นางซูซาน ชวาบ ผู้แทนการค้าสหรัฐ แถลงจะดำเนินคดีสองคดีกับจีนในองค์การการค้าโลก (WTO) สื่อบางรายถึงกับระบุว่า นี่เป็นการเปิดฉากทำสงครามการค้ากับจีนรอบใหม่ของรัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช
ตื่นเต้น ฮือฮาไปทั่ว เมื่อ นางซูซาน ชวาบ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ออกแถลงการณ์ว่า จะมีการดำเนินคดีสองคดีกับจีนในองค์การการค้าโลก (WTO) สื่อบางรายถึงกับระบุว่า นี่เป็นการเปิดฉากทำสงครามการค้ากับจีนรอบใหม่ของรัฐบาลประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช |
. |
ภาพที่ออกมาว่าเป็นการเปิดฉากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน นั้น มาจากความขึงขังของแถลงการณ์ที่ระบุอย่างชัดเจนว่า "มาตรการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่ไม่เพียงพอในจีนส่งผลให้บริษัทและแรงงานชาวสหรัฐต้องสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี" แม้ว่านางชวาบจะกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การยื่นขอปรึกษาหารือเพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาทสองกรณีในครั้งนี้ "ไม่ควรถูกมองว่าเป็นมาตรการคุกคามจีน" และปฏิเสธแนวคิดที่ว่าสหรัฐกับจีนอาจจะทำสงครามทางการค้ากัน |
. |
ปัญหาการค้า 2 ประเด็นที่ทางสหรัฐนำขึ้นร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก (WTO) นั้นได้แก่ เรื่อง การละเมิดลิขสิทธิ์ของจีนในด้านดนตรีและภาพยนตร์ และการสร้างอุปสรรคในตลาดต่อบริษัทสหรัฐที่เสนอขายผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในประเด็นแรกนั้น นางชวาบกล่าวว่า สหรัฐยอมรับว่ารัฐบาลจีนได้ดำเนินมาตรการที่สำคัญบางมาตรการไปแล้วในการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และสหรัฐยังคงเปิดโอกาสให้มีการรอมชอมกันในการเจรจาต่อรองโดยไม่ต้องผ่าน WTO เพราะการดำเนินการผ่าน WTO อาจใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 18 เดือน |
. |
นางชวาบระบุด้วยว่า ปัจจุบัน ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ในจีนยังสามารถที่จะหลีกเลี่ยงโทษจำคุก ได้อย่างง่ายดาย เพราะการดำเนินคดีทางอาญาในจีนจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อมีแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ต่ำกว่า 500 แผ่น ในครอบครอง ถ้ามีสินค้าละเมิดลิขสิทธ์ 499 แผ่น เมื่อมีการบุกจับขึ้นมา สิ่งที่ทางการจีนจะทำได้มากที่สุดก็เพียงแค่ยึดสินค้าและสั่งปรับเท่านั้น ดังนั้น ถึงแม้ว่าจีนดูเหมือนจะดำเนินขั้นตอนบางประการในการปิดช่องโหว่ทางกฎหมายไปบ้างแล้ว แต่สหรัฐก็เชื่อว่ารัฐบาลจีนจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป เพราะสหรัฐต้องการให้จีนเพิ่มการให้ความคุ้มครองทางกฎหมายต่อสินค้าที่มีลิขสิทธิ์หรือใช้เครื่องหมายการค้าของสหรัฐ |
. |
สำหรับคำร้องเรียนประเด็นที่สองที่สหรัฐยื่นต่อ WTO นั้นมุ่งความสนใจไปที่มาตรการกีดกันการเข้าสู่ตลาด ซึ่งมาตรการดังกล่าวสร้างความยากลำบากให้แก่บริษัทภาพยนตร์, ดนตรี และสิ่งพิมพ์ของสหรัฐในการเสนอขายสินค้าที่ถูกกฎหมายเพื่อแข่งขันกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจาก "บริษัทของรัฐบาลจีนที่มีอำนาจพิเศษเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าภาพยนตร์, ดีวีดี, ดนตรี, หนังสือ, วารสาร และสื่อสิ่งพิมพ์อื่นๆ" ถึงแม้จีนมีภาระผูกพันในการยุติการผูกขาดนี้เมื่อจีนเข้าร่วมเป็นสมาชิก WTO ก็ตาม |
. |
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ หลายราย วิพากษ์วิจารณ์ว่า การเคลื่อนไหวของรัฐบาลบุชในเรื่องนี้ "น่าสงสัย" เพราะเกิดขึ้นในขณะที่รัฐสภาสหรัฐไม่พอใจที่สหรัฐขาดดุลการค้าให้จีนสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2.32 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งความไม่พอใจของรัฐสภาในเรื่องนี้เป็นอุปสรรคต่อความพยายามของบุชในการขอต่ออายุอำนาจในการส่งเสริมการค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำเนียบขาวจำเป็นต้องใช้ในการเจรจาต่อรองการค้าโลกรอบโดฮาให้แล้วเสร็จ |
. |
ดังนั้น เอาเข้าจริงแล้ว ความขึงขังกับจีนที่ว่ามาแต่ต้นจึงอาจจะเป็นแค่ ม้าตีนต้นเท่านั้น !! |
. |
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ |