึ่ง กทม.มีเครื่องสูบน้ำ 19 เครื่อง สามารถสูบน้ำได้รวม 45 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนอีกสายแยกไปที่บึงมักกะสัน ซึ่งกทม. มีเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 15 เครื่อง สามารถสูบระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ 45 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมแล้วสามารถระบายน้ำได้ 90 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่พยายามสูบน้ำออกให้ได้มากที่สุด เพราะน้ำที่ไหลหลากทุ่งผ่านนิคมอุตสาหกรรมนวนคร และ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีความรุนแรงมาก จึงขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ซึ่งมวลน้ำก้อนนี้จะผ่าน ประกอบด้วย บริเวณแยกวิชัยยุทธ สามเสน และบึงมักกะสัน เร่งนำทรัพย์สินขึ้นที่สูงโดยด่วน
ส่วนพื้นที่ 7 เขตเสี่ยง ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วย เขตลาดกระบัง หนองจอก มีนบุรี คลองสามวา คันนายาว สายไหม และบางเขน ควรรับฟังประกาศของทางราชการอย่างใกล้ชิด ขณะที่ ดอนเมือง เมืองทองธานี แจ้งวัฒนะ ควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด