เชฟโรเลต เปิดตัว เชฟโรเลต โคโลราโด รถกระบะรุ่นใหม่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของเชฟโรเลต ใช้ระยะเวลาพัฒนากว่า 5 ปีด้วยเงินลงทุนกว่า 2 พันล้านเหรียญ
เชฟโรเลต เปิดตัว เชฟโรเลต โคโลราโด รถกระบะรุ่นใหม่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของเชฟโรเลต ใช้ระยะเวลาพัฒนากว่า 5 ปีด้วยเงินลงทุนกว่า 2 พันล้านเหรียญ
เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก เชฟโรเลต โคโลราโด รถกระบะรุ่นใหม่ที่มาพร้อมความแข็งแกร่งที่สุด ทรงพลังที่สุด และการออกแบบที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของเชฟโรเลต
โครงการพัฒนารถกระบะโคโลราโด ใหม่ ใช้เงินลงทุนมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท (2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในระยะเวลา 5 ปี โดยได้รับการพัฒนาใน 5 ทวีปเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้ามากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
รถกระบะโคโลราโด ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำกว่า อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เพิ่มขึ้น พร้อมมอบความคุ้มค่ามากกว่าเดิม ขณะเดียวกัน ภายในห้องโดยสารและรูปลักษณ์ภายนอกได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคันโดยสมบูรณ์ โครงการรถกระบะโคโลราโด ถือเป็นการเริ่มต้นโครงการพัฒนารถกระบะขนาดกลางครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 100 ปีของเชฟโรเลต
สำหรับในประเทศไทย เชฟโรเลต เปิดตัวโคโลราโด รุ่นใหม่ออกจำหน่ายทั้งหมด 26 รุ่นย่อย แตกต่างที่เครื่องยนต์ ห้องโดยสาร และความสูงของรถทั้งแบบธรรมดาและยกสูง พร้อมกับรูปแบบตัวถังแบบซิงเกิลแค็บ เอ็กซ์เทนเดด-แค็บ และครูว์-แค็บ รวมถึงตัวถังแบบกว้าง และแบบปกติ ตลอดจนระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ
ขุมพลังดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ รุ่นใหม่ล่าสุด มีให้เลือก 2 ขนาดซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับรุ่น ถือเป็นการผสมผสานอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างสมรรถนะ และความประหยัดเหนือกว่ารถกระบะในระดับเดียวกัน
มร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดรถกระบะประเทศไทยที่กำลังเติบโตนั้น ได้รับการพัฒนาจากประสบการณ์หนึ่งศตวรรษของเชฟโรเลต ที่มุ่งสร้างสรรค์ยานยนต์ที่เหนือกว่าความต้องการของลูกค้า
“เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ประเทศไทย จะเป็นประเทศแรกในโลกที่เปิดตัวโคโลราโด รุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นโครงการพัฒนารถกระบะขนาดกลางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม” มร.แอพเฟล กล่าว “นี่คือ รถกระบะพันธุ์แกร่งที่ผลิตโดยคนไทย เพื่อคนไทย เป็นรถกระบะแห่งความภาคภูมิใจของประเทศไทย”
มร.แอพเฟล กล่าวเพิ่มเติมว่า “โคโลราโด รุ่นใหม่ เกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการทางวิศวกรรม และโครงการการผลิตที่ใหญ่ที่สุด สะท้อนให้เห็นถึงทักษะอันโดดเด่น และศักยภาพอันยอดเยี่ยมของประเทศไทย ศูนย์การผลิตยานยนต์ของเรา ไม่เพียงมีประสิทธิภาพที่จะตอบสนองความต้องการในประเทศไทย หากรวมถึงทุกประเทศทั่วโลกทั้งในปัจจุบัน และอนาคต”
จากพื้นฐานการประกอบตัวถังบนแชสซีส์ (Body-on-frame) ของรถกระบะขนาดกลางขับเคลื่อนล้อหลังในระดับโลกของจีเอ็มนี้ โคโลราโด ใหม่ได้รับการออกแบบ พัฒนาทางวิศวกรรม และดำเนินการผลิตให้เป็นรถกระบะที่มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุด มีสมรรถนะที่ดีที่สุด เอนกประสงค์ที่สุด และประณีตที่สุดในรถกระบะระดับเดียวกัน
ขณะเดียวกัน โคโลราโด ใหม่ยังเป็นรถกระบะที่ปลอดภัยที่สุด โดยผ่านการพัฒนาอย่างเข้มข้นให้เทียบระดับมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในทุกประเทศที่จำหน่าย โดยระบบความปลอดภัยเพียบพร้อม ทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพ ESC ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบป้องกันการลื่นไถล Traction Control ระบบรักษาสมดุลขณะเบรกในโค้ง CBC รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้า
มร.แบรด เมอร์เคล ผู้บริหารสายผลิตภัณฑ์ยานยนต์สำหรับรถกระบะขนาดกลางของจีเอ็ม โกลเบิล กล่าวว่า โคโลราโด ใหม่ โดดเด่นที่ความแข็งแกร่ง การออกแบบ และสมรรถนะที่สามารถแข่งขันกับรถกระบะที่ดีที่สุดยี่ห้อใดก็ได้ในโลก
“เป้าหมายของเราตั้งแต่เริ่มต้นโครงการนี้ คือการสร้าง ‘รถกระบะที่ลากได้ทุกสิ่ง ลุยไปได้ทุกที่’ และนั่นคือสิ่งที่โคโลราโด พร้อมมอบให้แก่ลูกค้า” มร.เมอร์เคล กล่าว “เราพัฒนาระบบวิศวกรรมเพื่อตอบสนองการใช้งานเชิงพาณิชย์ และในชีวิตประจำวัน โคโลราโด สามารถบรรทุกหนักได้สารพัด เป็นรถขนสิ่งของสำหรับครอบครัว และเป็นรถที่ตอบสนองได้ทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งรวมถึงลูกค้าที่ต้องการรถกระบะระดับพรีเมียม”
มร.เมอร์เคล กล่าวเสริมว่า “ความเอนกประสงค์ดังกล่าว ถือเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใดก็ตาม ลูกค้าก็ยังจะได้รับรถกระบะที่มีโครงสร้างแข็งแกร่งตัวถังอยู่บนแชสซีส์ ขุมพลังขับเคลื่อนที่ทรงพลัง และการประกอบอย่างพิถีพิถัน ไม่มีการละทิ้งสุนทรียศาสตร์ หรือประนีประนอมในการเลือกใช้ชิ้นส่วนพื้นฐานใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโคโลราโด ใหม่แบบ 2 ประตูเพื่อการขนส่งเต็มพิกัด ไปจนถึงโคโลราโด ครูว์-แค็บ 4 ประตูที่ให้ความหรูหรา”
“ไม่ว่าจะเลือกโคโลราโด รุ่นใดก็ตาม ลูกค้าก็จะได้รับรถกระบะที่มีความครบครันสมบูรณ์แบบ ทั้งการออกแบบที่โดดเด่น ความประหยัดน้ำมัน ความละเอียดประณีต และความสนุกสนานในการขับขี่ เรามีความภาคภูมิใจมากกับผลลัพธ์ที่ได้ในครั้งนี้” มร.เมอร์เคล กล่าว
พัฒนาการของโคโลราโด รุ่นใหม่ นำโดยทีมวิศวกรที่มีทักษะชั้นเยี่ยมของจีเอ็ม บราซิล ซึ่งใช้ประสบการณ์อันเชี่ยวกรากในการผลิตรถกระบะเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแต่ละประเทศ ซึ่งรวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทีมวิศวกรของจีเอ็ม เดินทางมาพักอาศัยในประเทศไทยตลอดช่วงการพัฒนาโคโลราโด เพื่อเข้าถึงตลาดรถกระบะเมืองไทยที่มีการแข่งขันสูงมาก และเฝ้าสังเกตการณ์รูปแบบการขับขี่ใช้งานอันหลากหลายของคนไทย ซึ่งทักษะความเชี่ยวชาญของทีมวิศวกรจีเอ็ม นำมาซึ่งการพัฒนาโคโลราโด รุ่นใหม่ ออกมา 3 ระดับ คือรุ่นเริ่มต้น LS รุ่นกลาง LT และรุ่นสูงสุด LTZ
โคโลราโด ใหม่มาพร้อมการขับขี่และการควบคุมที่เหนือความคาดหมายของตลาดรถกระบะขนาดกลาง ผลจากการปรับแต่งช่วงล่างและแชสซีส์สองระดับ รองรับการบรรทุกและลากจูง รวมถึงการใช้งานปกติในชีวิตประจำวันอีกด้วย
ขุมพลังขับเคลื่อน ติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบดีเซล รุ่นใหม่ล่าสุดของจีเอ็ม ผสมผสานสมรรถนะสูงสุดและความประหยัดน้ำมันเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ขนาด 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตรนั้นผลิตโดยศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลมูลค่า 6,000 ล้านบาท (200 ล้านเหรียญฯ) ที่เพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการของจีเอ็ม ประเทศไทย
เครื่องยนต์ขนาด 2.8 ลิตร ติดตั้งเทอร์โบแปรผันเพื่อสร้างพละกำลัง และความประหยัดในทุกรอบเครื่องยนต์ พร้อมติดตั้งเพลาถ่วงสมดุลย์เพื่อการขับขี่ที่ลื่นไหลนุ่มนวล โดยทั้งสองเครื่องยนต์มีชิ้นส่วนที่รองรับการใช้งานได้ระยะทางสูงถึง 240,000 กิโลเมตร
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 2.8 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตรสำหรับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และแรงบิด 440 นิวตัน-เมตรสำหรับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ขณะที่เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ดีเซล เทอร์โบ ให้พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร
ความโดดเด่นของรูปลักษณ์ภายนอกของโคโลราโด ใหม่นั้น สร้างสรรค์โดยศูนย์การออกแบบล้ำสมัยแอดวานซ์ ดีไซน์ เซ็นเตอร์ของจีเอ็ม ในนครเซาเปาโลของบราซิล โดยดึงเอาดีเอ็นเอความแกร่งหลายส่วนของรถต้น แบบโคโลราโด ที่เคยโชว์ตัวอยู่ในประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่ รวมถึง อาร์เจนติน่า ออสเตรเลีย และเยอรมนี ตลอดทั้งปีที่ผ่านมานี้
ดีไซน์ด้านหน้าของโคโลราโด เน้นความบึกบึนของฝากระโปรง การเพิ่มสันขอบทำให้โคโลราโด ดูแข็งแกร่ง พร้อมลุยทุกเส้นทาง โคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ถูกติดตั้งในตำแหน่งที่สูงขึ้นเหนือฝากระโปรงหน้า ช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ความสมบุกสมบันให้โคโลราโด
กระจังหน้าดูอัลพอร์ท เอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลต ล้อมกรอบด้วยโครเมียมพร้อมเน้นดีไซน์ลายตาข่ายที่ให้มุมมองแบบสามมิติ นอกจากนี้ ยังใช้โครเมียมตกแต่งทั้งก้านจับเปิดประตู ที่เปิดฝาท้าย ฝาครอบกระจกมองข้าง กรอบไฟหน้า และไฟตัดหมอก เพิ่มความหรูหราเต็มพิกัดสำหรับรุ่นท็อป ขณะเดียวกัน ไฟท้ายของโคโลราโด ในรุ่นท็อปยังเป็นแบบแอลอีดี ส่องสว่างเห็นชัดเจน นับเป็นครั้งแรกของรถกระบะเชฟโรเลต
ความประณีตและมีระดับของรถกระบะโคโลราโด ใหม่ ยังสะท้อนออกมาด้วยพื้นผิวตัวถังรถภายนอกทั่วทั้งคัน รวมถึงฝากระโปรง และแผงประตู ซึ่งผสมผสานชั้นผิวตัวถังรถด้วยแสงธรรมชาติ เพื่อสีรถที่สดใหม่ เรียบลื่น และเนียนสายตา
ภายในสะดวกสบาย ตอบสนองทุกการใช้งาน การออกแบบภายในห้องโดยสารเน้นความลื่นไหล และสมดุลด้วยดีไซน์แบบดูอัลค็อกพิท เอกลักษณ์เฉพาะเชฟโรเลต ผสานบุคลิกแบบรถยนต์นั่งเข้ากับความบึกบึนแบบรถกระบะไว้ในโคโลราโด รุ่นใหม่นี้
พื้นที่ช่วงไหล่ของเบาะตอนหน้าและแถวที่สอง พื้นที่ช่วงศีรษะ และความสูงเบาะที่นั่งที่มากที่สุดในรถกระบะระดับเดียวกัน ทำให้โคโลราโด ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารอย่างเต็มที่
นักออกแบบของจีเอ็ม ถ่ายทอดรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นสะดุดตาสู่ภายในห้องโดยสารของโคโลราโด ด้วยการใช้โครเมียมตกแต่งหลายจุด ทั้งคันเกียร์และหัวเกียร์ พวงมาลัย ระบบปรับอากาศ ที่เปิดประตู และสวิทช์เครื่องเสียง
ขณะเดียวกัน มาตรวัดเรืองแสง และระบบปรับอากาศติดตั้งไฟแอลอีดี สีฟ้าไอซ์บลู (Ice Blue) อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเชฟโรเลต ที่ทำให้โคโลราโด ใหม่ยิ่งดูเหนือระดับภายในห้องโดยสารของโคโลราโด ใหม่ ยังมีช่องเก็บของมากที่สุดในรถระดับเดียวกัน โดยเรกูลาร์ แค็บ มีทั้งหมด 16 ช่องเก็บของ เอ็กซ์เทนเดดแค็บ มีทั้งหมด 19 ช่อง และครูว์แค็บ มีทั้งหมดถึง 30 ช่องเก็บของ
เบาะที่นั่งหุ้มผ้า หรือเบาะหนังเสริมด้วยวัสดุโทนเดียวกับวัสดุตกแต่งคอนโซลกลางในรุ่นท็อป มีการออกแบบที่เน้นขอบสันให้คมชัด ใช้วัสดุโฟมความหนาแน่นสองชั้นเพื่อความสบายในทุกการเดินทาง ขณะที่รุ่นเริ่มต้นใช้เบาะหนังแบบไวนิล อุปกรณ์อำนวยความสะดวก อย่างช่องชาร์จไฟและช่องเชื่อมต่อ Auxiliary พร้อมพอร์ทยูเอสบีเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของโคโลราโด รุ่นใหม่
โคโลราโด รุ่นใหม่ นับเป็นโครงการวิศวกรรม และการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดของจีเอ็ม ประเทศไทย รวมมูลค่าการลงทุนโครงการนี้ 60,000 ล้านบาท รวมถึงการลงทุนมูลค่า 15,000 ล้านบาทของจีเอ็ม ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง สำหรับการผลิตโคโลราโด เป็นการเริ่มต้นโครงการใหม่ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปีของเชฟโรเลต โดยมีการทดสอบขับมากกว่า 2.5 ล้านกิโลเมตรตลอดกระบวนการพัฒนาโครงการ
ความโดดเด่นเอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลต โคโลราโด
เครื่องยนต์
• ดูราแม็กซ์ เทอร์โบ-ดีเซล 2.5 ลิตร
• ดูราแม็กซ์ เทอร์โบ-ดีเซล 2.8 ลิตร
ระบบส่งกำลัง
• ระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
• ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
• ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4Hi และ 4Lo ควบคุมด้วยไฟฟ้าตามความต้องการของผู้ขับขี่ (Part-Time)