อุตฯ สิ่งทอไทย ระบุปีหน้ายังต้องจับตาเศรษฐกิจโลกคาดอาจย้ายฐานผลิตไปเพื่อนบ้าน เชื่อ SAFSA จะช่วยอาเซียนเป็นศูนย์กลางสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มโลก
อุตฯ สิ่งทอไทย ระบุปีหน้ายังต้องจับตาเศรษฐกิจโลกคาดอาจย้ายฐานผลิตไปเพื่อนบ้าน เชื่อ SAFSA จะช่วยอาเซียนเป็นศูนย์กลางสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มโลก
กรมส่งเสริมการส่งออก ระบุ SAFSA หรือ Source ASEAN Full Service Alliance จะทำให้อุตสาหกรรมสิ่งทออาเซียน เป็นศูนย์กลางการค้าและบริการด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของโลก
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า SAFSA หรือ Source ASEAN Full Service Alliance เป็นโครงการความร่วมมือของสหพันธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งอาเซียน รวม 10 ประเทศ ได้แก่ ประเทศบรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย พม่า สิงค์โปร์ ไทย และเวียดนาม ที่ส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นศูนย์กลางการบริการและตอบสนองความต้องการสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่มีคุณภาพและราคาเหมาะสม
การส่งมอบที่รวดเร็ว พร้อมบริการแบบครบวงจรต่อผู้ซื้อในตลาดโลก เพื่อให้สมาชิกได้พบปะหารือและประชุมร่วมกัน รวมทั้งเป็นเวทีเจรจาธุรกิจของบริษัทพันธมิตรระหว่างผู้ผลิตสิ่งทอ โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า และผู้นำเข้าของบริษัทแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ เพื่อผลักดันให้ภูมิภาคอาเซียนเป็นศูนย์กลางการค้าและบริการด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของโลก
โดยคาดว่าจะเกิดความร่วมมือในลักษณะคู่พันธมิตรเพิ่มมากขึ้น สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจรวมกันไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาท ขณะที่การส่งออกเครื่องนุ่งห่มไทย 8 เดือนแรกของปีนี้เติบโตกว่าร้อยละ 20หรือคิดเป็นมูลค่า 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
นายปิลันธน์ ธรรมมงคล ประธานสหพันธ์อุตสาหกรรมสิ่งทอแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีหน้ายังคงต้องจับตามองการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกที่จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอ รวมถึงนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการแต่ละรายก็มีความตื่นตัวที่จะวางแผนบริหารจัดการอย่างเต็มที่เพื่อรองรับการเปิดเสรีเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคต ทั้งนี้อาจจะมีการย้ายฐานการผลิตส่วนหนึ่งไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่วัสดุสิ่งทอผ้าผืนก็ยังอยู่ในประเทศไทย