กระทรวงพลังงาน ปลื้มวงการพลังงานไทยคว้าสุดยอดรางวัลด้านพลังงาน 13 รางวัล ประกาศศักดาผู้นำด้านการอนุรักษ์พลังงานในภูมิภาค
กระทรวงพลังงาน ปลื้มวงการพลังงานไทยคว้าสุดยอดรางวัลด้านพลังงาน 13 รางวัล ประกาศศักดาผู้นำด้านการอนุรักษ์พลังงานในภูมิภาค
กระทรวง พลังงาน แจ้งข่าวดี วงการพลังงานไทยสร้างชื่อเสียง กระหึ่มอาเซียน หลังคว้าสุดยอดรางวัลด้านพลังงาน 13 รางวัล ส่งไทยเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคด้านอนุรักษ์พลังงาน ชี้เป็นความสำเร็จต่อยอดจากรางวัล Thailand Energy Award มั่นใจต่อยอดผลักดันทิศทางการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพรอบด้าน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประกาศความสำเร็จในเวทีระดับสากลด้านการอนุรักษ์พลังงาน ที่หน่วยงานและผู้ประกอบการของไทยได้สร้างชื่อเสียงด้วยการรับรางวัล Asean award จนทำให้ประเทศไทยเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาค โดยมีตัวแทนจากผู้ประกอบการที่รับรางวัลดังกล่าว พร้อมด้วยสื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วม
นายพิชัย กล่าวว่า การจัดงานมอบรางวัลผลงานด้านการอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานหมุนเวียนระดับอาเซียน ภายหลังการประชุมรัฐมนตรีพลังงาน ที่ประเทศบรูไน (ระหว่างวันที่ 20 – 21 ก.ย.) ผลปรากฎว่าผู้ประกอบการและหน่วยงานด้านพลังงานซึ่งเป็นตัวแทนจากประเทศไทย ได้สร้างชื่อเสียงในเวทีระดับภูมิภาค ด้วยการคว้ารางวัลรวมทั้งสิ้น 13 รางวัล และเป็นรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง มากถึง 7 รางวัล ซึ่งส่งผลให้ไทยครองรางวัลสูงสุดเหนือทุกชาติในอาเซียน และนับเป็นความสำเร็จที่ต่อยอดจากโครงการ Thailand Energy Award ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของกระทรวงพลังงานในการส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจต่อผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ โครงการ Thailand Energy Award ในปี 2554 นี้ พบว่ามีผู้รับรางวัลทั้งสิ้น 91 รางวัล โดยจะมีการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติภายในการจัดงานใหญ่ของกระทรวงพลังงานในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะได้เรียนเชิญนายกรัฐมนตรีเป็นประธานมอบรางวัล ทั้งนี้โดยสรุปภาพรวมการจัดงานตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน มีการมอบรางวัลไปแล้วทั้งสิ้น 412 รางวัล และได้รับรางวัลในระดับอาเซียนสูงถึง 71 รางวัล มากที่สุดในทุกชาติของ อาเซียน และไทยได้ครองแชมป์รางวัลสูงสุดต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547
สำหรับโครงการ Thailand Energy Award เป็นโครงการที่กระทรวงพลังงาน ดำเนินการมาปีที่ 12 ได้ส่งเสริมทั้งด้านอนุรักษ์พลังงานภายในโรงงาน /อาคาร การพัฒนาบุคลากรด้านพลังงาน และด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ได้ก่อให้เกิดผลประหยัดพลังงานรวมทั้งสิ้น 1,532 ล้านบาท/ปี สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้มากกว่า 280,000 ตัน/ปี
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับทิศทางในการผลักดันงานด้านอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งกระทรวงพลังงานจะพยายามต่อยอดอันเป็นผลต่อเนื่องจากโครงการ Thailand Energy Award นั้น ในปีนี้ กระทรวงพลังงานได้เพิ่มสาขาภาคขนส่ง และด้านอาคารเขียว (Green Building) ด้วยนั้น โดยขณะนี้จะได้มอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เร่งดำเนินการในเรื่องการอนุรักษ์พลังงานในภาคขนส่ง
อาทิ การผลักดันมาตรฐานยางประสิทธิภาพสูง ด้วยการติดฉลาก ซึ่งจากรายงานของทบวงพลังงานโลก (IEA) ชี้ว่ายางประสิทธิภาพสูง จะสามารถประหยัดได้สูงถึง 4 – 5% ต่อปี และจะมีผลให้ประเทศไทยประหยัดน้ำมันได้ 900 – 1,100 ล้านลิตรต่อปี รวมไปถึงด้านการส่งเสริมมาตรฐานอาคารเขียว ที่ต้องการให้วิศวกร สถาปนิก และผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ได้ใช้เป็นมาตรฐาน เพื่อก่อให้เกิดการประหยัดพลังงาน ในภาคอาคารอย่างจริงจังต่อไป