เนื้อหาวันที่ : 2011-09-22 15:18:23 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1381 views

ก.อุตฯ เตรียมนำทัพ SMEs ไทยโชว์ศักยภาพในแดนมังกร

กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมนำทัพ SMEs ไทยเยือนจีนร่วมงานแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ SMEs ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก คาดสร้างเม็ดเงินการค้าได้กว่า 450 ล้านบาท

กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมนำทัพ SMEs ไทยเยือนจีนร่วมงานแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ SMEs ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก คาดสร้างเม็ดเงินการค้าได้กว่า 450 ล้านบาท

กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมนำผู้ประกอบการ SMEs เกือบ 200 ราย ทั้งอาหาร Fashion เครื่องสำอาง ท่องเที่ยว และ Digital Content ขยายโอกาสทางการค้าในเมืองจีนและนานาชาติ ภายในงาน CISMEF 2011 งานแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ SMEs ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน พร้อมนำเสนอศักยภาพประเทศไทยด้วย Thailand Pavilion ศูนย์รวมอัตลักษณ์ที่สะท้อนทั้งศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตไทย เชื่อมั่นงานนี้จะเพิ่มพูนความรู้และสร้างเครือข่าย SMEs ทั้งในจีนและนานาชาติ ผ่านการจับคู่ธุรกิจกว่า 600 คู่ สร้างเม็ดเงินการค้ากว่า 450 ล้านบาท

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ได้รับเกียรติจากรัฐบาลจีนให้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน China International SME Fair 2011 หรืองาน CISMEF 2011 ซึ่งเป็นงานที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และจัดให้เป็นงานแสดงและจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงการประชุม สัมมนา การจับคู่ธุรกิจระหว่าง SMEs ของจีนและนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ระดับชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22-25 กันยายน 2554 นี้ ที่นครกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

ประเทศไทยนับเป็นประเทศแรกของภูมิภาคอาเซียน ที่ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน CISMEF 2011 ครั้งนี้ ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและจับคู่ธุรกิจ SMEs ที่ใหญ่ที่สุดของจีน และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากเยอรมัน ด้วยพื้นที่การจัดงานกว่า 100,000 ตร.ม. คาดว่าจะมีผู้ประกอบการ SMEs จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกเข้าร่วมงานกว่า 30 ประเทศ จึงเป็นโอกาสอันดีในการขยายการค้าการลงทุนของ SMEs ไทย ไปในประเทศจีนและนานาชาติ

ซึ่งมณฑลกวางตุ้ง นับเป็นตลาดการค้าที่สำคัญของไทย เห็นได้จากตัวเลขการค้าระหว่างมณฑลกวางตุ้งกับไทย ในปี 2553 ที่ผ่านมา มียอดการค้าระหว่างประเทศรวมมูลค่า 17,065 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 32.2 ของยอดการค้าทั้งหมดระหว่างประเทศจีนกับไทย เพิ่มขึ้นจากปีที่ 2552 ร้อยละ 32.3 ในจำนวนนี้เป็นการค้าโดยมณฑลกวางตุ้งนำเข้าสินค้าจากไทยคิดเป็น 11,945 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ประเทศไทยนำเข้าสินค้าจากมณฑลกวางตุ้ง คิดเป็นมูลค่า 5,121 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 25.74

ในการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดงาน CISMEF 2011 ครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือที่สำคัญระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งประเทศไทยจะได้รับการจัดสรรพื้นที่ที่ดีที่สุดเพื่อจัดแสดงงานรวม 10,500 ตารางเมตร กำหนดจะจัดเป็น Thailand Pavilion ภายใต้แนวคิด Thai Lifestyle Sustainable Green Growth ซึ่งจะรวบรวมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และสื่อสารภาพลักษณ์ของความเป็นไทย

นอกจากนี้จะสร้างโอกาสทางธุรกิจ การค้า การลงทุนให้กับผู้ประกอบการ SMEs ไทยและผู้เข้าชมงาน ด้วยกิจกรรม “ช็อป ชม ชิม” คือ “ช็อป” โอกาสทางธุรกิจ การค้า การลงทุน ระหว่างผู้ประกอบการ SMEs ไทยและจีน รวมถึงสินค้าคุณภาพของผู้ประกอบการ SMEs ไทย “ชม” ศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นไทย และ “ชิม” อาหารไทย ซึ่งจะมีการสาธิตวิธีการปรุงอาหารไทยที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน

สำหรับ Thailand Pavilion ในพื้นที่การจัดงานจะแบ่งเป็น 6 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 โซนเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะจัดแสดงเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทย กับความสัมพันธ์ไทย-จีน พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสครบรอบ 84 พรรษา

ส่วนที่ 2 โซน Thailand Showcase เป็นพื้นที่ในการจัดแสดงนิทรรศการ และกิจกรรมของภาคธุรกิจต่างๆ ของไทย ที่มีความโดดเด่นและได้รับความสนใจจากชาวจีนและชาวต่างประเทศ รวมทั้งเพื่อแสดงศักยภาพ SMEs ไทย โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมแสดงศักยภาพในครั้งนี้ ส่วนที่ 3 เวทีการแสดงกลาง เป็นพื้นที่แสดงกิจกรรมทั้งในด้านศิลปวัฒนธรรมไทย ความบันเทิง การสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับโอกาสทางการค้า การลงทุน ทั้งในประเทศไทยและประเทศจีน รวมถึงศักยภาพของสินค้าไทยที่เข้าสู่ตลาดในประเทศจีน 

ส่วนที่ 4 โซนจำหน่ายสินค้าและจับคู่ธุรกิจ SMEs เป็นพื้นที่เพื่อการแสดงและจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการ SMEs ไทย ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่ม Fashion and Lifestyle กลุ่มเครื่องสำอาง สมุนไพรไทย กลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และกลุ่ม Digital Content /Media Industry รวมถึงอิเลคทรอนิกส์ ยานยนต์ ปิโตรเคมี

ส่วนที่ 5 โซนศาลาไทย ซึ่งจะมีกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ส่วนที่ 6 โซน Multimedia Hall จะมีกิจกรรมการฉายภาพยนต์ไทย ที่ได้รับความนิยมจากชาวจีน และการสัมมนากลุ่มย่อยด้านการค้าการลงทุนโดยผู้ประกอบการ SMEs เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในการทำธุรกิจ

ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินงานขณะนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม มีความพร้อมที่จะนำผู้ประกอบการ SMEs ไทย เข้าร่วมงาน CISMEF 2011 อย่างเต็มที่ โดยจะมีผู้ประกอบการ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จำนวน 187 ราย รวมทั้งสิ้น 192 คูหา ที่จะร่วมแสดงศักยภาพและเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจ

นอกจากนี้จะมีกิจกรรมสำคัญที่จะเกิดขึ้นภายในงาน โดยเฉพาะการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมไทย ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะนำการแสดงที่หลากหลาย เช่น ขบวนแห่ในพิธีลอยกระทงสุโขทัย มวยโบราณ ขบวนกลองยาว ฯลฯ นอกจากนี้จะมีการฉายภาพยนตร์ไทยที่ได้รับความนิยมจากชาวจีน เช่น บ้านฉันตลกไว้ก่อน เราสามคน คนไททิ้งแผนดิน และรักที่รอคอย (October Sonata) พร้อมทั้งกิจกรรม Meet and Greez ของดาราภาพยนต์ไทย กับชาวจีน 

ขณะเดียวกันภายในงาน CISMEF 2011 จะมีการจัดกิจกรรมประชุมสัมมนาในหัวข้อที่เป็นประโยชน์มากมาย เช่น SME Summit ในหัวข้อ “Innovation Service, Growth Transformation” การประชุมสัมมนา Thailand Traditional Heath Care and Medical Tourism Development Forum & Project Matchmaking of Chinese Herbal Medicine and Thai Massage นอกจากนี้ยังมี Asia-Europe SME Development Seminar เป็นต้น

เชื่อว่างานนี้จะเป็นช่องทางสำคัญในการขยายโอกาสทางการค้าการลงทุนให้กับ SMEs ไทย รวมทั้งการเพิ่มพูนข้อมูลความรู้และศักยภาพทางธุรกิจ โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดการค้า การลงทุน ผ่านการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการ SMEs ไทยกับจีน และประเทศอื่นๆ ไม่น้อยกว่า 600 คู่ คิดเป็นมูลค่ากว่า 450 ล้านบาท รวมทั้งจะมีการเชื่อมโยงเครือข่ายเพื่อขยายโอกาสทางการค้าการลงทุนไปในประเทศต่างๆ ต่อไป