เนื้อหาวันที่ : 2011-10-17 16:14:14 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 807 views

เอ็มเอฟซี เปิดขายกองทุนรวมอสังหาฯขนาดใหญ่

บลจ.เอ็มเอฟซี เปิดขายกองทุนรวมอสังหาฯขนาดใหญ่ลงทุนซื้อกรรมสิทธิ์รีสอร์ทหรูบนเกาะพีพี มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท

           บลจ.เอ็มเอฟซี เปิดขายกองทุนรวมอสังหาฯขนาดใหญ่ลงทุนซื้อกรรมสิทธิ์รีสอร์ทหรูบนเกาะพีพี มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท

           บลจ.เอ็มเอฟซี เตรียมเสนอขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์กองทุนแรกของปีนี้ และเป็นกองทุนรวมอสังหาฯ ขนาดใหญ่ของเอ็มเอฟซี  คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ “เอ็มเอฟซี-อะเมซิ่ง อะลา อันดามัน” ลงทุน ในโรงแรมพีพี ไอแลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งเป็นรีสอร์ทหรูจำนวน 112 หลัง

พร้อมสิ่งปลูกสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวก บนที่ดินขนาดประมาณกว่า 167 ไร่ มูลค่าลงทุน 2,120 ล้านบาท เผยเป็นโรงแรมรีสอร์ทระดับ 4.5 ดาว บนเกาะพีพีที่สวยติดอันดับ  1 ใน 10 ของโลก มั่นใจตรงกับความต้องการของนักลงทุนที่แสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ  เตรียมเสนอขายระหว่าง 12-21  ต.ค.นี้ กำหนดจองขั้นต่ำ 1,000 บาท

           นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บลจ.เอ็มเอฟซี เตรียมเสนอขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ “เอ็มเอฟซี-อะเมซิ่ง อะลา อันดามัน”  (MFC Amazing A-la Andaman Property Fund : M-AAA) ซึ่งกองทุนจะทำการลงทุนโดยซื้อกรรมสิทธิ์โดยสมบูรณ์ (Freehold) ในที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างในโรงแรมพีพี ไอแลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะพีพี จังหวัดกระบี่ 

พร้อมมั่นใจว่ากองทุนนี้จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจแก่นักลงทุน  เนื่องจากกองทุนมีจุดเด่นหลายอย่าง คือ มีผู้บริหารซึ่งมีประสบการณ์การบริหารโรงแรมแห่งนี้มากกว่า 20 ปี โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 5 ปี มีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) เฉลี่ยสูงถึงกว่าร้อยละ 85
 
“ทำเลที่ตั้งของโรงแรมซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพีพี   เป็นพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ ที่เกิดขึ้นในปี 2547  เนื่องจากอยู่คนละด้านกับบริเวณที่ได้รับผลกระทบ และลักษณะของพื้นที่เป็นหาดส่วนตัวซึ่งหันหน้าเข้าหาฝั่งแผ่นดินใหญ่  ประกอบกับด้านหลังยังมีภูเขาโอบล้อมและบังอยู่ ทำให้โอกาสที่โรงแรมจะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติสึนามิมีน้อยมาก” คุณประภากล่าว

           กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี กล่าวว่า นอกจากนี้ โรงแรมแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงและเป็นที่สนใจของลูกค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  โดยลูกค้าหลักจะเป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรปตะวันออก และออสเตรเลียเป็นหลัก  ส่วนลูกค้าจีนและญี่ปุ่น ให้ความสนใจมากขึ้นทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีอีกด้วย 

ทั้งนี้ เนื่องจากจุดเด่นของโรงแรมที่เป็นชายหาดยาวถึง 710 เมตร  และอยู่บนพี้นที่ขนาด 167 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา ซึ่งมีการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นอย่างดี  อีกทั้งยังเป็นรีสอร์ทระดับหรู 4.5 ดาวบนเกาะพีพี  ซึ่งสวยติดอันดับ 1 ใน 10   ของโลกอีกด้วย

