เนื้อหาวันที่ : 2011-09-21 15:09:20 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2866 views

สมุทรสงคราม...ความสุขที่เอื้อมถึง

จังหวัดใกล้เมืองกรุงที่เพรียบพร้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้คุณได้เพลิดเพลิน เดินเล่นแบบชิล ๆ ได้ทั้งวัน

พิสิษฐ์ ช่อชิต

         การจราจรที่คับคั่งทำให้นั่งกระวนกระวายอยู่ในรถที่ติดมาเกือบสองชั่วโมงครึ่งไม่ได้ อัตราการเคลื่อนที่แบบคืบคลานอย่างนี้จะพบเห็นได้ตามเทศกาลวันหยุดติดต่อกันหลายๆ วัน โดยเฉพาะวันแรกของการหยุด จุดหมายปลายทางที่ชะอำดูท่าจะล้มเหลวเอาแบบดื้อๆ ตอนนี้ระดับอารมณ์เริ่มสูงขึ้นตามอุณหภูมิภายนอกรถ เลยหันมาเปิดวิทยุแก้เครียดเผื่อจะช่วยรักษาอุณหภูมิในใจให้เย็นลงได้บ้าง...และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น!! วิทยุติดรถเก่าๆ จะสามารถช่วยชี้ทางออกของสถานการณ์นี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ

         รายการวิทยุทำให้ต้องรีบเบี่ยงรถออกจากเส้นทางเป้าหมายคราวนี้ (ชะอำ) ความเห็นดีๆ ครั้งนี้ขอยกให้กับวิทยุติดรถ และดีเจ คลื่นวิทยุรายการหนึ่งที่พูดถึงจังหวัดบางจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ แถมสถานที่ท่องเที่ยวก็มากพอสำหรับค้างซักคืนสองคืนอย่างสบายๆ ได้แบบไม่เหนื่อยล้าจากการเดินทาง...ใช่แล้วขณะนี้รถคันดังกล่าวกำลังมุ่งหน้าสู่จังหวัดสมุทรสงคราม...นี่เอง

         ด้วยความที่จังหวัดสมุทรสงครามอยู่ใกล้เกินเหตุ การมองข้ามที่จะมาเที่ยวจังหวัดนี้เลยเกิดขึ้นได้อย่างไม่น่าแปลกใจ แต่พอลองกางแผนที่ดูจะพบว่าที่นี่แอบซุกซ่อนแหล่งท่องเที่ยวไว้หลายที่เลยทีเดียว เป้าหมายแรกของจังหวัดนี้คงต้องไปกราบนมัสการขอพรจากหลวงพ่อวัดบ้านแหลม พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเพื่อเป็นสิริมงคลก่อน จริงๆ แล้วขนาดพื้นที่ของวัดไม่ได้กว้างเท่าไหร่ แต่ผู้คนมากมายที่ศรัทธาจากทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลพากันมากราบไหว้สักการะขอพรต่างๆ นั้นเยอะมาก เยอะขนาดจุดธูปไหว้ หรือปิดทองหลวงพ่อยังต้องต่อคิวกันยาวเลยทีเดียว

         หลังจากเบียดเสียดผู้คนที่เข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อออกมานอกวัดได้สำเร็จ ก็เริ่มเดินเตร็ดเตร่ถ่ายรูปการดำเนินชีวิตของผู้คนแถวนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงสถานีรถไฟแม่กลอง แม่ค้าขายกาแฟโบราณแนะนำให้รอถ่ายรูปเวลาที่รถไฟเข้าสถานี แผงร้านค้าที่เห็นขายเรียงรายอยู่ตามนาวรางรถไฟจะพร้อมใจกันเก็บของที่ขายอย่างรวดเร็ว แนวร่มกันแดดกันฝนของเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็จะถูกหุบหรือเก็บอย่างรวดเร็วจนใครๆ ก็พากันเรียกว่าตลาดร่มหุบทั้งที่จริงควรจะเป็นตลาดแม่กลอง หลังจากเก็บรูปจนเกือบเย็น ตลาดจวนจะวายจึงรีบเดินกลับมาขึ้นรถหน้าวัดหลวงพ่อวัดบ้านแหลมเพื่อจะไปหาที่พักแถวตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำขึ้นชื่อของสมุทรสงคราม

         “ขนม...จ้า!! ขนมหวานๆ ใหม่ๆ มากมาย เลือกชม เลือกชิม ได้เลยจ้า!!” แอบขำตัวเองที่ตกใจกับเสียงที่ดังขึ้นแบบไม่ให้ซุ้มให้เสียง เพราะทันทีที่เดินชนิดตั้งหน้าตั้งตามีสติจดจ่อเพื่อแหวกฝ่าผู้คนมากมายเข้าไปภายในบริเวณตลาดน้ำอัมพวา เสียงดังพ่อค้าแม่ค้ามากมายก็ลอยออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างคึกคัก ต่างคนต่างร้องเรียกเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้แวะดูสินค้าของตนกันอย่างสับสนไปมา ไหนจะขายปลาหมึกย่าง ไหนจะผัดไทย ไหนจะผลไม้ หมี่กรอบ ฯลฯ

และที่แน่ๆ ร้านของพ่อค้าแม่ค้าที่ว่านี้ล้วนแต่นั่งอยู่ในเรือลอยลำอยู่ริมคลองทั้งสิ้น การหาที่พักช่วงนี้ถือว่ายากมากเพราะเราไม่ได้โทรจองล่วงหน้าแถมเป็นวันหยุดติดกันหลายวัน เลยไปได้ที่พักไกลจากตัวตลาดน้ำนิดหน่อย เป็นที่พักคล้ายกับโฮมสเตย์

         ช่วงใกล้ค่ำหลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จ ได้กลับไปเดินเล่นที่ตลาดน้ำอีกครั้ง บรรยากาศยังคงคึกคักเหมือนเดิม แต่เรือของพ่อค้าแม่ค้าเริ่มลดจำนวนลงไปบ้าง ตรงกันข้ามกับบนฝั่งร้านค้ามากมายเริ่มทยอยเปิดไฟมากขึ้นกว่าตอนกลางวัน ทำให้เห็นถึงความแตกต่างของตลาดอัมพวาช่วงกลางวันและค่ำ เที่ยวเดินถ่ายรูปกับซื้อของกินจนอิ่มท้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงค่อยกลับไปพัก

         บรรยากาศตอนเช้าที่นี่เงียบสงบ พอมองเห็นหมอกบางๆ เป็นไอลอยต่ำปกคลุมลำคลองอยู่บ้าง วิถีชีวิตของชาวบ้านระแวกนี้ยังคงดำเนินไปแบบเดิมๆ อยู่ค่อนข้างมาก ไหนๆ ก็ตื่นเช้าแล้วทำให้มีโอกาสได้ใส่บาตรพระที่พายเรือมารับบาตรตอนเช้าๆ (เสียดายลืมถ่ายรูป) หลังเก็บของออกจากที่พักแล้วเจ้าของยังได้แนะนำให้ไปเที่ยว อุทยาน ร.2 ที่อยู่ติดๆ กับตลาดน้ำ ทำให้ต้องกลับไปจอดรถแถวตลาดน้ำอัมพวาอีกครั้ง เพื่อเดินชมตลาดช่วงเช้า และหาซื้อของฝากอีกครั้ง

         เดินถ่ายรูปวนไปวนมาอยู่ที่ตลาดน้ำซักพักก่อนจะเดินไปทางวัดอัมพวันเจติยารามที่อยู่ใกล้ๆ กัน ไหว้พระประธานที่วัดเสร็จจึงค่อยไปต่อที่ อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (อุทยาน ร.2) ที่อยู่ติดกันกับวัด

         เดิมทีพื้นที่ของอุทยานก็เป็นพื้นของวัดอัมพวันเจติยาราม แต่พระราชสมุทรเมธี เจ้าอาวาสวัดอัมพวันเจติยารามเป็นผู้น้อมเกล้าฯ ถวาย พื้นที่ประมาณ 11 ไร่ ซึ่งพื้นที่มีความสำคัญตรงที่ เป็นสถานที่พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) และได้พัฒนามาเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ของมูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้พระราชทาน ศิลปวัฒนธรรมอันงดงามไว้ เป็นมรดกแก่ชาติ จนได้รับยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกจาก องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)

         ภายในอุทยานฯ สวยงามร่มรื่นไปด้วยดอกไม้ ต้นไม้นานาพันธุ์ ประกอบกับอาคารทรงไทยจำนวน ห้าหลัง อาคารซ้อมโขน และอาคารเก็บเครื่องดนตรี ฯ แน่นอนว่าเผลอเดินถ่ายรูปจนลืมดูเวลากันเลยทีเดียว จากพื้นที่ทั้งหมดหกส่วน ทำให้การเดินเก็บรูปคราวนี้ค่อนข้างจะมากมายหลากหลาย แต่จะให้สรุปเป็นจุดสำคัญๆ ได้แก่ พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย, เรือนไทยทั้งห้าหลัง, โรงละครกลางแจ้ง, รูปปั้นตัวละครในวรรณคดี, เรือประพาสอุทยาน และสวนเกษตรตามพระราชดำริ แน่นอนว่าการเที่ยวชมอุทยานคราวนี้คงจะบรรยายให้หมดภายในหน้ากระดาษนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน

         ก่อนลาจากสมุทรสงครามกลับกรุงเทพคราวนี้ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองพลาดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ แบบผ่านไปผ่านมาอยู่หลายปีได้ยังไง นี่หากตั้งใจมาเที่ยวที่สมุทรสงครามมากกว่านี้จะพบว่ายังมีที่ท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้กล่าวถึงอีกมากมาย   หลังจากชาร์ตพลังจากที่นี่ไปแบบเต็มเปี่ยม ได้แต่หวังว่าจะมีโอกาสแวะเวียนกลับมาเยี่ยมเยือนอีกแน่นอน...ขอขอบคุณ วิทยุติดรถเก่าๆ และคุณดีเจคนนั้น...อีกครั้ง

การเดินทาง
- สถานที่ตั้ง : จังหวัดสมุทรสงคราม
- อัตราค่าเข้าชมอุทยาน ร.2 : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 5 บาท
- เวลาปิด - เปิด : 09.00 - 18.00 น.
- เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ : 034-751-666

- การเดินทาง : รถส่วนตัว ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (สายธนบุรี-ปากท่อ) ถึงกิโลเมตรที่ 63 เข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม กิโลเมตรที่ 36-37 มีทางแยกซ้ายไปอุทยานฯ เข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร

รถโดยสายประจำทาง :  จากสถานีขนส่งสายใต้ รถสาย 996 กรุงเทฯ-ดำเนินฯ เป็นรถปรับอากาศ ผ่านจังหวัดจังหวัดสมุทรสงครามถึงตลาดน้ำอัมพวา เดินผ่านตลาด ผ่านวัดอัมพวันเจติยาราม ถึงอุทยาน

www.maeklongtoday.com

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก Add Free Magazine