กัลญาร์โด้ที่แรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยได้พื้นฐานมาจากรถแข่ง ผลิตเพียง 150 คันในโลก
แลมบอร์กินี กัลญาร์โด้ แอลพี 570-4 ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล กัลญาร์โด้ที่แรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยได้พื้นฐานมาจากรถแข่ง ผลิตเพียง 150 คันในโลก
บริษัท ออโตโมบิลี แลมบอร์กินี เตรียมนำบรรดานักซิ่งและผู้หลงใหลในความเร็ว รวมสัมผัสความตื่นเต้นไปกับ กัลญาร์โด้ แอลพี 570-4 ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล กระทิงเปลี่ยวน้องใหม่ล่าสุดและถือว่าเป็นรุ่นกัลญาร์โด้ที่มีความแรงและเร็วที่สุด โดยรุ่นนี้ได้พื้นฐานมาจากรถแข่ง แลมบอร์กินี บลองแปง ซุปเปอร์ โทรฟีโอ รถแข่งที่มีความเร็วที่สุดในโลกสำหรับ กัลญาร์โด้ แอลพี 570-4 ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล ผลิตแค่เพียง 150 คันในโลกเท่านั้น
การแข่งขันชิงแชมป์ในรายการ แลมบอร์กินี บลองแปง ซุปเปอร์ โทรฟีโอ ได้นำนักแข่งระดับแนวหน้าและหนุ่มๆที่ชื่นชอบในความเร็วได้สัมผัสติดขอบสนามการแข่งขันในสนามที่ท้าทายความสามารถมากที่สุดของทวีปยุโรป เช่น มอนซ่า (Monza), ซิลเวอร?สโตน (Silverstone) และ ฮอคเกนไฮม์ (Hockenheim) สำหรับรถซุปเปอร์คาร์รุ่นนี้ที่นำมาใช้แข่งขันมีความคลึงกับรุ่นที่ใช้ขับบนท้องถนนเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์ V10 แรงม้าเหมือนที่ใช้ในการแข่งขันโดยไม่มีการปรับแต่งใดๆทั้งสิ้น
สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่สำหรับเพิ่มแรงกด
เพียงแค่เห็นเจ้ากระทิงเปลี่ยวรุ่นใหม่ กัลญาร์โด้ แอลพี 570-4 ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเลในครั้งแรก จะพบว่ามีความคล้ายคลึงกับรุ่นที่ใช้ในการแข่งอย่างเด่นชัด เนื่องจากสปอยเลอร์หลังนั้นเป็นแบบเดียวกันซึ่งเพิ่มแรงกดได้อย่างยอดเยี่ยม โดยสามารถเพิ่มแรงกดได้มากกว่ารุ่น กัลญาร์โด้ แอลพี 560-4 ถึงสามเท่า เพื่อสร้างความมั่นคงในขณะที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง
อีกหนึ่งปัจจัยที่นำมาจากรุ่นที่ใช้แข่งขัน คือ ฝากระโปรงรถที่สามารถถอดเก็บได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งสปอยเลอร์และฝากระโปรงนี้มีการใช้วัสดุผสมคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งเป็นวัสดุหลักที่ใช้ในซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล การนำอะลูมีเนียมมาใช้ร่วมกับวัสดุผสมคาร์บอนไฟเบอร์ทำให้กัลญาร์โด้รุ่นใหม่นี้มีน้ำหนักเบาเป็นอย่างยิ่ง
การนำวัสดุผสมคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้ในการผลิตเพื่อให้รถมีน้ำหนักเบา
น้ำหนักสุทธิของกัลญาร์โด้ แอลพี 570-4 ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเลอยู่ที่ 1340 กิโลกรัม ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่ารุ่น กัลญาร์โด้ แอลพี 560-4 อยู่ 70 กิโลกรัม ส่งผลให้ กัลญาร์โด้ แอลพี 570-4 ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล มีอัตราน้ำหนักต่อกำลังของรถคือ 2.35 กิโลกรัม/แรงม้า โดยมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 3.4 วินาที ทำความเร็วแตะระดับ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายในเวลา 10.4 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดที่ 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง
สีแดง “รอสโซ มาร์ส” (Rosso Mars) แสดงถึงวัฒนธรรมการแข่งรถของอิตาลี
กัลญาร์โด้ ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล เป็นรถสปอร์ตรุ่นล่าสุดที่ใช้สี “รอสโซ มาร์ส” (Rosso Mars) เพื่อเน้นย้ำสายสัมพันธ์ของประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในสนามแข่งกับความเป็นอิตาลีอย่างแท้จริงของแลมบอร์กินี โดยสีแดง “รอสโซ มาร์ส” เป็นสัญลักษณ์ของประเพณีการแข่งรถจากชาติอิตาลี ซึ่งถือกำเนิดตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ผ่านมาในกีฬาแข่งรถ
โดยผู้แข่งขันจากชาติต่างๆได้ลงสีที่แสดงถึงชาติในรถแข่งของตน สีเขียวเข้มนั้นเป็นของสหราชอาณาจักร, สีน้ำเงินสำหรับประเทศฝรั่งเศส, สีขาว (ต่อมาเป็นสีเงิน) สำหรับประเทศเยอรมัน, ลายขาวน้ำเงินสำหรับสหรัฐอเมริกา และสีแดงสำหรับรถแข่งทุกขันที่มาจากอิตาลี
การตกแต่งภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์
การตกแต่งภายนอกของกัลญาร์โด้ แอลพี 570-4 ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล ใช้สปอยเลอร์หลัง ฝากระโปรง และท่อไอเสียหน้าเป็นสีดำด้าน ตัดกับสีแดง“รอสโซ มาร์ส” (Rosso Mars)ของตัวรถ ล้ออัลลอยเป็นสีดำวาว ที่มาพร้อมคาลิปเปอร์เบรคทำจากวัสดุผสมคาร์บอนเซรามิคสีแดง โดยเป็นการใช้คาลิปเปอร์เบรคสีแดงเป็นครั้งแรกของแลมบอร์กินี
นอกจากนั้นแล้วยังมีการใช้วัสดุผสมคาร์บอนไฟเบอร์กัสีดำความวาวสูงกับแผงรีดลม ลิ้นต่อกันชนหลังและกระจกมองข้างอีกด้วย ซึ่งสีที่นำมาใช้ในการตกแต่งภายนอกถือว่าลงตัวและตรงกับคอนเซ็ปต์ของการเป็นรถแข่งเป็นอย่างยิ่ง นอกเหนือจากนี้ กัลญาร์โด้ แอลพี 570-4 ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล ยังสามารถทำตามความต้องการให้การตกแต่งภายนอกคล้ายกับรุ่น “กลิจิโอ เทเลสโท” หรือ “เบียงโค โมโนเซอรอส” สามารถเลือกหลังคาเป็นสีดำได้อีกด้วย
การตกแต่งภายในรูปแบบสปอร์ต
การตกแต่งภายในของ ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล นั้นมีการผสมผสานกันระหว่างสีดำและสีแดงได้อย่างลงตัว ภายในส่วนใหญ่ได้รับการตกแต่งให้ดูเป็นรถในสไตล์เรซซิ่ง โดยวัสดุหลักที่ใช้คืออัลคันทาร่ามีการใช้สีแดง “รอสโซ มาร์ส” (Rosso Mars) บริเวณส่วนใต้แผงควบคุม แถบกลางของที่นั่งและพนัก รวมถึงส่วนที่เป็นคาร์บอนไฟเบอร์ด้วย นอกจากนั้นมีการใช้อัลคันทาร่าสีดำขอบแดงในส่วนอื่นๆของตัวรถ โดยพวงมาลัยหุ้มหนังกลับสีดำริมแดง รวมถึงบริเวณแผงประตู, บริเวณคอนโซลส่วนกลาง และบริเวณที่นั่งทั้งหมดทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ โดยทุกชิ้นส่วนผ่านกรรมวิธีการผลิตรถยนต์ที่การรับการยอมรับในระดับโลกของแลมบอร์กินี
นอกเหนือจากนี้ ลูกค้าสามารถเลือกอุปกรณ์ที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ เช่น บริเวณเบรคมือ, บริเวณคอนโซลส่วนกลาง, บริเวณขอบล้อรถ, การตกแต่งบริเวณรอบแผงอุปกรณ์, ที่จับประตู และที่จับสำหรับเปิดลิ้นชัก โดยสามารถแจ้งความจำนงค์เพื่อสั่งผลิตได้ตามต้องการ
ความมหัศจรรย์ของเครื่องยนต์
ด้านขุมพลังของเจ้า ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล เหมือนที่ใช้กับ กัลญาร์โด้ ซูเปอร์เรจเจรา เป็นเครื่องยนต์ V10 570 แรงม้าเท่ากับ 419 กิโลวัตต์ ที่ 8,000 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 540 กก.-ม. ที่ 6500 รอบต่อนาที ซึ่งให้เสียงเครื่องยนต์แบบเดียวกับที่ได้ยินจากในสนามแข่งรถ
การเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติมาตรฐานรถแข่ง ในแลมบอร์กินี บลองแปง ซุปเปอร์ โทรฟีโอ
เช่นเดียวกับรถที่ใช้แข่งขัน กัลญาร์โด้ ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเลได้นำเสนอเทคโนโลยีระบบ robotised sequential e-gear ขับเคลื่อนโดยเกียร์อัตโนมัติบนพวงมาลัยที่ยุบตัวได้ ด้วย เทคนิคการควบคุมระบบแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้การเปลี่ยนเกียร์นั้นเป็นไปอย่างไหลเลื่อนและรวดเร็วเกินกว่าความสามารถของมนุษย์อย่างเราจะทำได้ และสำหรับการทำอัตราเร่งสูงสุดตั้งแต่จุดสตาร์ท การเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติสามารถตั้งอยู่ในโหมด “ธรัสต์ โหมด” (Thrust Mode)โดยโปรแกรมจะทำให้เราสามารถสัมผัสประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน ด้วยการลื่นไหลของยางเพียงน้อยนิด และรอบความเร็วของเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ 5000 รอบต่อนาที
การขับเคลื่อนสี่ล้อเพื่อแรงขับเคลื่อนสูงสุดในทุกสถานการณ์
ทุกท่านจะได้รับประสบการณ์กันน่าตื่นตาตื่นใจ ในทุกๆกิโลเมตรที่ขับขี่กัลญาร์โด้ แอลพี 570-4 ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล เนื่องจากความสามารถในการยึดเกาะถนนอย่างยอดเยี่ยมในทุกเส้นทาง ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่ง แลมบอร์กินี บลองแปง ซุปเปอร์ โทรฟีโอ ถือเป้นรถแข่งเพียงหนึ่งเดียวของโลกที่ใช้ระบบนี้ สำหรับเจ้ากระทิงดุ กัลญาร์โด้ ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล ได้ให้ความสำคัญกับเครื่องยนต์ซึ่งมอบความแรง เร็ว และมีการตอบสนองอย่างฉับไวถึงขีดสุด นอกจากนั้นยังคงความมั่นคง แม่นยำ และความปลอดภัยอย่างสูงสุดอีกด้วย
ระบบการสั่นสะเทือนที่ลงตัวที่สุด
สำหรับกระทิงรุ่นนี้ได้ออกแบบระบบกันสะเทือนมาจากรถที่ใช้แข่งขัน ด้วยการติดตั้งปีกอลูมิเนียมทั้งสองข้างของล้อรถ ซึ่งทำให้ความรู้สึกของผู้ขับนั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับท้องถนนเลยทีเดียว เจ้ากระทิงเปลี่ยวรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้สมรรถภาพสูงสุดของระบบไดนามิคโดยเฉพาะ
ปัจจุบันยังไม่มีกัลญาร์โด้รุ่นใดที่ถูกออกแบบมาให้มีลักษณะใกล้เคียงกับรถแข่งมากขนาดนี้มาก่อน อีกหนึ่งข้อดีของเจ้ากระทิงตัวนี้คือ ล้อขนาด 19 นิ้วที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งช่วยลดน้ำหนักจากล้อแบบธรรมดาถึง 13 กิโลกรัม ขณะที่น็อตล้อก็ผลิตจากไททาเนียม โดยจับคู่กับยางสปอร์ตของพีแรลลี่ ซีโร คอร์ซ่า
ระบบการกำราบเจ้ากระทิงดุแลมโบร์กินี กาญาร์โด แอลพี 570-4 ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล
ภายใต้ล้อขนาดใหญ่ แลมบอร์กินีได้ออกแบบเบรคมาเพื่อใช้สำหรับหยุดแรงอันมหาศาลของเครื่องยนต์อันทรงพลังนี้ โดยระบบความคุมการทรงตัว ESP มาตรฐานแลมบอร์กินี สำหรับการกำราบเจ้ากระทิงตัวนี้เป็นหน้าที่ของดิสก์เบรก 4 ล้อ โดยด้านหน้าใช้จานเบรกขนาด 365 มม. พร้อมคาลิปเปอร์ 8 สูบ หลัง 356 มม.คาลิปเปอร์ 4 สูบ พร้อมทำหน้าที่ได้เต็มประสิทธิภาพ และยังมีออปชันเป็นจานเบรกเซรามิคให้เลือกอีกด้วย โดยด้านหน้าจะมีขนาด 380 มม. และหลัง 356 มม.
ทางเลือกอื่นๆสำหรับการขับขี่
นอกเหนือจากการตกแต่งภายในได้รับการตกแต่งให้ดูเป็นรถในสไตล์เรซซิ่งโดยการใช้จานเบรกเซรามิคคาร์บอนไฟเบอร์มาเป็นส่วนประกอบแล้ว ยังประกอบด้วย เข็มขัดนิรภัยแบบ 4 จุด และเครื่องดับเพลิง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในความสะดวกสบาย ซุปเปอร์ โทรฟีโอ สตาร์เดเล ยังประกอบด้วยอุปกรณ์เนวิเกชั่นผ่านดาวเทียม, การเชื่อมต่อบูลทูช, ระบบกันขโมย และระบบยก ที่สามารถยกบริเวณเพลาหน้าของรถได้