นายทอมมี่ เตชะอุบล  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ซึ่งดูแลรับผิดชอบด้านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน กล่าวว่า ทรัพย์สินที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ “เอ็มเอฟซี-อะเมซิ่ง อะลา อันดามัน” (MFC Amazing A-la Andaman Property Fund : M-AAA) จะเข้าลงทุนนั้น ประกอบด้วย ที่ดินประมาณ 167 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา  รีสอร์ท 112 หลัง สิ่งปลูกสร้างอื่นๆ   และเรืออีก 9 ลำ โดยโครงสร้างของกองทุนนั้น

หลังจากที่กองทุนได้เข้าซื้อกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินดังกล่าวแล้ว กองทุนจะให้ บริษัท พีพี วิลเลจ แอสเซ็ท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารเดิม ดำเนินการเช่าทรัพย์สินเป็นระยะเวลา 15 ปี โดยกองทุนจะรับรายได้ค่าเช่าในอัตราคงที่ และปรับเพิ่มขึ้นทุก 3 ปี เพื่อเป็นการควบคุมความเสี่ยงของกองทุนในการรับรายได้ โดยผู้เช่าทรัพย์สินจะให้หลักประกันการเช่าทรัพย์สินคิดเป็นจำนวน 6 เดือนของค่าเช่า แบ่งเป็นเงินสดจำนวน 3 เดือน และหนังสือค้ำประกันธนาคารพาณิชย์ จำนวน 3 เดือน

สำหรับจุดเด่นของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ “เอ็มเอฟซี-อะเมซิ่ง อะลา อันดามัน” (MFC Amazing A-la Andaman Property Fund : M-AAA) นอกจากศักยภาพของทรัพย์สินที่เข้าลงทุนแล้ว   การบริหารจัดการทรัพย์สินยังดำเนินการโดยมืออาชีพที่มีประสบการณ์ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นผู้เช่าทรัพย์สิน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารทรัพย์สินเดิมคือ บริษัทพีพี วิลเลจ แอสเซ็ท แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดูแลการก่อสร้างโรงแรมแห่งนี้มาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงปัจจุบัน 

โดยบริหารงานและสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่องมายาวนานกว่า 20 ปี  และผู้บริหารโรงแรมที่มีชื่อเสียง คือ Outrigger Enterprises Group  ซึ่งก่อตั้งในฮาวาย และเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการบริหารธุรกิจโรงแรมในแถบเอเชียแปซิฟิคขนาดใหญ่ โดยมีประสบการณ์กว่า 60 ปีในการเป็นเจ้าของ บริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ทในหลายประเทศทั่วโลก ปัจจุบัน Outrigger  บริหารทรัพย์สินกว่า 45 แห่ง รวมมากกว่า 11,000 ห้องพักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นที่ฮาวาย ออสเตรเลีย ฟิจิ เกาะกวม บาหลี จีน เวียดนาม และไทย
 
Outrigger มีผลงานการบริหารทรัพย์สินในไทย  ได้แก่  Laguna Phuket Resort and Villas และ Kho Samui Resort and Spa ซึ่งสามารถบริหารทำให้มีอัตราการเข้าพักที่เติบโตสูงมากและได้รับผลตอบแทนเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้เปิดสำนักงานใหญ่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศไทยอีกด้วย  ทำให้เอ็มเอฟซีมีความมั่นใจว่า Outrigger  จะสามารถบริหารโรงแรมพีพี ไอแลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ทแอนด์ สปา ให้ได้ผลตอบแทนที่ดีเช่นเดียวกัน  โดยกองทุนได้ทำสัญญาการบริหารโรงแรมเป็นระยะเวลา 15 ปีเท่ากับสัญญาเช่าทรัพย์สิน

สำหรับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์“เอ็มเอฟซี-อะเมซิ่ง อะลา อันดามัน” (MFC Amazing A-la Andaman Property Fund : M-AAA) สามารถติดต่อขอรายละเอียด เพิ่มเติมและหนังสือชี้ชวนได้ที่บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 เอ็มเอฟซี สาขาแจ้งวัฒนะ โทร.0-2835-3055-57 หรือที่ www.mfcfund.com 
 
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน